วัดอินแปง
นครหลวงเวียงจันทน์
ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
วัดอินแปง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล
ของนครหลวงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของประเทศลาว
เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งที่มีปูชนียสถานหลายอย่างในบริเวณวัด
ได้แก่ พระพุทธรูปอินแปง, ใบเสมาหินรูปสิงห์, เสาหิน เป็นต้น
เกี่ยวกับประวัติของวัดอินแปงนั้น
ยากจะสรุปว่า วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในปีใด พ.ศ.ใดแน่
เนื่องจากมีโบราณวัตถุหลงเหลือให้เห็นหลายอย่าง
เช่น ใบเสมาหิน, เสาหิน ซึ่งแสดงถึงความเก่าแก่
ส่วนในการสร้างหรือบูรณะ
จนกลายเป็นวัดอินแปงดังเช่นปัจจุบัน
สถาปัตยกรรมที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบันนั้น
เป็นลักษณะงานศิลปะในสกุลช่าง
ช่วงสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ศตวรรษที่ ๑๖
โดยลักษณะสถาปัตยกรรมมีความคล้ายคลึงกันกับ
วัดองค์ตื้อ วัดจัน และวัดสีเมือง
ซึ่งวัดองค์ตื้อกับวัดอินแปงนั้นตั้งอยู่ติดกันเลย
สิมหรือพระอุโบสถ
พระอุโบสถ วัดอินแปง มีลักษณะทางสถาปัตยกรรม
คล้ายกันกับวัดองค์ตื้อ วัดจัน และวัดสีเมือง
กล่าวคือ ทางด้านหน้ามีลานเอนกประสงค์กว้างขวาง
เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ใช้เป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมทางศาสนา
ฐานพระอุโบสถต่ำ มีเพียงชั้นเดียวและใช้เสาแบบกลม
พระอุโบสถลักษณะอย่างนี้ เรียกว่า พุทธสีมาตัวแม่
อย่างไรก็ตาม วัดอินแปงโบราณเก่าแท้แต่แรกนั้นได้พังไปหมดแล้ว
ก็มีแต่การบูรณะต่อเนื่องมาจนถึงอย่างในปัจจุบัน
โดยเริ่มงานบูรณะมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๕๔ (ค.ศ. ๑๙๑๑) เรื่อยมา
จนช่วงหลังปี พ.ศ. ๒๕๑๓ โดยประมาณก็มีการบูรณะเพิ่มเติมอีก
การบูรณะพระอุโบสถ วัดอินแปง และการเขียนจิตรกรรมฝาผนัง
ได้มาแล้วเสร็จในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๒๓-๒๕๒๘
(ค.ศ. ๑๙๘๐-๑๙๘๕)
ลานเอนกประสงค์หน้าพระอุโบสถสำหรับใช้ประกอบศาสนากิจต่างๆ
โดยทางเข้ามีสิงห์คู่ที่เป็นของเก่าแก่อย่างหนึ่งของวัด
ลวดลายจิตรกรรมฝาผนังที่ได้รับการบูรณะจากประชาชน
เราสามารถมองเห็น พระเจ้าใหญ่อินแปง
องค์พระประธานของวัดตรงกับช่องประตูพระอุโบสถ
ภายในพระอุโบสถ
เสากลมที่ใช้ในโครงสร้างพระอุโบสถ
หอไตรประจำวัดอินแปง
ลานเอนกประสงค์ของวัดอินแปง
นครหลวงเวียงจันทน์
ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
วัดอินแปง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล
ของนครหลวงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของประเทศลาว
เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งที่มีปูชนียสถานหลายอย่างในบริเวณวัด
ได้แก่ พระพุทธรูปอินแปง, ใบเสมาหินรูปสิงห์, เสาหิน เป็นต้น
เกี่ยวกับประวัติของวัดอินแปงนั้น
ยากจะสรุปว่า วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในปีใด พ.ศ.ใดแน่
เนื่องจากมีโบราณวัตถุหลงเหลือให้เห็นหลายอย่าง
เช่น ใบเสมาหิน, เสาหิน ซึ่งแสดงถึงความเก่าแก่
ส่วนในการสร้างหรือบูรณะ
จนกลายเป็นวัดอินแปงดังเช่นปัจจุบัน
สถาปัตยกรรมที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบันนั้น
เป็นลักษณะงานศิลปะในสกุลช่าง
ช่วงสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ศตวรรษที่ ๑๖
โดยลักษณะสถาปัตยกรรมมีความคล้ายคลึงกันกับ
วัดองค์ตื้อ วัดจัน และวัดสีเมือง
ซึ่งวัดองค์ตื้อกับวัดอินแปงนั้นตั้งอยู่ติดกันเลย
สิมหรือพระอุโบสถ
พระอุโบสถ วัดอินแปง มีลักษณะทางสถาปัตยกรรม
คล้ายกันกับวัดองค์ตื้อ วัดจัน และวัดสีเมือง
กล่าวคือ ทางด้านหน้ามีลานเอนกประสงค์กว้างขวาง
เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ใช้เป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมทางศาสนา
ฐานพระอุโบสถต่ำ มีเพียงชั้นเดียวและใช้เสาแบบกลม
พระอุโบสถลักษณะอย่างนี้ เรียกว่า พุทธสีมาตัวแม่
อย่างไรก็ตาม วัดอินแปงโบราณเก่าแท้แต่แรกนั้นได้พังไปหมดแล้ว
ก็มีแต่การบูรณะต่อเนื่องมาจนถึงอย่างในปัจจุบัน
โดยเริ่มงานบูรณะมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๕๔ (ค.ศ. ๑๙๑๑) เรื่อยมา
จนช่วงหลังปี พ.ศ. ๒๕๑๓ โดยประมาณก็มีการบูรณะเพิ่มเติมอีก
การบูรณะพระอุโบสถ วัดอินแปง และการเขียนจิตรกรรมฝาผนัง
ได้มาแล้วเสร็จในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๒๓-๒๕๒๘
(ค.ศ. ๑๙๘๐-๑๙๘๕)
ลานเอนกประสงค์หน้าพระอุโบสถสำหรับใช้ประกอบศาสนากิจต่างๆ
โดยทางเข้ามีสิงห์คู่ที่เป็นของเก่าแก่อย่างหนึ่งของวัด
ลวดลายจิตรกรรมฝาผนังที่ได้รับการบูรณะจากประชาชน
เราสามารถมองเห็น พระเจ้าใหญ่อินแปง
องค์พระประธานของวัดตรงกับช่องประตูพระอุโบสถ
ภายในพระอุโบสถ
เสากลมที่ใช้ในโครงสร้างพระอุโบสถ
หอไตรประจำวัดอินแปง
ลานเอนกประสงค์ของวัดอินแปง
