ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ใจเป็นธรรม คือ ใจเป็นกลาง : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=51914 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Hanako [ 14 ก.พ. 2016, 09:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | ใจเป็นธรรม คือ ใจเป็นกลาง : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ |
![]() หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย พึงพากันตั้งใจ ทำใจของเราให้หนักแน่นลงไป อย่าให้ใจมันอ่อนแอท้อแท้ การที่เรามาประชุมร่วมกันในศาลาการเปรียญนี้ ก็เพื่อมาฝึก “ตั้งใจ” นั่นแหละ ไม่ใช่อย่างอื่นใด ถ้าอยู่ตามลำพังแล้วมันไม่ค่อยได้ตั้งใจกัน มักจะปล่อยใจให้เพลินให้เมาไป ไม่ค่อยจะสำรวมจิตตัวเอง ดังนั้นเมื่อมาสู่ที่ประชุมแล้วอย่างนี้ยังปล่อยใจให้เพลินอยู่ มันก็ใช้ไม่ได้เลย มันต้องสำรวมจิตของตนเข้าไปให้มันแน่วแน่ลง เมื่อผู้ใดทำใจให้สงบลงได้ในขณะฟังธรรมะอยู่ มันก็ให้ได้รับความสบายใจไป นั่นแหละไม่วุ่นวายเดือดร้อน บาดนิแล้วก็จำอุบายธรรมะที่ท่านแสดงไปให้ได้ ไม่ได้มากก็ให้ได้น้อย เมื่อจำอุบายนั้นได้แล้วไปอยู่ลำพัง ก็น้อมอุบายนั้นล่ะมาสอนใจตัวเองให้ใจของตน มันเป็นศีลเป็นธรรมลงไป อย่าให้ใจมันไปเกลือกกลั้วกับกิเลสตัณหา “ใจเป็นธรรม คือ ใจเป็นกลาง” ไม่ยินดีกับสิ่งใด และก็ไม่ยินร้ายกับสิ่งใด ตั้งใจเป็นกลางต่อสิ่งทั้งปวง อันนี้ล่ะจึงเรียกว่า “ใจเป็นธรรม” จุดประสงค์การปฏิบัติในพระพุทธศาสนานี้ ก็เพื่อที่จะให้ใจมันเป็นกลางนี่แหละ ความจริงนะ การที่บุคคลได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจอยู่ในโลกอันนี้ ก็เพราะว่า ทำจิตให้เป็นกลางไม่ได้เลย เป็นได้ก็ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้นเอง สักหน่อยก็เอียงไปข้างรักบ้าง เอียงไปข้างชังบ้าง ข้างโกรธบ้าง เอียงไปข้างเสียใจเศร้าโศกบ้าง หมู่นี้ ถ้าว่าใครสามารถทำใจให้เป็นกลางได้อย่างนี้ ผู้นั้นก็ย่อมเป็นผู้มั่นคงในพุทธศาสนานี้ หมายความว่า ไม่เสื่อมจากพุทธศาสนานี้ จะเป็นคฤหัสถ์ก็ตาม เป็นนักบวชก็ตามก็จะทรงไว้ซึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้าได้ ก็เมื่อใจเป็นกลางแล้วอย่างนี้ มันก็ไม่คิดไปในทางบาปอกุศลนี้นะ จึงเรียกว่า ใจเป็นกลาง แล้วก็ไม่คิดเพลินไปด้วยอำนาจแห่งความรักความใคร่ต่างๆ แล้วก็ไม่หมกมุ่นอยู่ในความเกลียดชังซึ่งกันและกัน หมู่นี้นะ เมื่อทำใจเป็นกลางแล้วมันไม่มีกิริยาอาการของจิต ที่จะเอียงไปข้างโน้นข้างนี้ ไม่มี นี่เพราะฉะนั้นผู้ปฏิบัติธรรมน่ะ ก็จงพากันตั้งอกตั้งใจสำรวมจิตใจของตนเสมอไป พยายามทำใจให้เป็นกลางให้ได้ ถึงจะไม่ได้สม่ำเสมอไป แต่ก็ให้มันได้เป็นครั้งเป็นคราวก็ยังดี ดีกว่ามันทำให้เป็นกลางไม่ได้เสียเลย อันนั้นนับว่ามันผิดไปจากทำนองคลองธรรม เรียกว่าเป็นผู้ตั้งใจไว้ผิด ตั้งใจไม่ถูก ![]() ![]() ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ “สอนให้รู้จักทำใจให้เป็นกลาง” :: ประวัติ ปฏิปทาและคำสอน “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |