ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย...สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=25&t=41754 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 13 เม.ย. 2012, 11:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย...สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ |
![]() น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย...เจ้าฟ้าผู้ทรงธรรม สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ประสูติเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2468 ทรงเป็นพระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 กับพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สิ้นพระชนม์ด้วยพระอาการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 สิริพระชันษา 85 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สำนักพระราชวังจัดการพระศพ ถวายพระเกียรติยศสูงสุดตามโบราณราชประเพณี ประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาทในราชสำนักไว้ทุกข์ถวายมีกำหนด 100 วัน ตั้งแต่วันสิ้นพระชนม์เป็นต้นไป ครั้นถึงอวสานแห่งการพระราชกุศลพระศพ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญพระศพออกสู่พระเมรุ ท้องสนามหลวง พระราชทานเพลิงพระศพในวันที่ 9 เมษายน 2555 ถวายพระเกียรติยศสูงสุดตามที่ทรงดำรงอยู่ทุกประการ ![]() ![]() ![]() สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ทรงเลื่อมใสในพระบวรพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ทรงปฏิบัติพระองค์ตามหลักธรรมอย่างเคร่งครัด พระธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงพระหฤทัยอยู่ตลอดพระชนมชีพ ทรงบูชาพระรัตนตรัยด้วยดอกไม้ธูปเทียน และทรงสวดมนต์ทุกวัน โปรดสดับพระพุทธมนต์ สดับพระธรรมเทศนา ทรงอ่านหนังสือธรรมะและทรงศึกษาธรรมะ ได้เคยเสด็จไปทรงศึกษาธรรมะกับสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ วัดบวรนิเวศวิหาร นานนับปี และทรงศึกษาพระอภิธรรมอย่างจริงจัง ทรงแจ่มแจ้งในหลักธรรมอย่างลึกซึ้ง และมีพระโอวาทสั่งสอนเตือนสติข้าราชบริพารอยู่เสมอ เช่น ครั้งหนึ่งเคยรับสั่งสอนธรรมะด้วยอุปมาโวหาร กับข้าราชบริพารซึ่งเป็นคนโมโหง่าย ว่า “โทสะนั้นเหมือนไฟ เช่นตะเกียงที่จุดไฟ ถ้ารุนแรงขึ้นเมื่อใดก็ให้ระงับเสีย เหมือนเราดับตะเกียง คือค่อยๆ หรี่ตะเกียงลง แล้วโทสะก็จะดับหายไปเอง” แต่ละปี สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ จะเสด็จไปถวายผ้าพระกฐินยังพระอารามต่างๆ ทั้งแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และของส่วนพระองค์เป็นประจำทุกปี ทั้งยังเสด็จไปในการเททองหล่อพระพุทธปฏิมา พิธีพุทธาภิเษก การตัดลูกนิมิต ยกช่อฟ้าสมโภชพระอาราม ตามคำกราบทูลเชิญ เป็นประจำ ทรงมีพระศรัทธาปสาทะพระราชทานเงินบำรุงวัดและองค์กรทางพระพุทธศาสนา ทรงอุปการะกิจการอันเนื่องในพระพุทธศาสนาเสมอมามิได้ขาด และทรงรับองค์กรมูลนิธิต่างๆ อันมีวัตถุประสงค์ทางพระพุทธศาสนาไว้ในพระอุปถัมภ์ ด้วยพระทัยศรัทธา เมื่อถึงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ก็โปรดทรงบาตร และเสด็จไปทรงบำเพ็ญพระกุศลทรงเวียนเทียน ณ พระอารามต่างๆ เช่น วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม เป็นต้น ![]() ![]() ![]() สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ทรงมีพระดำรัสพระราชทานในงานฉลองพระชนมายุ 61 พรรษา พ.ศ. 2529 ณ วชิราวุธวิทยาลัย ความว่า “ฉันขอกล่าวต่อท่านทั้งปวงว่า จะพยายามบำเพ็ญตนเพื่อประโยชน์แก่บ้านเมือง ด้วยความจงรักภักดีต่อบ้านเกิดและต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นพระประมุขของชาติ ทั้งจะได้รักษาเกียรติศักดิ์แห่งความเป็นราชนารีในมหาจักรีบรมราชวงศ์ไว้จนชั่วชีวิต” ![]() พระเมรุ พระเมรุ เป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ยอดทรงมณฑปแปลง มีมุขยื่นทั้งสี่ด้าน สร้างขึ้นบนฐานชาลาใหญ่ ความสูงถึงยอดฉัตร 35.59 เมตร มุขหน้าด้านทิศตะวันตกเป็นทางเสด็จพระราชดำเนิน มุขด้านทิศเหนือมีสะพานเกรินสำหรับอัญเชิญพระโกศขึ้นประดิษฐานเหนือพระจิตกาธานภายในพระเมรุ มุขหลังด้านทิศตะวันออกเป็นพื้นที่วางเตาเผาพระศพ บริเวณฐานชาลาทุกด้าน มีบันไดทางขึ้นลง รายล้อมด้วยรั้วราชวัติ ฉัตร โคม และเทวดาอัญเชิญฉัตรประกอบพระอิสริยยศ เครื่องยอดพระเมรุนี้ ประกอบด้วยชั้นเชิงกลอน 5 ชั้น กึ่งกลางของเชิงกลอนแต่ละชั้นมีซุ้มบันแถลงซ้อนสองชั้น ที่มุมหลังคามีนาคปัก ส่วนบนเป็นองค์ระฆังรับบัลลังก์ เหนือบัลลังก์เป็นชุดบัวกลุ่ม 5 ชั้น ปลียอดแบ่งเป็นสองส่วนคั่นด้วยลูกแก้ว ที่ยอดบนสุดประดิษฐานสัปตปฎลเศวตฉัตร (ฉัตร 7 ชั้น) ภายในพระเมรุตั้งพระจิตกาธาน ประดิษฐานพระโกศไม้จันทน์ การตกแต่งพระเมรุ ใช้งานศิลปกรรมแบบซ้อนไม้ทดแทนการแกะสลักไม้จริง เป็นลักษณะพิเศษที่ใช้ในงานพระเมรุ อันถือเป็นงานลำลองสำหรับอาคารใช้งานชั่วคราว งานพระเมรุครั้งนี้ มีแนวคิดที่ลดการใช้ไม้ซึ่งเป็นวัสดุหายาก จึงเสริมบางส่วนที่เป็นงานซ้อนไม้ด้วยวิธีการหล่อด้วยไฟเบอร์กลาส การประดับตกแต่งส่วนอื่นๆ ใช้การปิดผ้าทองย่นสาบกระดาษสีแทนการปิดทองประดับกระจก ![]() พระโกศจันทน์ พระโกศจันทน์ พระโกศจันทน์ มีโครงภายในเป็นเหล็กไร้สนิมและกรุด้วยลวดตาข่าย ใช้ไม้จันทน์ฉลุตกแต่งลวดลายขนาดใหญ่น้อยให้ได้สัดส่วนที่งดงาม ขัดแต่งผิวลับคมและเสี้ยนให้เรียบ นำลายแต่ละชิ้นมาจัดดอกตามชุด โดยแยกสีเนื้อไม้อ่อนแก่มาประกอบกันเพื่อให้เกิดมิติที่สวยงาม ประกอบด้วยลายกระจัง ลายหน้ากระดาน ลายท้องไม้ ลายเส้นลวด ลายบัวกลีบขนุน ลายเฟื่อง ลายอุบะ ลายบัวคว่ำ บัวหงาย กระจังปฏิญาณ ลายยอดกลีบพระโกศ ดอกไม้ไหว ดอกไม้เอว ทั้งหมด 57 ลักษณะลาย มีชิ้นส่วนลวดลายจำนวนทั้งสิ้น 8,320 ชิ้น สูง 203 เซนติเมตร ฐานกว้าง 50 เซนติเมตร ![]() พระโกศพระอัฐิ (ทองคำลงยา) พระโกศพระอัฐิ (ทองคำลงยา) ชั้นในเป็นถ้ำศิลาทรงพระอัฐิและทำจากหินอ่อนกลึงกลม พระโกศภายนอกทำจากแผ่นทองสลักดุนลาย ลงยาสี ประดับพลอย ประดับด้วยเฟื่องดอกไม้ไหว ดอกไม้เอว และยอดพุ่ม ยอดพระโกศเป็นสุวรรณฉัตรเจ็ดชั้น (ขณะอัญเชิญอยู่ในพระราชพิธี) และแบบพุ่มข้าวบิณฑ์เงินประดับพลอย (ขณะประดิษฐานในพระวิมาน) พร้อมแป้นไม้กลึงปิดทองสำหรับรองรับฝาพระโกศ และฐานไม้กลึงปิดทองสำหรับรองรับยอดพระโกศพุ่มข้าวบิณฑ์หรือสุวรรณฉัตรเมื่อมีการถอดผลัดเปลี่ยนกัน ![]() ![]() ![]() ![]() ฉากบังเพลิงชั้นนอก ฉากบังเพลิงชั้นนอก ฉากบังเพลิงชั้นนอกด้านหน้า เป็นภาพเทวดายืนพนมมือไหว้บนแท่น เครื่องแต่งกาย เครื่องทรงคล้ายการแต่งกายละคร เครื่องประดับตกแต่งร่างกายเป็นพวงมาลัยดอกไม้ ตอนบนของภาพเทวดามีซุ้มลอย โดยใช้ต้นแบบความคิดมาจากภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระวิหารหลวง วัดพระปฐมเจดีย์วรวิหาร จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นภาพจิตรกรรมในสมัยรัชกาลที่ 6 ตามแนวความคิดของสถาปนิกผู้ออกแบบพระเมรุฯ (พลอากาศตรีอาวุธ เงินชูกลิ่น) แต่ละด้านจะมีภาพเทวดาด้านละ 4 องค์ ติดตั้ง 4 ทิศ ของพระเมรุฯ รวมทั้งหมด 16 องค์ ลายกรอบตอนล่าง ออกแบบเป็นลวดลายดอกไม้ประดิษฐ์ อยู่ในโครงสร้างรูปดอกบัวตูม 3 ดอก หรือรูปทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ มีนัยหมายถึง ดอกบัวสำหรับสักการบูชาพระเจดีย์จุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีทั้งหมด 16 ชิ้น ![]() ฉากบังเพลิงชั้นนอก ด้านหลัง ฉากบังเพลิงชั้นนอก ด้านหลัง เป็นภาพลายเถากุหลาบ ซึ่งเป็นดอกไม้ที่สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ทรงโปรดทั้งกรอบใหญ่และเล็ก ใช้ลายกุหลาบเป็นชุดเดียวกัน รวมทั้งหมด 32 ชิ้น ![]() ฉากบังเพลิงชั้นใน ด้านหน้า ฉากบังเพลิงชั้นใน ด้านหน้า เป็นภาพเทวดาเหาะพนมมือไหว้บนก้อนเมฆ มีขนาดตัวภาพแตกต่างกันตามระยะ เพื่อให้เกิดมิติใกล้ไกล โดยใช้ต้นแบบความคิดเทวดาเหาะจากภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระวิหารหลวง วัดพระปฐมเจดีย์วรวิหาร จังหวัดนครปฐมเช่นเดียวกัน ลายกรอบตอนล่าง เป็นลวดลายเทพพนมประกอบลายดอกกุหลาบอยู่ในโครงสร้างรูปดอกบัวตูม 3 ดอก หรือรูปทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ มีนัยหมายถึง หมู่เทพบนสรวงสวรรค์เฝ้ารับเสด็จกลับสู่สรวงสวรรค์ ![]() ฉากบังเพลิงชั้นใน ด้านหลัง ฉากบังเพลิงชั้นใน ด้านหลัง เป็นดอกไม้ร่วงลายดอกกุหลาบ ด้านหลังนี้จะติดตั้งใกล้กับฉากบังเตาที่ไม่ปรากฏแก่สายตาของบุคคลทั่วไป ![]() ![]() ศิลปกรรมรอบพระเมรุ ศิลปกรรมรอบพระเมรุ เทวดาประดับรอบพระเมรุครั้งนี้มีจำนวน 30 องค์ แบ่งเป็นเทวดานั่งถือโคม 14 องค์ เทวดานั่งถือบังแทรก 6 องค์ เทวดายืนถือโคม 2 องค์ เทวดายืนถือฉัตรผ้า 8 องค์ สัตว์หิมพานต์ประดับพระเมรุในครั้งนี้ จะมีขนาดเล็กลงกว่าครั้งที่ผ่านมา แต่ละตัวจะสูงไม่เกิน 40 เซนติเมตร มีจำนวนทั้งสิ้น 160 ตัว ติดตั้งอยู่บริเวณเขามอหรือภูเขาหินที่จำลองเป็นป่าหิมพานต์ โดยรอบฐานพระเมรุ ครั้งนี้จะจัดสร้างด้วยเทคนิคการปั้นปูนสด มีสัตว์หิมพานต์นานาชนิด ทั้งสัตว์น้ำ สัตว์บก สัตว์ปีก เช่น นรปักษาไกรสร คชปักษ์สินธุ์ สินธพกุญชร คชสีห์ มังกรสกุณี เหมราอัสดร พยัคฆ์ไกรสร ฯลฯ พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี วันที่ 9 เมษายน พุทธศักราช 2555 • คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบเรื่องการกำหนดวันหยุดและการไว้ทุกข์งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินิเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โดยกำหนดให้วันที่ 9 เมษายน 2555 เป็นวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษ และในห้วงวันพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ ให้ทุกหน่วยงานลดธงครึ่งเสา พร้อมทั้งให้ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ไว้ทุกข์ ระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน 2555 รวม 3 วัน และขอความร่วมมือสถานบริการต่างๆ ให้งดหรือลดการแสดงเพื่อความบันเทิง ส่วนสถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุ วิทยุชุมชน เสียงตามสาย หอกระจายข่าว และสถานีเคเบิลทีวี ขอให้ควบคุมรายการที่ออกอากาศให้มีความเหมาะสม • กรมการศาสนาได้นิมนต์ สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พรหมคุตโต) รักษาการเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต วัดบวรนิเวศวิหาร ปฏิบัติหน้าที่ในการอ่านพระอภิธรรมบนเสลี่ยงกลีบบัวและราชรถน้อย นำริ้วบวนพระอิสริยยศ ในการเคลื่อนริ้วขบวนพระศพ สู่พระเมรุ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง • กรุงเทพมหานครได้จัดซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง 5 ซุ้ม ได้แก่ ซุ้มฝั่งทิศเหนือ 3 ซุ้ม ท่าช้าง 1 ซุ้ม ฝั่งตรงข้ามพระแม่ธรณีบีบมวยผม 1 ซุ้ม รวมทั้งพื้นที่วัด 46 วัด ในเขตกรุงเทพมหานคร สำหรับพิธีถวายดอกไม้จันทน์ เวลา 16.00 น. • กระทรวงมหาดไทยได้จัดพื้นที่วัด 878 วัด ใน 76 จังหวัด สำหรับพิธีถวายดอกไม้จันทน์ โดยให้มีการจัดซุ้มดอกไม้จันทน์ ประดับพระฉายาลักษณ์ พร้อมตกแต่งสถานที่ให้สวยงาม และจัดให้มีการแสดงพระธรรมเทศนา จัดแสดงมหรสพ จัดนิทรรศการฯ รวมทั้งเชิญชวนข้าราชการ และประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมในพิธี โดยได้จัดเตรียมดอกไม้จันทน์ให้จังหวัดละ 10,000 ดอก และอำเภอละ 5,000 ดอก รวมทั้งสิ้น 4,700,000 ดอก • การจัดแสดงมหรสพสมโภชถือเป็นจารีตประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา สำนักการสังคีต กรมศิลปากร จึงได้เตรียมจัดการแสดงมหรสพสมโภชงานออกพระเมรุ ใน 3 เวทีหลัก ประกอบด้วย เวทีใหญ่ บริเวณเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า มีการแสดงโขน 12 ตอน และหนังใหญ่ ซึ่งเรียกว่าเบิกหน้าพระ หรือเบิกโรงหนังใหญ่ จับลิงหัวค่ำ เวทีที่ 2 บริเวณหน้าศาลฎีกา มีการแสดง 3 ชุด ได้แก่ การแสดงหุ่นกระบอกเรื่องพระอภัยมณี ละครพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6 การแสดงละครนอกเรื่องพระสังข์ทอง และเวทีที่ 3 บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการบรรเลงดนตรีสากล ของวงซิมโฟนีออร์เคสตราแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระอุปถัมภ์ฯ วงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์ และคณะนักร้องประสานเสียงจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาสันติราษฎร์ ในพระอุปภัมภ์ฯ สำหรับการแสดงจะเริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. ของวันที่ 9 เมษายน จนถึงรุ่งเช้าของวันที่ 10 เมษายน ใช้ผู้แสดงกว่า 1,400 คน • กรมศิลปากรได้จัดพิมพ์แผ่นพับพระประวัติ พระกรณียกิจ และความรู้เกี่ยวกับพระเมรุ 2 ล้านแผ่น แจกตามซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ทั่วประเทศ รวมถึงประชาชนที่มาชมพระเมรุระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน จากนิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 136 เมษายน 2555 โดย กองบรรณาธิการ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 เมษายน 2555 15:28 น. ![]() • ๑๐ เกร็ด “เจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ” ขัตติยนารีจากฟ้า บรมมหาจักรีวงศ์ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=25&t=41718 • งานพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ขัตติยนารี http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=25&t=41682 |
เจ้าของ: | น้องพลอย [ 28 เม.ย. 2012, 16:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย...สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ |
![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |