ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ผมทํากสิณแล้วมีอะไรบางอย่างไม่รู้เข้ามาทีครับ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=39507 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | สละทางโลก [ 12 ก.ย. 2011, 10:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | ผมทํากสิณแล้วมีอะไรบางอย่างไม่รู้เข้ามาทีครับ |
พอผม เพ่งกสิณ แสงสว่าง เสร็จแล้ว มานั่ง ภาวนา ว่า อาโลกสิณัง แล้วอยู่ๆๆ ผมเห็นอะไรไม่รู้เหมือนดวงไฟแหลมๆๆ เป็นสีแดง แล้วก็มีสีม่วง เหมือนดวงตาคนอะครับ |
เจ้าของ: | สละทางโลก [ 12 ก.ย. 2011, 10:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผมทํากสิณแล้วมีอะไรบางอย่างไม่รู้เข้ามาทีครับ |
แล้วมันยาวๆๆด้วยครับ |
เจ้าของ: | อินทรีย์5 [ 12 ก.ย. 2011, 12:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผมทํากสิณแล้วมีอะไรบางอย่างไม่รู้เข้ามาทีครับ |
เราเพ่งแสงเปนสีไร ก้ควรน่าจะเหนเปนสีอย่างนั้น ยิ่งกสินแสงสว่างโดยธรรมชาติต้องมีลักษณะเป็นสีขาวนวล มองแล้วสบายตา แสงนี้จะทำให้เล็กหรือให้กว้างโดยไ่ม่มีประมาณก้ได้ ผมเดาว่าแสงที่เหนเปนสีอื่นๆ ที่เหนนั้นอาจมาจากสีของอารมณ์ของผู้ปฏิบัติเอง เช่นอยู่ในอารมณ์กลัว หรืออยู่ในอารรมณ์วิตกกังวล หรือมีฟุ้งซ่าน แสงที่เกิดจะ แปรตามอารมณ์เหล่านี้ เพราะจิตที่ยังมีนิวรณ์5 รบกวนอยู่ มีความพอใจ ความโกรธ ความสงสัย และความฟุ้งซ่าน ครอบงำจิตที่กำลังจะเป็นสมถะ ทำให้มีแสงสีต่างๆ ให้เหนแปลกๆ ให้คำภาวนากำกับจิตขณะเพ่งดว้ยนะคับ กสิณไฟก้ควรบริกรรม เตโช ๆ ๆ กสิณน้ำ ก้กล่าว อาโป ๆๆๆ หรือภาวนาว่า น้ำ ๆ ๆ ก้ได้ กสิณแสงสว่าง ให้ภาวนาอาโลๆ ๆ หรืออาโลกสิณัง อย่างที่คุนภาวนา สำคัญจิตต้องวางอยุ่ในอุเบกขาเป็นหลัก อารมณ์ที่ปราศจาก ความยินดียินร้าย ไม่มีความอยากต่างๆในอารมณ์ที่ภาวนาอยู่จะให้ฐานจิตเข้าที่ตั้งแห่งความสงบได้เร็วขึ้น |
เจ้าของ: | ปลีกวิเวก [ 12 ก.ย. 2011, 12:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผมทํากสิณแล้วมีอะไรบางอย่างไม่รู้เข้ามาทีครับ |
สละทางโลก เขียน: พอผม เพ่งกสิณ แสงสว่าง เสร็จแล้ว มานั่ง ภาวนา ว่า อาโลกสิณัง แล้วอยู่ๆๆ ผมเห็นอะไรไม่รู้เหมือนดวงไฟแหลมๆๆ เป็นสีแดง แล้วก็มีสีม่วง เหมือนดวงตาคนอะครับ สวัสดีค่ะ คุณสละทางโลก จะเล่าประสบการณ์การฝึกสิณสีขาว ของเราให้ฟัง ตอนฝึกใหม่ๆ ในขณะที่จ้ององค์กสิณแล้วบริกรรม องค์กสิณจะปรากฏเป็นสีต่าง ๆ บางทีสีม่วง สีเขียวเข้ม สีฟ้า สีเขียวอ่อน สีเหลืองอ่อน และในที่สุดจะเป็นสีขาว สีที่เป็นสีขาวจะเป็นเหมือนคลื่นพลังงานที่มีพลังมากกว่าสีอื่นๆ ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านบอกว่าสีต่าง ๆที่ปรากฏเป็นสภาพของจิตเรานั่นเองดังนั้น เมื่อเราพิสูจน์ด้วยตนเองก็ทราบได้ว่าสีขาวเป็นสีที่จิตขณะนั้นมีความบริสุทธิ์จึงเป็น จิตที่มีพลัง...ดังนั้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกสำหรับคนบางคนมีฤทธิ์ทางใจที่เรียกว่าพลังจิต... ....ขอแค่นี้และกัน จากประสบการณ์ของคุณสละโลกที่เล่ามาน่าจะเป็นเรื่องของสภาพจิตในขณะนั้นๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากค่ะ ฝึกต่อไปเรื่อย ๆ พยายามอย่ากลัวและอย่าปรุงแต่ง... ขอเจริญในธรรม |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 12 ก.ย. 2011, 15:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผมทํากสิณแล้วมีอะไรบางอย่างไม่รู้เข้ามาทีครับ |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทามมมมม๊ายยยยย ง๊าาาา ทำไม ลานสนทนาธรรมเพิ่งจะบรรเจิตในยุคนี้.... ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() และเอกอนก็ยังฐานะค่อนไปในทางอนาถา.. ![]() ![]() ไม่มีตังค์จะเข้าชั่วโมงเน็ต ไม่มีตังค์จะติดเน็ต ไม่มีตังค์จะซื้อคอมพิวเตอร์ ![]() ![]() ![]() ปฏิบัติอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่มีคนให้ปรึกษา พระอาจารย์ไหนเก่ง ก็ไม่รู้ ถึงรู้ ก็ไม่มีตังค์นั่งรถไปหา ![]() ![]() อิอิ แต่ดูทุกวันนี้สิ่ .... โหยยยย ![]() ![]() คุณปลีกเชื่อมั๊ย ว่าเอกอนปฏิบัติมา เอกอนผ่านปิติ ยังไม่รู้เลยว่านั่นคือ ปิติ รู้แต่ว่า มันเกิดอาการบางอย่าง แล้วมันก็ไป เอกอนไม่รู้เลยด้วยว่า ตัวเองเข้าสมาธิได้ลึก และก็ถอนสมาธิอย่างกระทันหัน ลุกเดินไปเลย เดินไปได้แค่ ไม่เกินสิบเก้าก็ออกอาการ ![]() เมื่อไฟธาตุดับ เหมือนหัวเทียนบอด เกือบมั่วไม่รอด แล้วมันก็ผ่านไป ก็คำถามที่คุณเคยถามเอกอน ว่า งั๊นเอกอนเคยได้ญาน อะไรนั่นน่ะ เพราะความที่เอกอนดุ่ย ๆ มาแบบมั่ว ๆ ไม่รู้อะไรเลย ญาน เญิน อะไร เอกอนไม่รู้ เหมือนกับคนหลงป่า เห็นผลไม้ชนิดหนึ่งก็เก็บมากิน และรู้อยู่แค่นั้น แต่ไม่รู้เลยว่านั่นเขาเรียก ส้มโอ จนกระทั่งเดินออกมาจากป่า เจอผู้คน ที่กล่าวถึงส้มโอ แต่มันก็ไม่ทำให้เอกอนเข้าใจคำเหล่านั้นได้เลย ผลไม้ ที่เอกอนเคยได้กินในคราวนั้น กับส้มโอ ที่เอกอนได้รับฟังในคราหลัง ๆ กลายเป็นสิ่งสองสิ่งที่ อยู่ต่างหากจากกัน ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน และไม่มีอันจะเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกันได้เลย ราวกับว่า สิ่งที่ล่วงเลยมาแล้ว ซึ่งเราไม่ได้สนใจคำเรียกชื่อมันไปซะแล้ว แต่ก็ต้องเรียนรู้ เพื่อใช้มันในการสื่อสาร น่ะ ![]() ![]() อย่างเจตสิกเอกอนอ่านคำอธิบายความหมายตามตำราไม่เข้าใจนะ จนกระทั่งเจอป๊ะป๋าจารย์ ชี้นำไป แล้วเอกอนก็ทำความรู้สึกไปตามเส้นทาง จึงพอจะร้องอ๋อ นั้นเรียก เจตสิก และหลาย ๆ อย่าง สภาวะบางอย่างมันเป็นสภาวะที่รู้สึกพิเศษ แต่เพราะเอกอนไม่รู้ ด้วยความที่ไม่รู้ เราก็ไม่ได้ให้ความสำคัญ และละเลย ![]() และคำตอบที่เอกอนเคยตอบ "เอกอนรู้แต่ว่า เอกอนต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง" นั่นคือ คือ สูญเสียมันไปอย่างที่ไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าได้มันมา มันคล้ายกับว่า เอกอนได้รับจดหมายจากเพื่อนที่ไม่ชอบหน้าเขานัก และเพื่อนส่งเงินมาในซองด้วย หนึ่งพัน ด้วยความที่ไม่ชอบหน้า (เพราะเจอทีไรชอบมารบกวนยืมเงิน) เอกอนก็หยิบมาดูแบบลวก ๆ ไม่อยากจะสนใจ กลัวโดนยืมเงินอีก และไม่สังเกตเห็นเงินในนั้น เมื่ออ่านจบก็ขยำทิ้ง จนเมื่อหลายปีผ่านไป ก็เจอเพื่อน และเพื่อนก็พูดถึง จม. และเงินที่ส่งไปด้วย (ใช้หนี้) ดังนั้น มันไม่มีการดีใจ หรือ เสียใจ ต่อการได้มา หรือเสียไป ... เอกอนเห็นจุดบอด ที่มันล่วงเลยไป เมื่อมาเห็นภาพ....ผู้ปฏิบัติที่เข้ามาคอยให้คำแนะนำซึ่งกันและกัน อย่างคุณอินทรีย์ คุณปลีก (และอีกหลาย ๆ คนที่เอกอนนั่งมองแล้วก็ชื่นชม) เอกอนนึก "ดีจัง...ผู้ปฏิบัติคอยเข้ามาช่วยเหลือแบ่งปันกันเช่นนี้" ![]() ![]() อุ่นใจ อุ่นใจ ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 13 ก.ย. 2011, 13:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผมทํากสิณแล้วมีอะไรบางอย่างไม่รู้เข้ามาทีครับ |
![]() ![]() ![]() มีอีก บางครั้งเหมือนเอกอนจะเข้าไปรู้ ปัจจัยอันเป็นอดีตที่เนื่องมา (แบบว่าสภาวะก่อนที่จะมาเกิดน่ะ ![]() และก็มีที่เข้าไปรู้เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ![]() และ... ยอมรับว่า การใช้ชีวิตของเอกอนเป็นไปด้วยความพะอืดพะอม ![]() เพราะ อย่างการรู้อนาคต เนี๊ย คือ ถ้าหากว่าเรารู้ว่า เดินไปข้างหน้าสิบเก้าแล้วเราจะต้องตกท่อ และเพราะว่าเราต้องตกลงไปในท่อ สายตาเราจะเหลือบไปเห็น สร้อยคอทองคำที่ก้นท่อ (โหย....จะคุ้มค่าเจ็บมั๊ยเนี๊ยะ ![]() ถ้าสิ่งนั้นคือ วิบากที่ต้องเป็นไป คนเราทั้ง ๆ ที่รู้ดี รู้ชั่ว ฉลาดรู้ไปหมด แต่เหตุผลทุกอย่างตามตำรา พับเก็บไปในทันที เมื่อเจอกับ กฎแห่งกรรม วิบากกรรม อย่างเช่นว่า ถ้าคุณทำไร่มะละกอ ไร่มะละกอจะเป็นโรค คุณแทบจะหมดตัว และคุณจะบรรลุธรรม ถามว่า ถ้าเราอยากบรรลุธรรม แต่เราก็ไม่อยากเจ้ง สิ้นเนื้อประดาตัว ดังนั้นเราจะ ศึกษาปฏิบัติให้มาก และหลีกเลี่ยงการทำไร่มะละกอโดยเด็ดขาด เราจะได้บรรลุธรรม โดยที่ไม่ต้องเผชิญกับความเจ้ง จะได้มั๊ย ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | murano [ 13 ก.ย. 2011, 21:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผมทํากสิณแล้วมีอะไรบางอย่างไม่รู้เข้ามาทีครับ |
eragon_joe เขียน: ... ปิดทีวี แล้วลองเดาว่า พิธีกรใส่เสื้อผ้าแบบไหน เปิดทีวี... แม่นไม๊ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ปลีกวิเวก [ 14 ก.ย. 2011, 09:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผมทํากสิณแล้วมีอะไรบางอย่างไม่รู้เข้ามาทีครับ |
eragon_joe เขียน: ![]() ![]() ![]() ถ้าสิ่งนั้นคือ วิบากที่ต้องเป็นไป คนเราทั้ง ๆ ที่รู้ดี รู้ชั่ว ฉลาดรู้ไปหมด แต่เหตุผลทุกอย่างตามตำรา พับเก็บไปในทันที เมื่อเจอกับ กฎแห่งกรรม วิบากกรรม อย่างเช่นว่า ถ้าคุณทำไร่มะละกอ ไร่มะละกอจะเป็นโรค คุณแทบจะหมดตัว และคุณจะบรรลุธรรม ถามว่า ถ้าเราอยากบรรลุธรรม แต่เราก็ไม่อยากเจ้ง สิ้นเนื้อประดาตัว ดังนั้นเราจะ ศึกษาปฏิบัติให้มาก และหลีกเลี่ยงการทำไร่มะละกอโดยเด็ดขาด เราจะได้บรรลุธรรม โดยที่ไม่ต้องเผชิญกับความเจ้ง จะได้มั๊ย ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() สวัสดีค่ะ คุณเอกอน การที่คนบางคนสามารถหยั่งรู้อดีต หรือ อนาคตของตัวเองได้นั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์ในตัวของมันเอง ...สิ่งสำคัญคือเราจะเอาประโยชน์จากสิ่งนี้ได้อย่างไร อดีตเปลี่ยนแปลงไม่ได้แต่เอามาเป็นข้อคิดและสามารถแก้ไขเหตุในปัจจุบันเพื่อให้อนาคต ถูกตรงได้ ดังนั้นอนาคตสามารถกำหนดได้ในปัจจุบันด้วยตัวคุณเอง การรู้อนาคต..เป็นเพียงแค่แนวโน้มที่จะเกิดเหตุการณ์อย่างนั้น แต่อาจจะไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป เพราะผู้ที่กระทำกรรม เป็นคุณไม่ใช่ใคร กรรม หรือการกระทำในแต่ละขณะ จะมีผลต่ออนาคตเสมอ เช่น คุณรู้ว่าอีก 3 เดือน คุณจะต้องตกงาน ถามว่าคุณจะทำอย่างไร? 1.ปล่อยให้เป็นไปตามกรรม คิดเสียว่าวิบากกรรมไม่ดีให้ผลต้องได้รับทุกข์และความเดือดร้อน 2.ทำเหตุในปัจจุบันให้ถูกตรง แน่นอนข้อนี้เป็นข้อที่ดีที่สุดสำหรับเรา ต้องหาเหตุแก้ไขมันเสีย และทำงานให้รอบคอบมากขึ้น เริ่มมองหาอาชีพสำรอง เรียกว่า "หลักความไม่ประมาท" นั่นเอง แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่คุณกระทำไป ก็ไม่ได้หมายความว่า อีก 3 เดือนข้างหน้าคุณจะไม่ตกงาน ไม่มีใครมารับประกันให้คุณได้ คุณอาจจะต้องตกงานจริง ๆ ก็ได้ แต่ถึงตอนนั้นคุณก็รู้แล้วว่าคุณจะดำเนินชีวิตต่อจากนี้ไปอย่างไร เพราะทั้งหมดผ่านการวางแผนมาแล้ว...การมีโอกาสได้แก้ไข ปรับเปลี่ยนย่อมต้องดีกว่าการที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย...ท่านผู้รู้ทั้งหลายถึงกล่าวว่า "กรรม" เป็นตัวกำหนดอนาคตของคุณเอง... แน่นอนการรู้ เหตุการณ์บางอย่างล่วงหน้า ย่อมต้องดีกว่าการที่เราไม่รู้อะไรเลย สำคัญว่าคุณหา ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้หรือไม่ ไม่ใช่ว่ารู้แล้ว มาสร้างทุกข์ให้กับตัวเอง กลัวและวิตกกังวลจนไม่เป็น ต้องทำอะไรกัน อย่างนี้เรียกว่า คิดแบบไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง.... อันนี้เป็นหลักในการดำเนินชีวิตของเรา...ตามหลักคำสอนขององค์พระศาสดานั่นเอง คิดเสียว่าเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตกันนะคะ... ขอเจริญในธรรมค่ะ ![]() |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 14 ก.ย. 2011, 09:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผมทํากสิณแล้วมีอะไรบางอย่างไม่รู้เข้ามาทีครับ |
murano เขียน: eragon_joe เขียน: ... ปิดทีวี แล้วลองเดาว่า พิธีกรใส่เสื้อผ้าแบบไหน เปิดทีวี... แม่นไม๊ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() แบบว่า เมื่อเช้าลองดู หงิ..หงิ ![]() ![]() ![]() .... เอกอนทายพิธีกรหญิง ใส่ชุดสีขาวววววว หง๋าววว หง๋าวววว ![]() ![]() |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 14 ก.ย. 2011, 12:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผมทํากสิณแล้วมีอะไรบางอย่างไม่รู้เข้ามาทีครับ |
"ปลีกวิเวก" .... การรู้อนาคต..เป็นเพียงแค่แนวโน้มที่จะเกิดเหตุการณ์อย่างนั้น แต่อาจจะไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป เพราะผู้ที่กระทำกรรม เป็นคุณไม่ใช่ใคร ![]() ![]() ![]() ![]() เมล็ดพืช เมื่อตกลงไปสู่ดิน ประกอบปัจจัยบำรุง สิ่งที่ปรากฎคือ ต้นพืชตามชนิดนั้น ๆ เมล็ดพืช นั่น เป็นเอกอน หรือ เมล็ดพืช นั่น มาจากเอกอน หรือ เป็น ปริศนาธรรม ที่เอกอนเคยเห็นเป็นนิมิต และยังไม่เคยกล้าที่จะตอบว่า "ไม่ใช่" เพราะถ้าใช่ เราต้องกำหนดมันได้ แต่ปรากฎว่า สิ่งนั้นกลับเป็นตัวกำหนดความเป็นไปของเรา เรื่องนี้ เอกอนไม่ค่อยพูด เพราะรู้ว่าเมื่อพูดปุ๊บมันจะขัดแย้งกับ ความเห็นทางธรรมของหลาย ๆ ท่าน ที่มักมีคำกล่าวว่า "เราลิขิตชีวิตตัวเองได้" แล้วมันก็จะไปทำให้เกิดความสับสนกับผู้ปฏิบัติที่หันหน้าเข้ามาปฏิบัติธรรมเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น มันเป็นความรู้จาง ๆ บาง ๆ อยากจะฟันธง แต่เรายังไปไม่ถึงจุดที่ชัดเจนในการเห็นว่าไม่ใช่เรา หรืออาจจะเพราะเรายังไปไม่ถึงจุดที่จะทำลาย...จุดที่จะเกิดการสืบต่อความเป็นไป ![]() |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 14 ก.ย. 2011, 13:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผมทํากสิณแล้วมีอะไรบางอย่างไม่รู้เข้ามาทีครับ |
อย่างเช่นว่า (อันนี้ยกตัวอย่างนะคะ) เช่นว่า สมมติว่าเราเกิดเข้าไปเห็นเรื่องราวของบุคคลผู้หนึ่งในประวัติศาสตร์ สมมติว่า เอกอนไปเห็นเรื่องราวของ เจียงไคเช็ค ![]() ![]() - ถามว่า เราเป็นผู้เห็น หรือ เราเป็นผู้ถูกเห็นนั่น หรือเป็นทั้งสองอย่าง - ถามว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเป็น ผู้เห็น หรือ เราเป็นผู้ถูกเห็น หรือเป็นทั้งสองอย่าง กันแน่ - ถามว่า แล้วเจียงไคเช็คที่ปรากฎต่อเรานั้น ก่อนหน้าตราบเท่าที่ขณะจะปรากฎ จนกระทั่งปรากฎอยู่นั้น สิ่งนั้นทรงตัวอยู่ในสภาพใด มาก่อน และดำเนินเข้าสู่การปรากฎอย่างไร อยู่ภายในเรา หรือ อยู่ภายนอกเรา ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() - ไป ๆ มา ๆ เจียงไคเช็คที่เราเห็นนั้น อาจจะเป็นเจียงไคเช็คในบทละครที่มีคนอ่าน และเราเข้าไปเห็น.....สิ่งนั้น..... ก็มีความเป็นไปได้ ใช่ป่าว ![]() เพราะ เอกอนเคยเห็นคนระลึกชาติได้ว่าตนนั้นเคยเป็น บุคคลสำคัญในอดีต และ เอกอนก็เคยเห็นว่า มีคนระลึกชาติว่าเป็น บุคคลนั้นในอดีตได้กันตั้งหลายคน หง่ะ ![]() คือ... ![]() ![]() ![]() ![]() แสดงว่า ในบรรดาคนที่ระลึกชาติได้ ต้องมีการเข้าใจผิดพลาดไปในการปรากฎนั้น ๆ ![]() อิอิ ดังนั้น ถ้าหากว่าเราเห็นอาการเช่นนั้นปรากฎ มันก็ต้องเป็นอะไรสักอย่างล่ะ ที่เป็นได้ทั้งมั่ว และ จริง ![]() ![]() ![]() และ ไม่ว่าเราจะเห็นไปในแง่ที่มั่ว หรือ จริง มันก็ทำให้เรา ถ้าไม่ ฝักใฝ่ ก็ผลักไส นอกจาก เอาอริยสัจสี่เข้ามาจับ มาพิจารณาประกบกับอาการ ![]() ![]() ท่านปลีก อย่าตกใจ อย่าเพิ่งอ่อนอกอ่อนใจกับความขี้สงสัยอย่างประหลาด และอย่างรุนแรงของเอกอน นะจ๊ะ เพราะ เอกอนเป็นอย่างนี้ล่ะ เป็นคนที่ชอบคิดมากเป็นบร้าาาาาเลยยยย ![]() ![]() ไม่ยอมที่จะรับในสิ่งที่ปรากฎทะแม่ง ๆ ทำนองนี้ ง่าย ๆ จั๊กเท่าไร ![]() ![]() |
เจ้าของ: | murano [ 14 ก.ย. 2011, 19:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผมทํากสิณแล้วมีอะไรบางอย่างไม่รู้เข้ามาทีครับ |
อนาคตย่อมเปลี่ยนได้ แต่โดยทั่วไป มันเปลี่ยนได้ยาก... ถ้าผู้เห็นเชี่ยวชาญในกฎแห่งกรรมจริง มีญาณที่ถูกต้องจริง การเห็นนั้นย่อมเป็นไปตามกระแสกรรม เคยเปรียบเทียบว่า เหมือนเราพายเรือในแม่น้ำ ถ้าแม่น้ำนั้นไหลลงสู่ทะเล เรือนั้นก็ย่อมไหลลงทะเลด้วยในที่สุด บางคนเข้าใจว่า ถ้าเอาแรงคนมามากๆ ช่วยกันพายเรือทวนน้ำ เรือก็จะไม่ไหลลงทะเล บางคนใช้ฤทธิ์ใช้เดชในทางมิจฉาทิฎฐิ พยายามผูกเรือหลายลำเข้าด้วยกัน หวังต้านกระแสน้ำ บ้างก็พยายามเอาเรืออื่นมาขวาง ที่ฤทธิ์มากก็พยายามเปลี่ยนกระแสน้ำ ทั้งหลายทั้งมวลย่อมสร้างกรรมที่หนักหน่วงขึ้นทุกที เพราะความพยายามทั้งหลายล้วนเกี่ยวพันกับเรือลำอื่นที่ล่องลอยไปด้วยกัน อนาคตเปลี่ยนได้จริง แต่จะมีสักกี่คนที่จะยอมออกจากเรือ หรืออย่างน้อย พาเรือเข้าใกล้ฝั่งที่กระแสน้ำไหลช้าลง เพราะอยู่กลางน้ำมีปลาตัวใหญ่ ยิ่งเป็นเรือใหญ่ก็ยิ่งดูโอ่อ่า เป็นกองเรือน่าเกรงขาม... เปรียบเทียบพอให้เห็นภาพ อย่าจริงจังถึงขั้นว่า ทะเลดีกว่าป่า หรือป่าดีกว่าทะเล ส่วนเอกอน... ท่าทางจะนิสัยไม่ดี ไปแอบดูอะไรๆ มิดีมิร้ายด้วยแน่ๆ ![]() ![]() ![]() อ้อ เรื่องการระลึกชาติ ส่วนใหญ่ไม่จริงหรอก... คนที่ระลึกชาติได้ เราเข้าใจว่าต้องมีเจโตก่อน แต่เท่าที่รู้ ส่วนใหญ่ก็เป็นทิพยโสตหรือจักษุเท่านั้น ซึ่งบางทีก็ทำให้เข้าใจผิดได้ว่าเป็นเจโต เช่น ได้ยินคนกำลังบ่นในใจ ก็รู้ว่าคนนั้นกำลังไม่พอใจ พาลคิดไปว่าตนเองรู้วาระจิต เป็นเจโต แต่จริงๆ แล้วเป็นเพียงทิพยโสต สิ่งที่คิดว่ารู้นั้น จริงๆ มันเป็นสิ่งที่ เขาคิด เขาได้ยิน คือ... เมื่อเขาได้ยินคนบ่น เขาก็ คิด ว่าคนนั้นไม่พอใจ เข้าใจปะ เพิ่มเติมอีก: หรืออย่างการเห็นภาพในความคิด ปกติคนทั่วไปจะคิดเป็นภาพ เมื่อเขาเห็นภาพนั้นปรากฎขึ้นบ่อยๆ เขาก็จะ คิด ว่า คนๆ นั้นพึงพอใจกับสิ่งที่คิด เขา คิด ว่า เขารู้วาระจิต มีเจโต แต่อันที่จริง มันเป็นเพียงทิพยจักษุเท่านั้น ปัญหาคือ คนทั่วไปก็มักจะคิดบ่อยๆ ในสิ่งที่พึงพอใจ มักจะบ่นเมื่อไม่พอใจ นั่นทำให้คนที่มีทิพยโสตและจักษุ ยิ่งเชื่อว่าตนเองรู้วาระจิต ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่ |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 14 ก.ย. 2011, 22:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผมทํากสิณแล้วมีอะไรบางอย่างไม่รู้เข้ามาทีครับ |
murano บางคนเข้าใจว่า ถ้าเอาแรงคนมามากๆ ช่วยกันพายเรือทวนน้ำ เรือก็จะไม่ไหลลงทะเล บางคนใช้ฤทธิ์ใช้เดชในทางมิจฉาทิฎฐิ พยายามผูกเรือหลายลำเข้าด้วยกัน หวังต้านกระแสน้ำ บ้างก็พยายามเอาเรืออื่นมาขวาง ที่ฤทธิ์มากก็พยายามเปลี่ยนกระแสน้ำ ทั้งหลายทั้งมวลย่อมสร้างกรรมที่หนักหน่วงขึ้นทุกที เพราะความพยายามทั้งหลายล้วนเกี่ยวพันกับเรือลำอื่นที่ล่องลอยไปด้วยกัน ![]() ![]() ![]() murano ส่วนเอกอน... ท่าทางจะนิสัยไม่ดี ไปแอบดูอะไรๆ มิดีมิร้ายด้วยแน่ๆ ![]() ![]() ![]() เปล่านะ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | หลับอยุ่ [ 07 พ.ย. 2011, 13:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผมทํากสิณแล้วมีอะไรบางอย่างไม่รู้เข้ามาทีครับ |
อ๋อหรอ?แม่ปริพาชิกาลัทธิเจริญนิวรณ์ ที่พระพุทธเจ้าท่านทรงใช้ฤทธิ์ห้ามน้ำ และชาดก เรื่องราวในอดีตชาติต่างๆคงเป็นมิจฉาทิฐิด้วยสินะ สงสัยคงไม่สบายหนัก ![]() |
เจ้าของ: | หลับอยุ่ [ 07 พ.ย. 2011, 13:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ผมทํากสิณแล้วมีอะไรบางอย่างไม่รู้เข้ามาทีครับ |
สละทางโลก เขียน: พอผม เพ่งกสิณ แสงสว่าง เสร็จแล้ว มานั่ง ภาวนา ว่า อาโลกสิณัง แล้วอยู่ๆๆ ผมเห็นอะไรไม่รู้เหมือนดวงไฟแหลมๆๆ เป็นสีแดง แล้วก็มีสีม่วง เหมือนดวงตาคนอะครับ น้อมเข้าในตัว อย่าไปส่งจิตออกนอก วางอุเบกขาไว้อย่าตื่นเต้นเฉยๆ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |