ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
การกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=47549 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 03 เม.ย. 2014, 12:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | การกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ |
กราบเบญจางคประดิษฐ์ : การกราบอันเป็นการแสดงความเคารพ นอบน้อมต่อพระรัตนตรัย การกราบพระนั้น หากทำด้วยใจที่ประณีตและเคารพนบน้อมสูงสุดแล้ว สามารถสร้างพลังในทางกุศลและความสว่างในใจของเราได้มากกว่าที่คิดยิ่งนัก ถ้าใครเคยอ่านหนังสือ “มีชีวิตที่คิดไม่ถึง” คงจะพอจำที่คุณดังตฤณเคยเขียนได้ว่า การกราบพระปฏิมานั้น เรียกได้ว่าเป็น “โบนัส” ของเกมกรรมที่ทำแต้มบวกกันได้ง่าย ๆ เลย การกราบไหว้นั้น ถือเป็นการน้อมกายน้อมใจลงสู่อาการเคารพสูงสุด ซึ่งก็หมายความว่า การกราบแต่ละครั้ง ถ้าเราทำด้วยใจจริงแล้ว ใจเราจะไม่มีมานะ ไม่มีความถือตัวถือตน เคยอ่านผ่านตาในหนังสืออีกเล่มหนึ่งของคุณดังตฤณแล้วจำได้ติดใจว่า… จุดที่หน้าผากจรดลงแทบพื้น นั่นคือ จุดที่ทิฏฐิมานะลดลงเหลือศูนย์ ได้อ่านที่คุณดังตฤณแจกแจงแล้ว จึงเข้าใจยิ่งขึ้นว่า การที่เรายอมลงใจกราบใครได้ นั่นก็คือการยอมรับว่ามีใครบางคนเหนือกว่าเรา มีพระคุณเหนือเกล้าเหนือกระหม่อมของเรา และในขณะที่เราแสดงความเคารพสูงสุดนั้นเอง นอกจากจิตจะเป็นมหากุศลด้วยความรู้คุณ แล้ว ยังเปิดรับกระแสความศักดิ์สิทธิ์เข้ามาเป็นส่วนประกอบของรัศมีจิตอีกด้วย คือ กายยิ่งค้อมลงต่ำต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพียงใด ใจก็ยิ่งผ่องแผ้วไร้มลทินมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าบุคคลที่เรากราบ คือ “ครูที่รู้จริงที่สุดในโลก” ก็แปลว่าใจเรายอมรับบุคคลเช่นนี้ไว้เป็นครู และนั่นก็จะเป็นหลักประกันว่า แม้ตายแล้วจะต้องเกิดใหม่อีกกี่ครั้ง เราก็จะได้พบกับครูที่ดีที่สุดเช่นนี้อีกจนได้ ซึ่งบรมครูผู้รู้จริงผู้นั้น ก็หมายถึง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั่นเอง คงน่าเสียดาย ถ้าองค์พระอยู่ต่อหน้า แต่เรากราบเป็นแต่เพียงกิริยา แต่ข้างในจิตใจกลับแห้งแล้ง กราบแบบฉาบฉวย ไม่มีความประณีตนุ่มนวล และเพียงกราบตาม ๆ กันไป โดยไม่ทราบความหมายของการกราบอย่างแท้จริง การรู้อยู่ก่อนว่า บุคคลที่เรากราบนั้น ทำประโยชน์กับโลกไว้เพียงใด จึงเป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งเราได้ประโยชน์จากคำสอนของท่าน ได้มีชีวิตที่พลิกผันไปในทางที่ดีขึ้นเจริญขึ้นเท่าไหร่ การกราบนั้น ก็จะยิ่งเป็นการกราบออกมาจากใจที่เคารพนอบน้อมอย่างแท้จริง ด้วยกิริยาทางกายที่ประณีตงดงาม สอดคล้องกับความรู้สึกอันผ่องแผ้วภายในมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้แล้ว ผู้ที่มีการอภิวาทเช่นนี้เป็นนิสัย ยังมีผลให้เป็นผู้ที่ได้ไปเกิดในตระกูลสูง มีความสุข ใจไม่เร่าร้อนฟุ้งซ่านด้วยความกระด้าง และเป็นผู้ที่ไม่ถูกข่มเหงโดยง่ายอีกด้วย สิ่งที่คุณดังตฤณได้เขียนย้ำไว้สำหรับการกราบพระปฏิมาทุกครั้งก็คือ “ขอให้จำคำสำคัญนี้ไว้ดี ๆ ว่า ใจต้องนอบน้อมเคารพ ตัววัดง่าย ๆ คือกราบแล้วเกิดความรู้สึกว่าตัวคุณเล็กลง จิตใจอ่อนโยนเยือกเย็น หรือกระทั่ง เกิดความซาบซึ้งโสมนัสแบบไม่แกล้ง นั่นแหละผลของการกราบด้วยความนอบน้อมเคารพ...” ขั้นตอนการกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ ขั้นตอนการกราบมีทั้งหมด ๓ ขั้นตอนหลัก คือ อัญชลี : การพนมมือไว้ระหว่างอก วันทา : การพนมมือจรดศีรษะ อภิวาท : การก้มลงกราบ มีที่แตกต่างกัน ๒ แบบ คือ สำหรับผู้ชาย เรียกว่า ท่าเทพบุตร ผู้หญิง เรียกว่า ท่าเทพธิดา ![]() ![]() ท่านชาย ๑. นั่งชันเข่า ๒. ระหว่างเข่าห่างประมาณ ๑ ฝ่ามือ ๓. นั่งหลังตรง ท่านหญิง ๑. นั่งคุกเข่าราบ ๒. ระหว่างเข่าห่างประมาณ ๑ ฝ่ามือ ๓. นั่งหลังตรง ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ท่านชาย และท่านหญิง ๑. นำมือทั้ง ๒ มาพนมบริเวณหน้าอก ทำมุมเฉียง ๔๕ องศา ๒. มือทั้ง ๒ ข้าง อูมเพียงเล็กน้อย ไม่มากจนดูกลม หรือ แฟบจนดูแบน เป็นสัญลักษณ์ของดอกบัวที่ใช้บูชาพระ ๓. นิ้วทั้ง ๕ เรียงชิดติดกัน ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ท่านชายและท่านหญิง ๑. นำมือจรดศีรษะโดย นิ้วชี้จรดประมาณจอนผม นิ้วโป้งจรดประมาณหัวคิ้ว ๒. ถ้าเป็นฝ่ายชายตั้งตรง ฝ่ายหญิงค้อมคอลงเล็กน้อยพอประมาณ ๓. จังหวะที่ใช้ท่าวันทานี้ หากใช้ขณะสวดมนต์ จะรอจนจบบทนั้น ๆ เสร็จก่อนจึงค่อยวันทา ยกตัวอย่างเช่น เมื่อ สวดมนต์บูชาพระก็จะรอจนจบ “พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ” ก่อน จึงค่อยวันทา แล้วเข้่าสู่ขั้นตอนที่ ๔ ต่อไป ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ท่านชายและท่านหญิง ๑. กราบโดยอวัยวะทั้ง ๕ ส่วนสัมผัสกับพื้นได้แก่ ฝ่ามือทั้ง ๒ ข้อศอก ๒ หน้าผาก ๑ ๒. ความห่างระหว่างฝ่ามือทั้ง ๒ เท่ากับความกว้างของบริเวณหน้าผาก ไม่กว้าง หรือไม่แคบจนเกินไป ท่านชาย ข้อศอกต่อเข่า ท่านหญิง ข้อศอกแนบเข่า ๓. อยู่ในท่าค้างนับประมาณ ๓ วินาที จึงค่อยขึ้นมาอยู่ในท่าอัญชลีเหมือนเดิม ๔. เมื่อกราบครบ ๓ ครั้ง จึงค่อยค้อมศีรษะลงเล็กน้อยแล้วจบด้วยท่าวันทา ถือเป็นการเสร็จแบบอย่างการกราบที่สมบูรณ์ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ๑. ในขณะที่อยู่ในพิธีกรรมซึ่งเป็นการประชุมสงฆ์จำนวนมาก พระภิกษุทุกรูปต้องมีความพร้อมเพรียงกันในการกราบ เพื่อให้เป็นต้นแบบและเป็นที่ตั้งแห่งศรัทธาของสาธุชน ถือได้ว่าเป็นความรับผิดชอบของหมู่คณะ ในการกราบให้มีความพร้อมเพรียงกันได้นั้น พระเดชพระคุณพระภาวนาวิริยคุณได้เมตตาแนะนำไว้ว่า ให้ “ลืมตากราบ” “สังเกตจังหวะการกราบ” ของพระภิกษุรูปข้าง ๆ และ “กราบตามการให้สัญญาณของพิธีกร” “ไม่ควรหลับตากราบ” เพราะจะเป็นเหตุแห่งการกราบไม่พร้อมเพรียงกัน ๒. การกราบพระรัตนตรัย ๓ ครั้ง มีจุดมุ่งหมายว่า ครั้งที่ ๑ เป็นการระลึกถึงคุณของพระพุทธ ครั้งที่ ๒ เป็นการระลึกถึงคุณของพระธรรม ครั้งที่ ๓ เป็นการระลึกถึงคุณของพระสงฆ์ เรียกว่า ยิ่งกราบยิ่งมีปัญญา การกราบพระ จึงเป็นมากกว่าการเป็นแต่เพียงกิริยาทางพิธี สามารถเปลี่ยนใจอันฟุ้งซ่าน ให้สงบเยือกเย็นลงได้ และมีใจอันพร้อมที่จะน้อมรับธรรมอันตรงจากพระพุทธเจ้า ยิ่งถ้าเราเป็นผู้ไม่ละเลยคำสอนของท่าน เพียรปฏิบัติตนตามทางที่ท่านชี้แนะ จนได้ผลเป็นทุกข์ที่น้อยลง ประจักษ์แจ้งแก่ตนเองได้จริงด้วยแล้ว เราจะรู้สึกอยากกราบท่านออกมาจากใจอันเคารพนบน้อมเหนือเศียรเกล้าเลยทีเดียว ดังนั้น เมื่อรู้อย่างนี้ ทุกครั้งที่มีโอกาสได้กราบพระ อย่าลืมกราบท่านออกมาจากภายในกันนะ คิดไว้ว่า หนึ่งครั้งที่มีโอกาสได้กราบพระ คือหนึ่งโอกาสที่ได้เข้าเฝ้า และก้มกราบ องค์สมเด็จพระสัมมาพระพุทธเจ้า อยู่ต่อหน้าพระพักตร์ของพระองค์จริง ๆ เป็นมงคลง่าย ๆ ที่เริ่มต้นได้จากห้องพระในบ้าน และทุกที่อันเป็นมงคลสถานตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ขอบคุณที่มา :: http://www.santidham.com/Benjanka/Benjank.php ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |