ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
พาชมวัดธรรมาราม สังฆไมตรี ศรีลังกาทวีป http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=33857 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 15 ส.ค. 2010, 15:30 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | พาชมวัดธรรมาราม สังฆไมตรี ศรีลังกาทวีป | ||
ถ้านึกถึงจังหวัดอยุธยาทุกคนคงนึกถึงการไหว้พระ 9 วัดซึ่งเป็นที่นิยมกันมาก โดยส่วนใหญ่ก็จะไม่พ้น วัดพนัญเชิง วิหารพระมงคลบพิตร วัดใหญ่ชัยมงคล วัดท่าการ้อง ซึ่งเป็นวัดที่ได้รับความนิยม แต่ในความเป็นจริงแล้วอยุธยายังมีวัดที่น่าสนใจอีกมากมาย วันนี้จะขออนุญาตมาแนะนำให้รู้จักกันสักวัดหนึ่ง
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 15 ส.ค. 2010, 15:48 ] | |||
หัวข้อกระทู้: | Re: พาชมวัดธรรมาราม สังฆไมตรี ศรีลังกาทวีป | |||
วัดธรรมาราม พระอารามเล็กๆที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา วัดที่หลายๆคนมองข้ามไปในโปรแกรมไหว้พระ 9 วัด เพราะส่วนใหญ่คนจะไปวัดท่าการ้องหรือวัดกษัตราธิราชมากกว่า โดยวัดธรรมาราม ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา อยู่ถัดจากวัดกษัตราไป 500 เมตร (ถึงก่อนวัดท่าการ้อง) ถึงจะเป็นวัดเล็กๆแต่ประวัติศาสตร์และคุณค่าวัดนี้ไม่ได้เล็กตามเลย วัดธรรมาราม เป็นวัดโบราณสร้างแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ไม่ปรากฎว่าสร้างมาแต่รัชสมัยใด ใครเป็นผู้สร้าง แต่สันนิษฐานว่าสร้างมาแล้วไม่น้อยกว่า 414 ปี โดยที่ตั้งของวัดในปัจจุบัน แต่เดิมเคยเป็นที่ตั้งค่ายของพม่าทุกครั้งที่ยกทัพเข้ามาล้อมกรุงศรีอยุธยา เพื่อใช้ควบคุมเส้นทางคมนาคมทางน้ำ เพราะเหนือวัดนี้ไปเพียงเล็กน้อยคือ บริเวณปากน้ำลพบุรีที่ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา อันเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่ง และป้องกันการเคลื่อนย้ายกำลังของไทยมาจากภายนอกเสริมกำลังในเมืองหลวงได้เป็นอย่างดี เพราะด้านหลังวัดธรรมารามเป็นทุ่งกว้างมีชื่อว่า “ทุ่งประเชต” อันเป็นหนึ่งในสามของทุ่งที่มีการสัปประยุทธกันอย่างโชกโชนระหว่างไทยกับพม่า ทุ่งทั้งสามมีนามดังนี้ คือ ทุ่งพุดเลา ทุ่งชายเคือง และทุ่งประเชต มีเส้นทางไปสุพรรณบุรีและวิเศษชัยชาญ เนื่องจากวัดตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกตรงข้ามกับพระราชวังหลวง จึงเป็นหนึ่งในสี่ของท่าเรือข้ามฟากในสมัยนั้น อันได้แก่ ท่าข้ามวัดธรรมาราม ท่าข้ามวัดกษัตราธิราช ท่าข้ามวัดราชพีร์ และท่าข้ามวัดไชยวัฒนาราม
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 15 ส.ค. 2010, 15:57 ] | |||
หัวข้อกระทู้: | Re: พาชมวัดธรรมาราม สังฆไมตรี ศรีลังกาทวีป | |||
ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก พ.ศ.2112 บุเรงนองแม่ทัพพม่า ได้กรีธาทัพมาล้อมกรุงศรีอยุธยาในแผ่นดินพระมหินทราธิราช ได้ตั้งค่ายที่วัดธรรมาราม และทำพม่าทำอุบายปล่อยเจ้าพระยาจักรี อดีตแม่ทัพไทย ซึ่งพม่าล้อมจับได้ที่ทุ่งลุ่มพลี โดยเกลี้ยกล่อมเจ้าพระยาจักรี ให้เข้ากับฝ่ายตน ด้วยการเอาลาภเข้าล่อ จนเจ้าพระยาจักรีเห็นผิดเป็นชอบยอมเป็นเครื่องมือของพม่า เมื่อปล่อยเจ้าพระยาจักรีข้ามไปเข้าเมือง โดยใช้ท่าข้ามวัดธรรมารามแล้ว พม่าก็ทำอุบายขึ้นมาอีกจับทหาร 30 คน หาว่าเป็นผู้คุมแล้วปล่อยให้เชลยหนีไปได้จึงฆ่าเสีย แล้วเสียบศีรษะ ประจานไว้ที่หน้าค่ายวัดธรรมารามแห่งนี้ อนึ่งวัดนี้ หลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าใน พ.ศ.๒๓๑๐ อันเป็นการเสียกรุงครั้งสุดท้าย พม่าได้เผาทำลายเสียสิ้นกลายเป็นวัดร้าง จนถึงรัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และพระโอรสทรงศรัทธาเสด็จมาบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ทั่วทั้งพระอาราม เมื่อการปฏิสังขรณ์เสร็จบริบูรณ์แล้ว ได้ประทานนามให้ใหม่ว่า "วัดราชธรรมาวาศวรวิหาร" มีฐานะเป็นพระอารามหลวงวัดหนึ่ง และต่อมาเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า" วัดธรรมาวาศ" จนถึงรัชกาลที่ ๔ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา และสมัยรัตนโกสินทร์ มีพระราชาคณะเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดนี้ ที่สำคัญคือ ในสมัยกรุงศรีอยุธยาในแผ่นดินสมเด็จพระบรมโกศ (พ.ศ.๒๒๗๖- พ.ศ.๒๓๐๑) มีพระราชาคณะผู้ใหญ่ดำรง ตำแหน่ง คือ ๑.พระอุบาลีมหาเถระ (มรณภาพ ณ ประเทศศรีลังกา) ๒.พระอริยมุนีมหาเถระ (มรณภาพ ณ วัดธรรมาราม) ในพ.ศ. ๒๒๙๕ ในแผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวบรมโกษ แห่งกรุงศรีอยุธยา พระองค์ได้จัดส่งพระสงฆ์ไปบรรพชาอุปสมบทแก่กุลบุตรชาวศรีลังกา ตามคำขอร้องของพระเจ้าเกียรติศิริราชสิงหะแห่งศรีลังกา (เนื่องจากขณะนั้นพระพุทธศาสนาเกิดความตกต่ำในลังกา) ซึ่งส่งราชทูตเข้ามาขอพระสงฆ์ไทยไปศรีลังกา คณะธรรมทูตไทยมีจำนวน ๒๕ รูป ประกอบด้วยพระสงฆ์ ๑๘ รูป สามเณร ๗ รูป โดยมีพระอุบาลีมหาเถระและพระอริยมุนีมหาเถระเป็นหัวหน้า ออกเดินทางโดยเรือกำปั่นฮอลันดาจากกรุงศรีอยุธยา เมื่อวันขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือนอ้าย พ.ศ.๒๒๙๕ ถึงเมืองตรินโคมาลี อันเป็นเมืองท่าอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะลังกา เมื่อวันแรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๖ โดยใช้เวลาเดินทางถึง ๕ เดือน ๔ วัน
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 15 ส.ค. 2010, 16:12 ] | |||
หัวข้อกระทู้: | Re: พาชมวัดธรรมาราม สังฆไมตรี ศรีลังกาทวีป | |||
เมื่อท่านไปถึงศรีลังกาได้พำนักอยู่ที่วัดบุปผาราม ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า “วัดมัลวัตตะ” และเป็นวัดของสังฆนายก คณะสงฆ์นิกายสยามวงศ์ คณะมัลวัตตะอยู่ตรงกันข้ามกับวัดพระเขี้ยวแก้ว ซึ่งมีทะเลสาบกั้นกลาง อยู่ในเมืองศิริวัฒนนคร ปัจจุบันคือเมืองแคนดี้ ท่านได้ให้บรรพชาอุปสมบทแก่ชาวศรีลังกาเป็นพระภิกษุ ๗๐๐ รูป เป็นสามเณร ๓,๐๐๐ รูป ในระยะ ๓ ปีที่ออกไปอยู่ในศรีลังกา คือ พ.ศ.๒๒๙๕-๒๒๙๘ รวมทั้งทำหน้าที่เผยแพร่ศาสนา สั่งสอนอบรมประชาชนทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เพื่อให้ชาวศรีลังกาดำเนินชีวิตถูกต้องตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า และท่านยังเป็นผู้ฉลาดในอุบายเครื่องแนะนำอีกด้วย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์ไว้เมื่อครั้งเสด็จไปถึงเมืองแคนดี้ ตอนหนึ่งว่า “เมื่อครั้งพระอุบาลีมหาเถระออกไปอยู่ศรีลังกานั้น ราษฎรชาวเมืองศิริวัฒนนคร นับถือพระพุทธศาสนากับศาสนาพราหมณ์ปนกันอยู่ เมื่อถึงฤดูนักขัตฤกษ์เป็นประเพณีเมือง ที่จะเชิญเทวรูปซึ่งนับถือตามลัทธิศาสนาพราหมณ์ออกแห่ปีละ ๑ ครั้ง พระอุบาลีมหาเถระถวายพระพรพระเจ้าเกียรติศิริราชสิงหะว่า พระพุทธศาสนาก็ประดิษฐานมั่นคงในศรีลังกา การแห่นั้นควรแห่ปูชนียวัตถุทางพระพุทธศาสนาด้วย พระเจ้าเกียรติศิริราชสิงหะทรงพระราชดำริเห็นชอบด้วย จึงให้เชิญพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ขึ้นบนคชาธาร (ช้าง) นำหน้าไปในกระบวนแห่ ประเพณีอันนั้นยังมีมาตราบเท่าทุกวันนี้” พระอุบาลีมหาเถระ รวมทั้งพระสงฆ์สามเณรที่ไปสืบต่อศาสนวงศ์เหล่านั้นเกิดป่วยไข้เพราะผิดอาหารบ้าง ผิดอากาศบ้าง เพราะว่าเมืองศิริวัฒนนครนั้นอยู่ในหุบเขา สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑,๖๐๒ ฟุต ปรากฏว่าพระสงฆ์มรณภาพเสีย ๑๑ รูป รวมทั้งพระอุบาลีมหาเถระด้วย สามเณรมรณภาพ ๒ รูป ในจำนวนพระสงฆ์ ๑๘ รูปเหลือกลับมาตุภูมิเพียง ๗ รูปเท่านั้น ในพ.ศ. ๒๒๙๘ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกษได้ส่งพระสงฆ์ออกไปศรีลังกาอีก ๑ ชุด เพื่อผลัดเปลี่ยนชุดแรก เพราะได้ให้สัญญากับพระสงฆ์ไว้ว่า จะให้อยู่เพียง ๓ ปี พระธรรมทูตไทยชุดที่ ๒ ประกอบด้วยพระราชาคณะ ๒ รูป คือพระวิสุทธาจารย์และพระวรญาณมุนี กับพระสงฆ์อันดับ ๒๐ รูปและสามเณร ๒๐ รูป รวม ๔๒ รูป ออกเดินทางเมื่อวันแรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๑ พ.ศ. ๒๒๙๘ แต่เรือไปเกยหินโสโครก แล้วถูกคลื่นกระแทกเสียในทะเลระหว่างเกาะลังกากับอินเดีย ทำให้พระสงฆ์มรณภาพไป ๔ รูป สามเณร ๒ รูป ประสบความลำบากแสนสาหัส กว่าจะเดินทางไปถึงเมืองศิริวัฒนนครคือเมืองแคนดี้ แต่ขณะที่พระสงฆ์คณะนี้กำลังเดินทางอยู่ในเกาะลังกานั้น พระอุบาลีมหาเถระก็มรณภาพเสียแล้วในศรีลังกานั่นเอง
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 15 ส.ค. 2010, 16:13 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: พาชมวัดธรรมาราม สังฆไมตรี ศรีลังกาทวีป | ||
พระอุบาลีมหาเถระได้รับการยกย่องนับถือจากชาวศรีลังกามาก เนื่องจากผลงานหลายประการที่ท่านได้ทำไว้ให้แก่ชาวศรีลังกานี้เอง และท่านยังได้มรณภาพในประเทศศรีลังกาเพราะการปฏิบัติกิจพระศาสนา ถ้าจะเปรียบเหมือนนักรบแล้ว ท่านก็เป็นนักรบที่ตายในสมรภูมิโดยแท้ ผู้ที่เตรียมตัวเป็นพระธรรมทูตควรศึกษาปฏิปทาของท่านไว้ เพื่อจะได้เข้าถึงเจตนารมณ์ของการเป็นพระธรรมทูตที่แท้จริง บริขารและสิ่งของที่ท่านเคยใช้สอยที่ยังเหลืออยู่ ชาวศรีลังกาก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรเคารพเช่นกันและได้เก็บรักษาไว้จนทุกวันนี้ ศพของท่านได้เผาที่วัดกิตติเก ซึ่งปัจจุบันได้ก่ออิฐล้อมสถานที่เผาศพท่านไว้ ส่วนอัฐิของท่านถูกบรรจุไว้ที่เจดีย์บนยอดเขาใกล้วัดอัสคีริยะ จึงนับว่าวัดธรรมารามนี้มีความสำคัญในการเป็นสถานที่จำพรรษาของพระราชาคณะที่ก่อคุณูปการในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในแผ่นดินลังกา
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 15 ส.ค. 2010, 16:14 ] | |||
หัวข้อกระทู้: | Re: พาชมวัดธรรมาราม สังฆไมตรี ศรีลังกาทวีป | |||
ซึ่งในปัจจุบันวัดธรรมาราม มีพื้นที่รวม 25 ไร่ แบ่งเป็น 2 เขต แบ่งเป็นสังฆาวาส 9 ไร่ อยู่ฝั่งตะวันออก ประกอบด้วยหอพระไตรปิฏก หอระฆัง กุฏิ และเขตพุทธาวาส จำนวน10 ไร่ ประกอบด้วยกำแพงแก้ว พระอุโบสถ พระวิหาร เจดีย์ทรงลังกา โดยมีพระอธิการประสาท เขมปญฺโญ เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งท่านมีความเชี่ยวชาญในการบรรยายธรรมะ และยังเป็นผู้ริเริ่มการบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะต่าง ๆ ภายในวัด นอกจากนี้ยังนำระบบ 5 ส มาใช้ในวัดด้วย ทำให้เป็นเสน่ห์อีกอย่างครับ อย่างเช่นกุฏิหลวงพ่อเล่าว่าบานประตูกุฏิทั้งหมดที่เห็นนี้ นำมาจากวัดกัลยา ธนบุรี ซึ่งทางวัดได้ทิ้งแล้วเพราะชำรุดมาก หลวงพ่อนำมาซ่อมแซม ปรับปรุงจนสามารถใช้ได้ในปัจจุบัน
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 15 ส.ค. 2010, 16:31 ] | |||
หัวข้อกระทู้: | Re: พาชมวัดธรรมาราม สังฆไมตรี ศรีลังกาทวีป | |||
ความเป็นระเบียบของวัดนี้อย่างเช่น ถ้ามีงานเลี้ยงพระยิ่งใหญ่ขนาดไหน พองานเลิกทั้งพระและเด็กวัดจะรีบช่วยกันเก็บล้างทำความสะอาด ถ้าเจ้าภาพกลับมาที่วัดอีกครั้งแม้เพียงชั่วโมงเดียวก็จะไม่พบร่องรอยของงานเลี้ยงเลย วัดนี้ทำได้ แปลกแต่จริง
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 15 ส.ค. 2010, 16:33 ] | |||
หัวข้อกระทู้: | Re: พาชมวัดธรรมาราม สังฆไมตรี ศรีลังกาทวีป | |||
ห้องน้ำไม่ได้หรูหรา แต่สะอาดมาก
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 15 ส.ค. 2010, 16:50 ] | |||
หัวข้อกระทู้: | Re: พาชมวัดธรรมาราม สังฆไมตรี ศรีลังกาทวีป | |||
ที่สำคัญวัดนี้มีพระเพียง 3 รูปเท่านั้น (ปัจจุบันมีกี่รูปไม่แน่ใจ) แต่วัดสุดแสนสะอาด มีระเบียบมากๆ ข้าวของเครื่องใช้ดูงามตาไปหมด จะหยิบจะใช้ก็หาง่าย หลวงพ่อเล่าว่ากวาดวันละ 2 ครั้งเท่านั้น ที่ดูดีคงเป็นเพราะทุกคนรับผิดชอบ รู้หน้าที่
|
เจ้าของ: | บัวลอยไข่หวาน [ 15 ส.ค. 2010, 16:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พาชมวัดธรรมาราม สังฆไมตรี ศรีลังกาทวีป |
ดังนั้นหากมีโอกาสได้มาไหว้พระที่อยุธยา ก็อยากจะฝากให้มาเยี่ยมชมวัดนี่ มาชื่นชมประวัติศาสตร์ มาชื่นชมศิลปกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย (พระเจดีย์ โบสถ์) มาสนทนาธรรมกับท่านเจ้าอาวาส (ท่านยินดีเสมอ) มาร่วมกันรื่นรมย์กับบรรยากาศสดชื่น และมาดูความเป็นระเบียบเรียบร้อยของวัด 5 ส กัน ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id ... 1&gblog=32 http://thebearwishsproject.blogspot.com ... -post.html และจากน้องเป็ดพะโล้ |
เจ้าของ: | ตักบาตรถามพระ [ 17 ส.ค. 2010, 10:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พาชมวัดธรรมาราม สังฆไมตรี ศรีลังกาทวีป |
สะอาด สงบจริงๆ ครับ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |