ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
หลวงพ่อใหญ่ วัดพุทธประดิษฐ์ จ.มหาสารคาม http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=41115 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 09 ก.พ. 2012, 20:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | หลวงพ่อใหญ่ วัดพุทธประดิษฐ์ จ.มหาสารคาม |
![]() ไหว้พระประธาน ๗๗ จังหวัด ![]() ![]() หลวงพ่อใหญ่ หรือ “พระใหญ่บ้านโพน” พระประธานในวิหาร วัดพุทธประดิษฐ์ หรือวัดบ้านโพน บ้านโพน ตำบลโพนทอง อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม “หลวงพ่อใหญ่” เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกองค์หนึ่ง ที่ได้รับความเชื่อถือศรัทธาจากพุทธศาสนิกชน ชาวเมืองมหาสารคาม มานานนับกว่า ๑๐๐ ปี ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในวิหาร วัดพุทธประดิษฐ์ หรือวัดบ้านโพน บ้านโพน หมู่ที่ ๑๑ ตำบลหนองซอน อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย พุทธศิลปะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักจากหินศิลาแลง มีขนาดหน้าตักกว้างเกือบ ๒ เมตร ยาว ๕๐ เมตร สูง ๒ เมตร นับว่าเป็นพระพุทธรูปโบราณที่มีขนาดใหญ่มาก ชาวบ้านจึงเรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อใหญ่” หรือ “พระครูขาใหญ่” หรือ “พระใหญ่บ้านโพน” สืบต่อกันมาจวบจนปัจจุบัน และด้วยความที่พุทธศาสนิกชนทั้งใกล้และไกล ได้ให้ความเคารพศรัทธาในองค์พระพุทธรูป หลวงพ่อใหญ่ สูงมาก ผู้ที่มาสักการบูชาจึงมักจะทำบุญปิดทององค์หลวงพ่อ จนกระทั่งในปัจจุบันไม่สามารถมองเห็นเนื้อหินศิลาแลงข้างในได้ ผศ.สมชาติ มณีโชติ รองคณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผู้เชี่ยวชาญโบราณคดี กล่าวว่า เชื้อสายดั้งเดิมของชาวไทยอีสานและชาวเมืองมหาสารคาม รกรากมาจากประเทศล้านช้าง ซึ่งมีกรุงศรีสัตนาคณหุต หรือเวียงจันทน์ เป็นราชธานี เริ่มมีการอพยพเคลื่อนย้ายตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๒๓๑ ช่วงนั้นเกิดความวุ่นวายภายในราชสำนักเวียงจันทน์ เชื้อพระวงศ์บางองค์พร้อมผู้นำทางศาสนาได้อพยพประชาชนจำนวนหนึ่ง หนีภัยการเมืองมาอยู่ที่เมืองจำปาสัก ต่อมาได้อพยพเข้ามาอยู่ที่เมืองสุวรรณภูมิ หรืออำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ในปัจจุบัน จากนั้นก็อพยพแยกย้ายกันไปหาพื้นที่ทำกิน ที่เห็นว่าอุดมสมบูรณ์ในเขตเมืองมหาสารคามปัจจุบัน และบางพื้นที่ของจังหวัดขอนแก่น และส่วนอื่นๆ ในภาคอีสาน แต่ช่วงที่มีชุมชนเกิดขึ้นหนาแน่นในภาคอีสาน จะอยู่ระหว่างรัชกาลที่ ๒ และรัชกาลที่ ๓ มีการอพยพเข้ามามากโดยเฉพาะหลังเกิดกรณีเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ ขณะนั้นไทยได้กวาดต้อนประชาชนเข้ามาตั้งบ้านเรือน ในพื้นที่ภาคอีสานจำนวนมาก บางพื้นที่ในเขตจังหวัดมหาสารคามกลายเป็นชุมชนใหญ่ระดับเมือง เช่น เมืองท่าขอนยาง ปัจจุบันคือ ตำบลท่าขอนยาง ในการอพยพเข้ามาสมัยนั้นก็จะมีบรรดาช่างที่มีฝีมือเข้ามาด้วย ภายหลังการตั้งชุมชนเป็นหมู่บ้านที่มั่นคงแล้ว ก็มีการสร้างวัดเพื่อเป็นศูนย์กลางยึดเหนี่ยวจิตใจของชุมชน และสร้างพระประธานประดิษฐานไว้ในอุโบสถ อายุการสร้างอุโบสถและอายุการสร้างพระประธานจึงใกล้เคียงกัน สำหรับหลวงพ่อใหญ่ ที่วัดพุทธประดิษฐ์ องค์นี้เช่นกัน จากพุทธศิลปะบ่งชี้ว่าเป็นการสร้างโดยช่างพื้นเมืองอิทธิพลศิลปะลาว ดูจากพระพักตร์ ใบหู และยอดเศียร อายุการสร้างไม่น่าจะเกิน ๒๐๐ ปี อยู่ช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น พระพุทธรูปลักษณะนี้จะพบเห็นอยู่หลายแห่งในภาคอีสานและทั่วไปในประเทศลาว ![]() พระครูประดิษฐ์วิริยาภรณ์ (หลวงพ่อแฉล้ม วิริโย) เจ้าอาวาสวัดพุทธประดิษฐ์ (วัดบ้านโพน) จ.มหาสารคาม พระครูประดิษฐ์วิริยาภรณ์ (หลวงพ่อแฉล้ม วิริโย) เจ้าอาวาสวัดพุทธประดิษฐ์ (วัดบ้านโพน) กล่าวว่า หลวงพ่อใหญ่จะสร้างในปีใดไม่ปรากฏ แต่คนเฒ่าคนแก่เล่ากันสืบต่อๆ มาว่า เดิมหลวงพ่อใหญ่ประดิษฐานอยู่ในวิหารหลังเล็กๆ ที่ทรุดโทรมกลางป่ารกร้าง ซึ่งเป็นบริเวณวัดบ้านโพนในปัจจุบัน บริเวณนี้มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นวัดมาก่อน เนื่องจากมีการขุดพบเสมาหินและศิลปะโบราณวัตถุหลายชิ้น ต่อมาเมื่อมีประชาชนเข้ามาตั้งบ้านเรือนในแถบนี้มากขึ้นก็กลายสภาพเป็นหมู่บ้าน จากนั้นชาวบ้านก็ได้ช่วยกันบูรณปฏิสังขรณ์วัดเก่าแห่งนี้ขึ้นใหม่ พร้อมกับสร้างวิหารให้หลวงพ่อใหญ่ นับแต่นั้นมาตราบจนปัจจุบันเป็นเวลานับร้อยปี หลวงพ่อใหญ่ได้กลายเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกองค์หนึ่ง ที่พุทธศาสนิกชนชาวมหาสารคามให้ความเคารพศรัทธามาก ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อเล่าลือกันมาก จะพัฒนาวัดพัฒนาหมู่บ้าน หรือชุมชนจะทำอะไรก็ตาม จะต้องมาจุดธูปเทียนบอกกล่าวหลวงพ่อใหญ่ก่อน งานนั้นจึงจะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี แต่หากใครผิดคำสาบานที่ให้ไว้ ไม่กลับมาขอขมาต่อหลวงพ่อจะมีอันเป็นไปทุกราย เช่น ที่วัดมีการเปิดรักษาผู้ติดยาเสพติด นอกจากจะกินสมุนไพรแล้ว ทุกคนที่เข้ารับการรักษาจะต้องสาบานต่อหน้าหลวงพ่อใหญ่ ว่าจะเลิกยาเสพติดอย่างสิ้นเชิง แต่ก็มีบางคนที่ผิดคำสาบานกลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก ก็เกิดความกระวนกระวายอยู่ไม่เป็นสุข สุดท้ายต้องกลับมาขอขมาหลวงพ่อใหญ่ อาการนั้นจึงหายไป หากใครมีเรื่องเดือดร้อนก็มาขอพรจากท่านได้ทุกเรื่อง สิ่งสักการบูชาก็เป็นดอกไม้ธูปเทียนขันธ์ ๕ ขันธ์ ๘ ก็ได้ และในรอบหนึ่งปีจะมีการทำพิธีสรงน้ำหลวงพ่อใหญ่ขึ้น การกำหนดวันหลวงพ่อใหญ่จะกำหนดเองโดยทำพิธีเซียงข้อง หากเซียงข้องบอกให้จัดวันใดก็จะจัดขึ้นในวันนั้น เชื่อว่าเป็นความประสงค์ของหลวงพ่อใหญ่ การทำพิธีเซียงข้องส่วนใหญ่จะทำปีละครั้ง แต่หากเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติในชุมชนก็จะทำพิธีเซียงข้อง เพื่อให้หลวงพ่อใหญ่ช่วยชี้แนะแก้ปัญหาให้กับชุมชนผ่านเซียงข้อง หากพุทธศาสนิกชนท่านใดผ่านเข้ามาในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม จึงไม่ควรพลาดที่จะหาโอกาสไปสักการะหลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกองค์หนึ่งของเมืองมหาสารคาม เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว เส้นทางคมนาคมสะดวก เดินทางจากตัวเมืองมหาสารคาม ถึงอำเภอกันทรวิชัยแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนมุ่งสู่อำเภอเชียงยืน ก่อนถึงอำเภอเชียงยืน ๑๐ กิโลเมตร ด้านขวามือจะมีป้ายบอกไว้ว่า “วัดบ้านโพน” เลี้ยวเข้าไปอีก ๒ กิโลเมตร จะถึงวัดหลวงพ่อใหญ่พอดี ![]() ![]() ![]() ประตูหน้าวัดพุทธประดิษฐ์ (วัดบ้านโพน) จ.มหาสารคาม ![]() กองบรรณาธิการข่าวสด สำนักพิมพ์มติชน ![]() http://www.kaentong.com/index.php?topic=1842.0 |
เจ้าของ: | daoduan [ 01 ต.ค. 2013, 10:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หลวงพ่อใหญ่ วัดพุทธประดิษฐ์ จ.มหาสารคาม |
กราบๆๆ หลวงพ่อใหญ่ หรือ “พระใหญ่บ้านโพน” วัดพุทธประดิษฐ์ จ.มหาสารคามอีกครั้งคะ ไปมาแล้วจ้า |
เจ้าของ: | Duangtip [ 17 ส.ค. 2015, 13:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หลวงพ่อใหญ่ วัดพุทธประดิษฐ์ จ.มหาสารคาม |
ความงดงามที่เป็นเอกลักษณ์ ![]() ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |