ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
พระศรีสรรเพชญ์ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=44986 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 19 มี.ค. 2013, 22:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | พระศรีสรรเพชญ์ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ |
ประวัติวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ (โดยย่อ) รวบรวมจากพระนิพนธ์ของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงนิพนธ์เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๖๐ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เดิมชื่อว่า “วัดสลัก” ผู้สร้างวัดแห่งนี้ไม่ปรากฏนาม แต่สันนิษฐานว่า มีมาแต่ครั้งกรุงเก่า (กรุงศรีอยุธยา) เมื่อสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท (พระอนุชาธิราชของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑) ทรงมาพบวัดนี้แล้ว ทรงบูรณปฏิสังขรณ์ และทรงสร้างถาวรวัตถุขึ้นมาใหม่ ทรงสถาปนาวัดนี้ขึ้นเป็นพระอารามหลวงแห่งแรกในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงขอพระราชทานพระอารามจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ว่า “วัดนิพพานาราม” ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดให้ทำการสังคายนาพระไตรปิฎก ที่วัดนิพพานาราม จึงโปรดให้เปลี่ยนนามพระอารามว่า “วัดพระศรีสรรเพชญ์” ต่อมาพระองค์ทรงประชุมพระราชาคณะให้จัดการศึกษาพระปริยัติธรรม และจัดให้มีการสอบไล่พระปริยัติธรรมที่วัดแห่งนี้ จึงโปรดให้เปลี่ยนนามพระอารามอีกครั้งว่า “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ราชวรมหาวิหาร” ตามแบบอย่างครั้งกรุงเก่า เมื่อ พ.ศ ๒๓๔๖ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดให้เรียกวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ราชวรมหาวิหารว่า “วัดมหาธาตุ” ด้วยเหตุว่านามวัดดังกล่าวเป็นหลักของพระนครที่มีทุกราชาธานีในประเทศนี้ จึงควรต้องมีในพระนครอมรรัตนโกสินทร์ อีกทั้งพระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระมณฑป ซึ่งเป็นพระศรีรัตนมหาธาตุก็มีอยู่ในพระอาราม และเป็นพระอารามที่สถิตสมเด็จพระสังฆราชเหมือนวัดมหาธาตุที่กรุงเก่า จึงพระราชทานนามพระอารามแห่งนี้ใหม่ในรัชสมัยของพระองค์ว่า “วัดมหาธาตุ” ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานพระราชทรัพย์อันเป็นส่วนของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เพื่อปฏิสังขรณ์วัดมหาธาตุ จึงโปรดให้เพิ่มสร้อยนามพระอาราม เฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชว่า “วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์” |
เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 19 มี.ค. 2013, 23:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระศรีสรรเพชญ์ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ |
พระเจดีย์ทองศรีรัตนมหาธาตุ ณ พระมณฑป ถาวรวัตถุที่กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงสร้าง ๑. พระมณฑปเป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์ทองศรีรัตนมหาธาตุ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ๒. พระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระประธานนามว่า “พระศรีสรรเพชญ์” และ “พระอรหันต์ ๘ ทิศ” ๓. พระวิหาร ๔. พระระเบียงเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ๑๐๘ องค์ (มีการสร้างเสริม ๔ องค์ รวม ๑๑๒ องค์) ๕. พระปรางค์และพระเจดีย์ ๖. หอไตรกับหอระฆัง ๗. ศาลาการเปรียญ ๘. เสนาสนะ ๙. กำแพงวัด พระมณฑป ในสิ่งปลูกสร้างทั้ง ๙ อย่างที่ยังปรากฏอยู่ในปัจจุบันดังกล่าวนั้น สิ่งหนึ่งที่กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงสร้างให้เป็นสิ่งสำคัญและเป็นประธานของวัดแห่งนี้คือ “พระมณฑป” พระมณฑปทรงสร้างครอบพระเจดีย์ทองซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุดังกล่าวข้างต้นนั้น นอกจากนั้นยังมีพระพุทธที่นำมาจากเมืองเหนือ เมืองสุโขทัย เมืองสวรรคโลก เมืองพิษณุโลก เมืองลพบุรี และที่กรุงเก่า กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทนำมาประดิษฐานไว้ภายนำพระมณฑปถึง ๒๘ องค์ล้วนแต่องค์งามๆ ทั้งนั้น พระมณฑปนี้ทรงสร้างไว้ด้านทิศตะวันออกกึ่งกลางระหว่างพระอุโบสถกับพระวิหาร พระองค์ทรงเอาเครื่องไม้ที่จะทรงสร้างปราสาทในวังหน้านำมาสร้างพระมณฑป แต่มณฑปที่สร้างด้วยเครื่องไม้นั้นถูกเพลิงไห พระอุโบสถและพระวิหารก็ถูกไหม้ในครั้งนั้นด้วย พระองค์ก็ทรงให้สร้างพระมณฑปใหม่ให้เป็นหลังคาทรงโรงอย่างที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน พระมณฑปนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาตามลำดับ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ เมื่อ พ.ศ.๒๓๘๗ ทรงบูรณะวัดมหาธาตุโดยการก่ออิฐถือปูนทั้งพระอาราม ส่วนการบูรณะพระมณฑปให้รื้อเครื่องบนเปลี่ยนตัวไม้ที่ชำรุด และเปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาใหม่ ลงรักปิดทองพระเจดีย์ทอง ประดับกระจกใหม่ทั้งหลัง ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พ.ศ. ๒๔๓๙ เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สวรรคตได้ ๒ ปี พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล โปรดให้นิมนต์ “สมเด็จพระวันรัต (ฑิต อุทโย)” แต่ยังเป็นพระพิมลธรรม ถวายพระธรรมเทศนาแล้วทรงบูชากัณฑ์เทศน์ ๑,๐๐๐ ชั่ง ทรงพระราชอุทิศเพื่อปฏิสังขรณ์สิ่งสำคัญในวัดมหาธาตุ คือ พระมณฑป พระอุโบสถ และพระวิหาร ให้เปลี่ยนตัวไม้เครื่องบนที่ชำรุด เปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาใหม่ ประดับ กระจกหน้าบันใหม่ ฉาบปูนผนังใหม่เหมือนกันทุกหลังจากงบประมาณการบูรณปฏิสังขรณ์ที่ได้มาดังกล่าว จึงโปรดให้เพิ่มสร้อยนามพระอาราม เพื่อเฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชว่า “วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์” พระมณฑปนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาตามลำดับ โดยอดีตอธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุเสมอมา ด้วยการบูรณะตามสภาพของส่วนที่ทรุดโทรม ในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ ๙ พ.ศ. ๒๕๕๐ พระธรรมสุธี (พีร์ สุชาโต) อดีตอธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ พิจารณาเห็นว่าพระมณฑปทรุดโทรมมากแล้ว จึงได้เชิญชวนคณะสงฆ์วัดมหาธาตุ พร้อมทั้งอุบาสก อุบาสิกา และพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป ร่วมกันหาทุนทรัพย์ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้น เมื่อวันเสาร์ที่ ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ ตรงกับวันมาฆบูชา วันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ซึ่งเป็นการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในมงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ ๘๐ พรรษาในปีนี้อีกด้วย พระเจดีย์ทองศรีรัตนมหาธาตุ ณ พระมณฑป |
เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 19 มี.ค. 2013, 23:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระศรีสรรเพชญ์ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ |
ภายในพระอุโบสถ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ พระอุโบสถ พระอุโบสถ ที่กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงสร้างไว้นั้น ได้ถูกเพลิงไหม้ในคราวเดียวกับพระมณฑป พระองค์ทรงโปรดให้บูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ โดยขยายตัวอาคารพระอุโบสถออกถึงแนวเขตสีมาจนเกือบชิดกับพระมณฑป จึงยกสีมาขึ้นติดกับแนวผนัง ประตูติดตั้งให้เปิดออกด้านข้าง ลักษณะพระอุโบสถอย่างนี้มีเพียง ๒ แห่ง คือ วัดมหาธาตุ กับ วัดชนะสงคราม เพราะทั้ง ๒ วัดนี้กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงสร้าง ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๗ ทรงบูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ โดยรื้อเครื่องบนเปลี่ยนตัวไม้ที่ชำรุด และเปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาใหม่ เสริมผนังและเสาให้สูงขึ้นกว่าเก่า ๑ ศอก ลงรักปิดทองประดับกระจกใหม่ทั้งหลัง แต่ผนังข้างในยังไม่ได้เขียนใหม่ สิ้นรัชกาลเสียก่อน ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พ.ศ. ๒๔๓๙ เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สวรรคตได้ ๒ ปี พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล โปรดให้นิมนต์ “สมเด็จพระวันรัต (ฑิต อุทโย)” แต่ยังเป็นพระพิมลธรรม ถวายพระธรรมเทศนาแล้วทรงบูชากัณฑ์เทศน์ ๑,๐๐๐ ชั่ง ทรงพระราชอุทิศเพื่อปฏิสังขรณ์สิ่งสำคัญในวัดมหาธาตุ คือ พระมณฑป พระอุโบสถ และพระวิหาร ให้เปลี่ยนตัวไม้เครื่องบนที่ชำรุด เปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาใหม่ ประดับ กระจกหน้าบันใหม่ ฉาบปูนผนังใหม่เหมือนกันทุกหลังจากงบประมาณการบูรณปฏิสังขรณ์ที่ได้มาดังกล่าว จึงโปรดให้เพิ่มสร้อยนามพระอาราม เพื่อเฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชว่า “วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์” พระอุโบสถนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาตามลำดับ โดยอดีตอธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุเสมอมา ด้วยการบูรณะตามสภาพของส่วนที่ทรุดโทรม ในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ ๙ พ.ศ. ๒๕๔๗ พระเทพเมธี (พีร์ สุชาโต) รักษาการอธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุ ในขณะนั้น (ต่อมาได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมสุธี เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๙) พิจารณาเห็นว่าพระอุโบสถทรุดโทรมมาก จึงเชิญชวนคณะสงฆ์วัดมหาธาตุ พร้อมทั้งอุบาสก อุบาสิกา และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ร่วมกันหาทุนทรัพย์ และทำการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้น โดยรื้อเครื่องบนเปลี่ยนตัวไม้ที่ชำรุด และเปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาใหม่ รื้อปูนฉาบที่ผนังด้านนอกด้านในและเสาแล้วใช้ปูนตำฉาบใหม่ทั้งหลัง ทาสี เขียนลาย ลงรักปิดทองพื้นเพดานเครื่องบนทั้งหมด ประตูหน้าต่างเปลี่ยนเครื่องไม้ที่ชำรุดและเขียนลายใหม่ทั้งหมด ปิดทองหลวงพ่อพระศรีสรรเพชญ์และพระอรหันต์ทั้ง ๘ องค์ ชุกชี (ฐาน) พระประธานลงรักปิดทองประดับกระจกใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนพัดลมและโคมไฟเพดานทั้งหมด ติดตั้งระบบเสียงใหม่ทั้งหมด เมื่อวันเสาร์ที่ ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ นับเป็นการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ แล้วเสร็จเมื่อวัน มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๙ เป็นการร่วมเฉลิมฉลองในมงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี เมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๙ ศูนย์ศึกษาและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน นานาชาติ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ |
เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 19 มี.ค. 2013, 23:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระศรีสรรเพชญ์ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ |
พระศรีสรรเพชญ์ พระประธานในพระอุโบสถ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพมหานคร วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร เดิมเรียกว่า วัดสลัก ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ เมื่อทรงตั้งกรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี และทรงสร้างพระบรมมหาราชวังเป็นที่ประทับ และสร้างพระราชวังบวรสถานมงคลเป็นที่ประทับสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท กรมพระราชวังบวรสถานมงคล นั้น วัดสลักเป็นวัดที่อยู่กึ่งกลางระหว่างพระบรมมหาราชวัง กับพระราชวังบวรสถานมงคล สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท โปรดให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดสลัก เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๖ พร้อมกับการก่อสร้างพระราชวังบวรสถานมงคล จากนั้นทรงเปลี่ยนชื่อวัดจาก วัดสลัก เป็น วัดนิพพานาราม เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ใช้วัดนิพพานารามเป็นสถานที่สังคายนาพระไตรปิฎกใน พ.ศ. ๒๓๓๑ และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดพระศรีสรรเพชญ” และใน พ.ศ. ๒๓๔๖ พระราชทานนามใหม่ว่า วัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรมหาวิหาร ตามชื่อวัดในกรุงศรีอยุธยาที่เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช วัดมหาธาตุเป็นสถานที่ที่ใช้เป็นที่พระราชทานเพลิงพระบุพโพเจ้านายซึ่งดำรงพระเกียรติยศสูง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ใช้พื้นที่ของวัดเป็นที่สร้างเมรุพระราชทานเพลิงพระศพพระบรมวงศ์ชั้นสูง พ.ศ. ๒๔๓๙ โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในการบูรณะวัดมหาธาตุและพระราชทานนามว่า “วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์” “พระศรีสรรเพชญ” เป็นพระพุทธรูปสมัยรัตนโกสินทร์ ปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ ขนาดหน้าตักกว้าง ๕.๑๖ เมตร วัสดุก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทอง เป็นพระพุทธรูปที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท วังหน้าในรัชกาลที่ ๑ ทรงเคารพศรัทธาสูงสุด ประดิษฐานเป็นพระประธานใหญ่ในพระอุโบสถวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ได้เคยตั้งสัตยาธิษฐานขอบารมีให้ช่วยคุ้มครองจากข้าศึกในระหว่างทรงร่วมกอบกู้ชาติบ้านเมือง เมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๒ พระศรีสรรเพชญ์ เป็นพระพุทธรูปที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทให้ความเคารพศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง สันนิษฐานว่า สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท โปรดให้พระยาเทวารังสรรค์ ช่างวังหน้า เป็นผู้ปั้น “พระศรีสรรเพชญ” ขึ้นเพื่อประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดมหาธาตุ (ขณะนั้นเรียกชื่อวัดพระศรีสรรเพชญ์ คือ ในระหว่างปี พ.ศ. ๒๓๓๑-๒๓๔๖ ซึ่งเป็นยุคต้นของรัตนโกสินทร์) พร้อมกับการปฏิสังขรณ์สิ่งก่อสร้างอื่นๆ ทั่วทั้งพระอาราม ในครั้งนั้นนามของพระประธาน จึงอนุโลมตามชื่อวัดไปด้วย มีเรื่องราวบันทึกไว้ว่า เมื่อสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ใกล้สวรรคต ได้เสด็จขึ้นพระเสลี่ยงไปที่วัดมหาธาตุฯ เพื่อทรงนมัสการพระประธานในพระอุโบสถ สมเด็จพระบวรราชเจ้าฯ ทรงจบพระหัตถ์อุทิศถวายพระแสงดาบให้ทำเป็นราวเทียน โปรดให้จุดเทียนเรียงติดไว้ที่พระแสง เมื่อครั้งทรงพระประชวรในปลายสมัยของพระองค์ เพื่อเป็นพุทธบูชา ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๓๘๗ วัดชำรุดทรุดโทรมมาก พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์ทั่วทั้งพระอาราม โปรดให้เสริมส่วนสูงพระอุโบสถเพิ่มขึ้น ๑ ศอก ในการนี้ พระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นองค์พระประธานได้รับการเสริมสร้างให้ใหญ่ขึ้นตามพระอุโบสถ โดยมีพระยาชำนิรจนา เป็นผู้ปั้น ในเวลาต่อมาองค์พระพุทธรูปได้รับการปิดทองใหม่อีก ๒ ครั้ง คือ ในปี พ.ศ. ๒๔๔๕ เกิดอสุนีบาตพระอุโบสถด้านตะวันตก องค์พระประธานต้องสายฟ้าดำไปทั้งองค์ และอีกครั้งหนึ่งในปี พ.ศ. ๒๔๖๗ |
เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 21 มี.ค. 2013, 19:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระศรีสรรเพชญ์ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ |
พระศรีสักยมุนี หรือพระศรีศากยมุนี (หลวงพ่อโต) พระประธานในพระวิหารหลวง วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ กรุงเทพมหานคร พระศรีสักยมุนี หรือพระศรีศากยมุนี หรือหลวงพ่อโต ประดิษฐานเป็นพระประธา่นในพระวิหารหลวง วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่มีขนาดใหญ่องค์หนึ่ง (ไม่มีรายละเอียดขนาดหน้าตัก และความเป็นมา) สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ♡(✿◠‿◠✿)♡ กราบอนุโมทนาบุญกับกัลยาณมิตรและกัลยาณธรรมทุกท่าน ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป ธรรมรักษา เทวดาคุ้มครองนะเจ้าค่ะ ♡(✿◠‿◠✿)♡ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |