ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
“สุสานหลวง” วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=23275 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 25 ก.ย. 2010, 18:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | “สุสานหลวง” วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม |
สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพฯ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย เป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๕ และรัชกาลที่ ๗ แห่งบรมราชจักรีวงศ์ ซึ่งถือว่าเป็นวัดแห่งเดียวของกรุงรัตนโกสินทร์ ที่เป็นวัดประจำรัชกาลของพระมหากษัตริย์ถึง ๒ พระองค์ วัดราชบพิธฯ แบ่งเขตพื้นที่ภายในวัดออกเป็น ๓ ส่วน คือ เขตพุทธาวาส เขตสังฆาวาส และเขตสุสานหลวง เขตพุทธาวาส ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของวัด คือบริเวณที่เป็นสิ่งก่อสร้างอันเนื่องในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งอยู่บนพื้นไพทีหรือยกพื้นสูงกว่าพื้นปกติ ปูด้วยหินอ่อน เขตสังฆาวาส ตั้งอยู่ทางด้านใต้ของวัด คือบริเวณที่เป็นอาคารจำพรรษาของพระภิกษุสามเณร เขตสุสานหลวง ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของวัด เขต “สุสานหลวง” ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของวัดนั้น ติดกับถนนอัษฎางค์ ริมคลองคูเมืองเดิม โดยตั้งอยู่นอกเขตกำแพงมหาสีมาธรรมจักรของวัด แต่เดิมสุสานหลวงมีพื้นที่อาณาบริเวณกว้าง ๔ ไร่กว่า ต่อมาในสมัยการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย ทางผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์และทางกรุงเทพมหานคร ได้ตัดถนนอัษฎางค์ซึ่งกินพื้นที่สุสานหลวงไปบางส่วน จนกระทั่งปัจจุบันสุสานหลวงเหลือพื้นที่เพียง ๒ ไร่ครึ่งเท่านั้น ป้ายชื่อสุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม “สุสานหลวง” วัดราชบพิธฯ เป็นสุสานหลวงแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ผู้เป็นพระปิยมหาราชของปวงชนชาวไทย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอนุสาวรีย์ในเขตสุสานหลวงขึ้นเป็นที่บรรจุพระอัฐิ (กระดูก) และพระสรีรางคาร (เถ้ากระดูก) เพื่ออุทิศพระราชกุศลแก่พระบรมราชเทวี พระราชเทวี เจ้าจอมมารดา ตลอดจน พระราชโอรส พระราชธิดา พระราชนัดดา และพระราชปนัดดา ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยมีพระราชประสงค์จะให้ผู้ที่มีความรักใคร่ห่วงใยอย่างใกล้ชิด คือ พระบรมราชเทวี พระราชเทวี เจ้าจอมมารดา ตลอดจน พระราชโอรส พระราชธิดา พระราชนัดดา และพระราชปนัดดา ได้อยู่ร่วมกันหลังจากที่ได้ล่วงลับไปแล้ว สภาพโดยทั่วไปในสุสานหลวงจะเป็นการสร้างอนุสาวรีย์ ของพระบรมราชเทวี พระราชเทวี หรือเจ้าจอมมารดา เพื่อให้ลูกได้อยู่กับแม่ หรืออย่างน้อยในบ้านของแม่ เว้นแต่ในกรณีพระราชโอรสหรือพระราชธิดาสิ้นพระชนม์ก่อนพระมารดา ก็สร้างอนุสาวรีย์ของพระเจ้าลูกเธอพระองค์นั้นไปก่อน สุสานหลวงที่วัดราชบพิธฯ แห่งนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ เป็นแม่กองก่อสร้างขึ้นในที่รอบๆ ชานกำแพงด้านทิศตะวันตกของวัด และเมื่อพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ สิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. ๒๔๔๐ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้านิลวรรณ เป็นแม่กองก่อสร้างสืบต่อมา ทั้งนี้ มีอนุสาวรีย์บางส่วนที่พระบรมวงศานุวงศ์ทรงสร้างขึ้นในสมัยหลัง อาจกล่าวได้ว่าเป็น “สุสานหลวง” สำหรับ “จุฬาลงกรณราชสันตติวงศ์” นั่นเอง โดยตามความเชื่อแล้ว หลังจากพิธีเผาศพของผู้ตาย จะมีการนำอัฐิธาตุไปบรรจุไว้ในพระเจดีย์หรือพระสถูป ครั้นต่อมาก็พัฒนาไปสู่การบรรจุอัฐิหรืออังคาร ไว้ใต้ฐานองค์พระพุทธรูปหรือตามช่องกำแพงแก้ว ซึ่งแม้แต่พระบรมราชสรีรางคารของพระมหากษัตริย์ ก็มีการอัญเชิญไปประดิษฐานไว้ ณ พุทธบัลลังก์แห่งพระพุทธปฏิมาพระประธาน ด้วยการบรรจุอัฐิหรืออังคารไว้ตามสถานที่ดังกล่าว จะเป็นการกระทำให้บรรดาลูกหลานในวงศ์ตระกูลใช้เป็นสถานที่เคารพบูชา บริเวณสุสานหลวง ร่มรื่นไปด้วยไม้ดอกไม้ใบนานาพันธุ์ อนุสาวรีย์พระเจดีย์สีทอง ๔ องค์ มีลักษณะคล้ายกัน เรียงลำดับจากเหนือไปใต้ ได้แก่ สุนันทานุสาวรีย์, รังษีวัฒนา, เสาวภาประดิษฐาน และสุขุมาลนฤมิตร์ ซึ่งรัชกาลที่ ๕ ทรงสร้างอุทิศพระราชทานแก่พระมเหสีเทวี ๔ พระองค์ ลักษณะของสถาปัตยกรรมของอนุสาวรีย์ต่างๆ ภายในสุสานหลวงแห่งนี้ ทำเป็นรูปแบบพระเจดีย์ พระปรางค์ พระวิหาร และอาคาร เป็นต้น ทั้งที่เป็นศิลปะแบบยุโรป ศิลปะแบบขอม และศิลปะแบบไทย อันเป็นพุทธศิลปแห่งหลักแนวคิดการพัฒนาเมืองไทยให้ทัดเทียมกับอารยประเทศ บริเวณสุสานหลวงได้รับการตกแต่งซ่อมแซมดูแลอย่างดีจากสำนักพระราชวัง จึงเป็นสวนที่ร่มรื่นไปด้วยไม้ดอกไม้ใบนานาพันธุ์ หลายต้นเป็นไม้โบราณ เช่น กล้วยทอง กรรณิการ์ สารภี เข็ม ตะแบก ลั่นทม (ลีลาวดี) เป็นต้น ปัจจุบันถูกดัดแปลงให้มีลักษณะกึ่งสวนหย่อม กึ่งอนุสรณ์สถาน ในวันที่ ๒๐ กันยายน ของทุกปี “สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” (ครั้งยังมีพระชนม์ชีพอยู่) จะทรงเสด็จมาเป็นองค์ประธานในนาม ของคณะพระราชนัดดา-ปนัดดาสายสัมพันธ์ในราชกุลรัชกาลที่ ๕ ในการบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายรัชกาลที่ ๕ และรัชกาลที่ ๘ ซึ่งทั้งสองพระองค์มีวันประสูติ (วันพระราชสมภพ) ร่วมกัน การบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายรัชกาลที่ ๘ นั้น เป็นพระดำริในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ที่ทรงริเริ่มจัดถวายสังฆทานเป็นการส่วนพระองค์ในวันนี้ ทั้งนี้ พระองค์มีพระประสงค์ให้เชื้อพระวงศ์มีความรักสามัคคีกัน โดยทุกครั้งที่เสด็จมาบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย จะร่วมเสวยพระกระยาหารกับพระบรมวงศานุวงศ์เพื่อถามถึงความเป็นอยู่ และหลายครั้งมีพระดำรัสให้เชื้อพระวงศ์ช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกัน ในปัจจุบัน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงเสด็จมาเป็นองค์ประธานในนามของคณะพระราชนัดดา-ปนัดดา สายสัมพันธ์ในราชกุลรัชกาลที่ ๕ บำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายดังกล่าว ปัจจุบัน อนุสาวรีย์ต่างๆ ในสุสานหลวงมีทั้งหมด ๓๔ องค์ โดยมีการจัดตั้ง “มูลนิธิจุฬาลงกรณราชสันตติวงศ์” ขึ้นมา ให้เป็นหน่วยงานกลางคอยดูแลรักษาทำนุบำรุงสุสานหลวง ให้มีความงดงามเพื่อชนรุ่นหลังได้เข้ามาเคารพสักการะสืบต่อไป อนุสาวรีย์อนุสรณ์สถานในเขตสุสานหลวงที่โดดเด่นเป็นสง่า เป็นสถูปองค์หลักเป็นแนวประธาน คือ พระเจดีย์สีทอง ๔ องค์ (๑ องค์เล็ก กับ ๓ องค์ใหญ่) มีลักษณะคล้ายกันเรียงลำดับจากเหนือไปใต้ ได้แก่ สุนันทานุสาวรีย์, รังษีวัฒนา, เสาวภาประดิษฐาน และสุขุมาลนฤมิตร์ โดย “สุนันทานุสาวรีย์” เป็นพระเจดีย์สีทองที่มีขนาดองค์เล็กที่สุด ซึ่งรัชกาลที่ ๕ ทรงสร้างอุทิศพระราชทานแก่พระมเหสีเทวี ๔ พระองค์ อาจกล่าวได้ว่าพระเจดีย์สีทองทั้ง ๔ องค์นี้เป็นสื่อความหมายอาลัยรักนั่นเอง “เปิดพระโกศมิ่งมิตรพิศพักตร์ โศกสกลักทรวงไหม้ฤทัยหมอง สะอื้นอ้อนกรกอดพระโกศทอง ชลเนตรตกต้องพระปรางนาง” บทร้องตอนหนึ่งเมื่อครั้งเจ้าคุณพระประยุรวงศ์ (เจ้าคุณจอมมารดาแพ บุนนาค) ได้จัดให้มีการเล่นละครเรื่องลักษณวงศ์ แสดงเฉพาะหน้าพระพักตร์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ซึ่งเข้าใจว่าบทร้องนี้ไปกระทบพระราชหฤทัยจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม พระองค์จึงสั่งห้ามมิให้ร้องอีกต่อไป และต่อมาพระองค์ทรงโปรดให้ สร้างพระเจดีย์สีทอง ๔ องค์ภายในวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม นอกจากนี้ ยังมีอนุสาวรีย์ต่างๆ ในสุสานหลวงองค์อื่นๆ ที่สำคัญหลายองค์ ดังนี้ สุสานหลวงได้รับการประดับตกแต่งภูมิทัศน์เพื่องานพระราชพิธีบรรจุพระสรีรางคาร สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ณ อนุสาวรีย์อนุสรณ์สถาน “รังษีวัฒนา” (มีต่อ) |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 25 ก.ย. 2010, 18:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: “สุสานหลวง” วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม |
สุนันทานุสาวรีย์ อนุสาวรีย์อนุสรณ์สถาน “สุนันทานุเสาวรีย์” เป็นพระเจดีย์สีทอง อาคารยอดสถูปขนาดใหญ่บุด้วยโมเสคสีทอง ประตูทั้งสี่ด้านเป็นไม้ปิดทองฝังลายกระจกสี เป็นที่บรรจุพระสรีรางคาร สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพชรรัตน์ โสภางคทัศนียลักษณ์ อัครวรราชกุมารี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ใช้เวลาก่อสร้างถึง ๓ ปี จากนั้นจึงโปรดเกล้าฯ ให้นำพระสรีรางคาร ของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี และพระราชธิดา มาประดิษฐานไว้ ณ สุสานหลวงแห่งนี้ เมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๔๗ เมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี (พระนางเรือล่ม) ผู้เป็นพระมเหสีเทวีสิ้นพระชนม์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโศกเศร้าโทมนัสเป็นอย่างยิ่งถึงกับบางครั้งได้เสด็จฯ ไปทรงเปิดพระโกศ เพื่อทอดพระเนตรพระศพสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์เนืองๆ หลังจากพระราชทานเพลิงพระศพ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระเจดีย์สีทอง ๔ องค์ ในที่อุปจารชานกำแพงวัดราชบพิธฯ ด้านตะวันตก พระเจดีย์สีทององค์หนึ่งทรงพระราชกุศลพระราชทานแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระราชทานนามว่า “สุนันทานุเสาวรีย์” อนุสาวรีย์อนุสรณ์สถาน “สุนันทานุสาวรีย์” (มีต่อ) |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 25 ก.ย. 2010, 18:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: “สุสานหลวง” วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม |
รังษีวัฒนา อนุสาวรีย์อนุสรณ์สถาน “รังษีวัฒนา” เป็นพระเจดีย์สีทอง อาคารจตุรมุขยอดสถูป มีมุขกระสันเชื่อมระหว่างกัน ตรงกลางเป็นสถูปขนาดใหญ่บุด้วยโมเสคสีทอง ส่วนสถูปอีก ๓ องค์มีขนาดย่อมกว่าทาด้วยสีขาว ตั้งอยู่ท่ามกลางแมกไม้นานาพันธุ์อันสดชื่นร่มรื่น มีต้นลีลาวดี (ต้นลั่นทม) อายุกว่า ๑๐๐ ปียืนต้นอวดโฉมดอกสีขาว และมีต้นไม้พันธุ์ไทยอีกหลายต้น เช่น ต้นปีบ ต้นแก้ว เป็นต้น เป็นที่บรรจุพระอัฐิ (กระดูก) และพระสรีรางคาร (เถ้ากระดูก) - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าวิจิตรจิรประภา อดุลยาดิเรกรัตน ขัตติยราชกุมารี - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้า (ยังไม่มีพระนาม สิ้นพระชนม์เมื่อพระชนมายุ ๔ วัน) พระราชธิดาในลำดับที่ ๘๘ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ และสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า - สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าศิราภรณ์โสภณ พิมลรัตนวดี - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าสมมติวงศ์วโรทัย กรมขุนศรีธรรมราชธำรงฤทธิ์ - สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (ต้นราชสกุลมหิดล) - สมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร - สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า - “สมเด็จย่า” สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (ประดิษฐานไว้เคียงข้าง พระสรีรางคารสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก) - พระประยูรญาติแห่งราชสกุล “มหิดล” และครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑ พระสรีรางคารของ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ก็ได้อัญเชิญมาบรรจุไว้ ณ อนุสาวรีย์อนุสรณ์สถาน “รังษีวัฒนา” แห่งนี้ด้วยเช่นกัน เพื่อประทับเคียงข้างพระสรีรางคารสมเด็จพระบรมราชชนก และสมเด็จพระบรมราชชนนี อนุสาวรีย์อนุสรณ์สถาน “รังษีวัฒนา” ในเขตสุสานหลวงนั้น ภายในจะแบ่งเป็น ๒ ฝั่ง ฝั่งหนึ่งเก็บพระอัฐิ (กระดูก) ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเก็บพระสรีรางคาร (เถ้ากระดูก) ส่วนตรงกลางจะประดิษฐานพระพุทธรูปที่เป็นพระประจำพระชนมวารของแต่ละพระองค์ มีข้อน่าสังเกตว่า “พระบรมอัฐิและพระบรมราชสรีรางคาร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ ๘” นั้น ไม่ได้ประดิษฐานรวมอยู่ ณ อนุสาวรีย์อนุสรณ์สถาน “รังษีวัฒนา” แห่งนี้ด้วย เนื่องจากตอนนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ ๘ ไม่ได้ทรงประกอบการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามโบราณราชประเพณี เพิ่งจะมามีในตอนหลัง โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลปัจจุบัน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการประกาศ เฉลิมพระปรมาภิไธยสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ขึ้นเป็น “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล อดุลยเดชวิมล รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สยามินทราธิราช” รวมทั้งยังได้ถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์บางองค์ เช่น พระมหาเศวตฉัตร หรือพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ซึ่งใช้ในการกางกั้นพระบรมศพและพระบรมอัฐิ ดังนั้น พระบรมอัฐิและพระบรมราชสรีรางคาร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ ๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลปัจจุบัน ได้อัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นบรรจุไว้ ณ พระวิมานพระบรมอัฐิ หอพระธาตุมณเฑียร บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ส่วนพระบรมราชสรีรางคารนั้น ได้เสด็จพระราชดำเนินอัญเชิญ พระผอบพระบรมราชสรีรางคาร ไปยังวัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร ซึ่งถือว่าเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๘ แล้วได้อัญเชิญบรรจุลงในหีบ พร้อมทั้งเคลื่อนหีบพระบรมราชสรีรางคาร เข้าสู่พระพุทธบัลลังก์ขององค์พระพุทธปฏิมา “พระศรีศากยมุนี” พระประธานในพระวิหารหลวง วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร สำหรับ “พระสถูปเจดีย์แห่งราชสกุลมหิดล” วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้ามุขด้านทิศตะวันออกของโรงเรียนพระปริยัติธรรมนั้น เป็นที่บรรจุ (๑) พระบรมราชสรีรางคารส่วนหนึ่ง และพระตโจ (หนัง) ส่วนพระเศียร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ ๘ อัญเชิญมาบรรจุไว้เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๘ (๒) พระทนต์ของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า อัญเชิญมาบรรจุไว้เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๒ พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญมาบรรจุพร้อมกันกับ พระราชสรีรางคารของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก โดยสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวีฯ ทรงตรัสว่า “ไว้เป็นเพื่อนลูกแดง” (๓) พระราชสรีรางคารของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก อัญเชิญมาบรรจุไว้เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๒ พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ และสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ก่อนเสด็จสวรรคต พระองค์ท่านได้กราบบังคมทูลพระราชมารดา ให้บรรจุพระราชสรีรางคารส่วนหนึ่งของพระองค์ไว้ ณ พระสถูปเจดีย์แห่งราชสกุลมหิดล ของวัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร เพื่อให้หม่อมสังวาลย์ มหิดล ณ อยุธยา (สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี) ได้มีโอกาสมาถวายสักการะได้โดยสะดวก โดยไม่ต้องเข้าไปถึงหอพระธาตุมณเฑียร บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งอาจจะเป็นการลำบากสำหรับหม่อมสังวาลย์ฯ ทั้งนี้ ภายหลังจากงานพระเมรุมาศที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๒ ได้มีการสร้างพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร แล้วอัญเชิญมาประดิษฐานรวมไว้ด้วย (๔) พระอัฐิส่วนหนึ่งของพระโสณี (สะโพก) ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นพระอัฐิเมื่อคราวที่ทรงหกล้มและเสด็จเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลศิริราช อัญเชิญมาบรรจุไว้เมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๘ (๕) พระทนต์ของสมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร อัญเชิญมาบรรจุไว้เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๑ (๖) พระทนต์และพระเกศาของ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อัญเชิญมาบรรจุไว้เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๙ สำหรับพระทนต์ เป็นธรรมเนียมในเวลาถวายพระเพลิงหรือพระราชทานเพลิงพระศพ เมื่อเพลิงโทรมแล้ว เจ้าพนักงานจะอัญเชิญพระทนต์มาทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระทายาท ของพระบรมศพหรือพระศพ แล้วก็จะทรงพระราชทานเงินรางวัลแก่เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติการถวายพระเพลิงหรือพระราชทานเพลิงพระศพ โดยพระทายาทก็จะทรงเก็บรักษาพระทนต์นั้นไว้บูชาสักการะ เช่น พระทนต์ของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และสมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร ที่อัญเชิญมาบรรจุไว้ ณ พระสถูปเจดีย์แห่งราชสกุลมหิดล วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ดังนั้น พระสถูปเจดีย์แห่งราชสกุลมหิดล วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร จึงมีครบทุกพระองค์ที่ล่วงลับไปแล้วแห่งราชสกุลมหิดล ซึ่งสืบสายตรงจากสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พระบรมราชเทวีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ โดยพระองค์ทรงสร้างพระสถูปเจดีย์แห่งนี้ซึ่งมีลักษณะเป็นพระสถูปเจดีย์ครึ่งองค์ เพื่อบรรจุพระบรมอัฐิ พระอัฐิ และพระราชสรีรางคาร ของพระประยูรญาติผู้ที่สืบสายตรงแห่งราชสกุลมหิดลของพระองค์ท่าน ด้วยพระองค์ทรงมีความผูกพันกับวัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร เป็นอย่างมาก อนุสาวรีย์อนุสรณ์สถาน “รังษีวัฒนา” ระหว่างสถูปขนาดใหญ่สีทองกับสถูปสีขาวอีก ๓ องค์ มีมุขกระสันเชื่อมระหว่างกัน (มีต่อ) |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 25 ก.ย. 2010, 18:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: “สุสานหลวง” วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม |
เสาวภาประดิษฐาน อนุสาวรีย์อนุสรณ์สถาน “เสาวภาประดิษฐาน” มีลักษณะเหมือนกับอนุสาวรีย์อนุสรณ์สถาน “รังษีวัฒนา” เป็นพระเจดีย์สีทอง อาคารจตุรมุขยอดสถูป มีมุขกระสันเชื่อมระหว่างกัน ตรงกลางเป็นสถูปขนาดใหญ่บุด้วยโมเสคสีทอง ส่วนสถูปอีก ๓ องค์มีขนาดย่อมกว่าทาด้วยสีขาว เป็นที่บรรจุพระสรีรางคาร (เถ้ากระดูก) สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระราชโอรส-พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อันประสูติแต่สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมทั้งพระประยูรญาติแห่งราชสกุล “จักรพงษ์” และราชสกุล “จุฑาธุช” อาทิ - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย กรมพระเทพนารีรัตน์ (พ.ศ. ๒๔๒๑-พ.ศ. ๒๔๓๐) - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าตรีเพชรุตม์ธำรง (พ.ศ. ๒๔๒๔-พ.ศ. ๒๔๓๐) - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ (พ.ศ. ๒๔๒๘-พ.ศ. ๒๔๓๐) - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าหญิง (ยังไม่มีพระนาม วันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๓๐-สิ้นพระชนม์ในวันประสูติ) - สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ (พ.ศ. ๒๔๒๖-พ.ศ. ๒๔๖๓) - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย (พ.ศ. ๒๔๓๕-พ.ศ. ๒๔๖๖) - สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา (พ.ศ. ๒๔๓๒-พ.ศ. ๒๔๖๗) และครั้งล่าสุด เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕ พระสรีรางคารของ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี (พ.ศ. ๒๔๖๘-พ.ศ. ๒๕๕๔) พระราชธิดาเพียงพระองค์เดียว ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ กับพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ก็ได้นำมาบรรจุไว้ ณ อนุสาวรีย์อนุสรณ์สถาน “เสาวภาประดิษฐาน” แห่งนี้ด้วยเช่นกัน พร้อมทั้งจะมีการแบ่งพระสรีรางคารไปบรรจุที่องค์พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม อันเป็นที่บรรจุพระราชสรีรางคารของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี เพื่อให้สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ได้ประทับพักผ่อนเคียงข้างพระราชบิดาและพระราชมารดา ณ ที่แห่งนั้นด้วย ทั้งนี้ สาเหตุที่นำพระสรีรางคารของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ ไปประดิษฐานที่พระอนุสรณ์สถาน “เสาวภาประดิษฐาน” เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นพระราชธิดาเพียงพระองค์เดียว ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ซึ่งเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ กับสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีพระนามเดิม คือ พระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี ดังนั้น สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ จึงเป็นพระราชนัดดา คือ “หลานย่า” ของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยเหตุผลดังกล่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระสรีรางคารมาบรรจุ ณ ที่นี้ ร่วมกับเจ้านายในรัชกาลที่ ๕ สายสมเด็จพระพันปีหลวง ซึ่งมีราชสกุลจักรพงษ์ และราชสกุลจุฑาธุช เป็นต้น อนุสาวรีย์อนุสรณ์สถาน “เสาวภาประดิษฐาน” ระหว่างสถูปขนาดใหญ่สีทองกับสถูปสีขาวอีก ๓ องค์ มีมุขกระสันเชื่อมระหว่างกัน (มีต่อ) |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 04 ธ.ค. 2010, 15:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: “สุสานหลวง” วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม |
สุขุมาลนฤมิตร์ อนุสาวรีย์อนุสรณ์สถาน “สุขุมาลนฤมิตร์” พระเจดีย์สีทอง เป็นที่บรรจุพระสรีรางคาร สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต และเจ้าคุณจอมมารดาสำลี บุนนาค พร้อมทั้งพระประยูรญาติแห่งราชสกุล “บริพัตร” อนุสาวรีย์อนุสรณ์สถาน “สุขุมาลนฤมิตร์” (มีต่อ) |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 04 ธ.ค. 2010, 15:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: “สุสานหลวง” วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม |
อนุสาวรีย์พระปรางค์สามยอดแบบลพบุรี ศิลปะแบบขอม เป็นที่บรรจุพระสรีรางคาร - พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา พระอัครชายา - สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงลพบุรีราเมศร์ - พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงเฉลิมเกียรติมงคล - พระประยูรญาติแห่งราชสกุล “ยุคล” อนุสาวรีย์พระปรางค์สามยอดแบบลพบุรี (ราชสกุลยุคล) (มีต่อ) |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 04 ธ.ค. 2010, 15:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: “สุสานหลวง” วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม |
ด้านหน้า : อนุสาวรีย์เจ้าจอมมารดาตลับ (ราชสกุลรพีพัฒน์) ด้านหลัง : อนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอิศริยาภรณ์ อนุสาวรีย์เจ้าจอมมารดาตลับ เป็นที่บรรจุพระสรีรางคาร เจ้าจอมมารดาตลับ เกตุทัต และพระราชโอรส-พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เช่น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒน์ศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ผู้ได้รับพระสมญานามว่า พระบิดาและปรมาจารย์แห่งนักกฎหมายไทย พร้อมทั้งพระประยูรญาติแห่งราชสกุล “รพีพัฒน์” ด้านหน้าอนุสาวรีย์เจ้าจอมมารดาตลับ มีป้ายชื่ออันเป็นลายเซ็น ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒน์ศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ว่า รพีพัฒนศักดิ์ ติดไว้เป็นเอกลักษณ์ อนุสาวรีย์เจ้าจอมมารดาตลับ (ราชสกุลรพีพัฒน์) ตั้งอยู่ใกล้กับ อนุสาวรีย์อนุสรณ์สถาน “เสาวภาประดิษฐาน”, อนุสาวรีย์พระปรางค์สามยอดแบบลพบุรี, อนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอิศริยาภรณ์ และอนุสาวรีย์สรีรนิธาน (มีต่อ) |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 04 ธ.ค. 2010, 15:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: “สุสานหลวง” วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม |
อนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอิศริยาภรณ์ ศิลปะแบบยุโรป เป็นที่บรรจุพระสรีรางคาร พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอิศริยาภรณ์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเกสร (หม่อมราชวงศ์เกสร สนิทวงศ์) อนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอิศริยาภรณ์ (มีต่อ) |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 04 ธ.ค. 2010, 15:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: “สุสานหลวง” วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม |
อนุสาวรีย์สรีรนิธาน ลักษณะของสถาปัตยกรรมเป็น รูปโบสถ์ศิลปะแบบโกธิคของยุโรป เป็นที่บรรจุพระสรีรางคารเจ้าจอมมารดาพร้อม อิศรางกูร ณ อยุธยา ธิดาเจ้าพระยาพิษณุโลกาธิบดี (บัว) และพระราชโอรส-พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อนุสาวรีย์สรีรนิธาน มีลักษณะเป็นรูปโบสถ์ศิลปะแบบโกธิคของยุโรป (มีต่อ) |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 04 ธ.ค. 2010, 15:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: “สุสานหลวง” วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม |
- อนุสาวรีย์พระปรางค์สามยอดแบบลพบุรี - อนุสาวรีย์เจ้าจอมมารดาตลับ - อนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอิศริยาภรณ์ - อนุสาวรีย์สรีรนิธาน - อนุสาวรีย์พระปรางค์สามยอดแบบลพบุรี - อนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอิศริยาภรณ์ - อนุสาวรีย์สรีรนิธาน - อนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอิศริยาภรณ์ - อนุสาวรีย์สรีรนิธาน - อนุสรณ์สถาน “เสาวภาประดิษฐาน” - อนุสรณ์สถาน “เสาวภาประดิษฐาน” - อนุสาวรีย์เจ้าจอมมารดาตลับ - อนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอิศริยาภรณ์ - อนุสาวรีย์สรีรนิธาน (มีต่อ) |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 04 ธ.ค. 2010, 15:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: “สุสานหลวง” วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม |
- อนุสรณ์สถาน “เสาวภาประดิษฐาน” - อนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอิศริยาภรณ์ - อนุสาวรีย์เจ้าจอมมารดาตลับ - อนุสาวรีย์พระปรางค์สามยอดแบบลพบุรี - อนุสาวรีย์เจ้าจอมมารดาตลับ - อนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอิศริยาภรณ์ - อนุสาวรีย์สรีรนิธาน - อนุสาวรีย์พระปรางค์สามยอดแบบลพบุรี - อนุสรณ์สถาน “รังษีวัฒนา” (มีต่อ) |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 04 ธ.ค. 2010, 15:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: “สุสานหลวง” วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม |
อนุสาวรีย์เจ้าจอมมารดาอ่วม ลักษณะของสถาปัตยกรรมคล้ายถ้ำ เป็นที่บรรจุพระสรีรางคาร เจ้าจอมมารดาอ่วม พิศลยบุตร และพระราชโอรส คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ พร้อมทั้งพระประยูรญาติแห่งราชสกุล “กิติยากร” ทั้งนี้ ครั้งล่าสุด อังคารของหม่อมราชวงศ์อดุลยกิติ์ กิติยากร พระบิดาของพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และ อัฐิของคุณพุ่ม เจนเซ่น ก็ได้นำมาบรรจุไว้ ณ อนุสาวรีย์นี้ด้วยเช่นกัน อนุสาวรีย์เจ้าจอมมารดาอ่วม (ราชสกุลกิติยากร) (มีต่อ) |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 04 ธ.ค. 2010, 15:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: “สุสานหลวง” วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม |
อนุสาวรีย์เอิบอนุสรณ์ ๒๔๘๗ เป็นที่บรรจุพระสรีรางคาร เจ้าจอมเอิบ บุนนาค ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ (มีต่อ) |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 04 ธ.ค. 2010, 15:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: “สุสานหลวง” วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม |
อนุสาวรีย์ฉัตรชยานุสสรณ์ ๒๔๘๐ เป็นที่บรรจุพระสรีรางคาร พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน (ต้นราชสกุลฉัตรชัย) ผู้ได้รับพระสมญานามว่า พระบิดาแห่งการรถไฟไทย พระชายา พระโอรส และพระธิดา พร้อมทั้งพระประยูรญาติแห่งราชสกุล “ฉัตรชัย” อนุสาวรีย์ฉัตรชยานุสสรณ์ ๒๔๘๐ (ราชสกุลฉัตรชัย) (มีต่อ) |
เจ้าของ: | เว็บมาสเตอร์ [ 04 ธ.ค. 2010, 15:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: “สุสานหลวง” วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม |
ซ้ายมือ : อนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลวาดวรองค์ ขวามือ : อนุสาวรีย์เจ้าจอมมารดาเนื่อง (ราชสกุลรังสิต) อนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลวาดวรองค์ เป็นที่บรรจุพระสรีรางคาร พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลวาดวรองค์ พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ซึ่งประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเลื่อน นิยะวานนท์ (มีต่อ) |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |