ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ไม่ยินดีกับ “ญาณ” (พระอาจารย์มั่น) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=39443 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 05 ก.ย. 2011, 22:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | ไม่ยินดีกับ “ญาณ” (พระอาจารย์มั่น) |
พรรษาต่อมาพระอาจารย์มั่น ภูริทตโต ไปจำพรรษาที่เสนาสนะป่าบ้านค้อ อำเภอผือ จังหวัดอุดรธานี มีท่านอาจารย์สุวรรณ สุจินโณ ท่านอาจารย์สิงห์ ขนตยาคโม ท่านอาจารย์ตื้อ ท่านอาจารย์แหวน สุจินโณ ท่านอาจารณ์หนูใหญ่ ติดตามมาปฏิบัติธรรมกับท่าน พรรษานี้ท่านได้ให้คำแนะนำในข้อปฏิบัติแก่ศิษย์เพื่อความก้าวหน้าแห่งการ ดำเนินจิตเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากท่านทุกรูปเหล่านั้นบำเพ็ญเพียรได้ผลทางปฏิบัติมาแล้ว ขั้นต่อไปก็คืออบรมให้เกิดความแก่กล้ายิ่งขึ้น ข้อสำคัญคือ ความหลงในญาณ ผู้ที่ต้องการพ้นทุกข์จริง ๆ จะต้องไม่หลงอยู่ในความเป็นไปเหล่านั้น ท่านได้อธิบายว่า “ญาณ” คือความรู้พิเศษที่เกิดขึ้นในระหว่างแห่งความสงบ เป็นต้นว่าญาณระลึกชาติได้ ญาณรู้จักเหตุการณ์ในอดีต ญาณรู้จักเหตุการณ์ในอนาคต รู้จักวาระจิต ความนึกคิดของบุคคลอื่นเป็นต้น เหล่านี้ล้วนแต่เป็นวิชาน่าอัศจรรย์ทีเดียว แต่ถ้าหากว่าหลงและติดอยู่ในญาณเหล่านี้แล้ว จะทำให้เกิดความเนิ่นช้า ในการปฏิบัติเพื่อเข้าสู่อริยสัจธรรม ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 05 ก.ย. 2011, 22:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่ยินดีกับ “ญาณ” (พระอาจารย์มั่น) |
แต่ญาณเหล่านี้ ที่เป็นอุปกรณ์อย่าดีพิเศษ ในอันที่จะดำเนินจิตเข้าสู่อริยสัจ หรือการทรมานบุคคลบางคน แต่ว่าจะว่ามันเป็น “ญาณ” อย่ายินดีหรือติดอยู่เพียงเท่านี้ เพราะเท่ากับว่ามันเป็นผลพลอยได้ เกิดจากการบำเพ็ญจิตเข้าสู่อริยสัจนั่นเอง ถ้าหากว่าเราไปยินดีหรือไปติดอยู่เพียงเท่านี้แล้ว ก็จะก้าวไปสู่ความไปจากทุกข์ไม่ได้ แม้แต่พระเทวทัตในสมัยครั้งพุทธกาลก็สำเร็จญาณถึงห้าประการ แสดงฤทธิ์ต่าง ๆ ได้สมกับความประสงค์ แต่หลงอยู่ในญาณของตน เกิดทิฐิมานะ ว่าตนเก่งตนดี ถึงกับต้องการจะเป็นพระพุทธเจ้าแทนเอาเลยทีเดียว แต่ที่ไหนได้ ในที่สุดโดยอาศัยความหลงญาณกลับต้องเสื่อมหมดทุกอย่าง แต่ที่ไหนได้ ไม่เข้าถึงอริยสัจ แต่กลับตกนรกไปเลย พระอาจารย์มั่นท่านเน้นว่า ญาณเหล่านี้มันน่าคิดจริง ๆ เพราะมัน วิเศษแท้ ทั้งเยือกเย็น ทั้งสว่างผ่องใส ทั้งรู้อะไรที่เป็นอดีต อนาคต ตามความประสงค์ ผู้ที่ไม่เข้าใจความจริงที่ไปติด ณ ที่นี้ เราจะสังเกต เห็นได้ตรงที่เกิดทิฐิขึ้นมาอย่างหนึ่ง คือการถือตัวว่าดีกว่าใคร ๆ ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็น ครูบาอาจารย์ เพื่อนสหธรรมิก หรือ ศิษย์ หาว่าศิษย์สู้เราไม่ได้ ใครก็สู้เราไม่ได้ ทิฐิชนิดนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะไม่รู้ตัว ซึ่งท่านอาจารย์มั่นท่านเปรียบว่า มีจระเข้ตัวหนึ่งใหญ่เหลือเกินอยู่ในท้องทะเล มันไม่รู้ว่าหางของมันอยู่ไหน เมื่อมันไม่รู้ มันไม่เห็นหางของมัน มันก็กินหางของมัน กิน ๆ ไปจนเหลือแต่หัวเลยขม้ำซ้ำหมดเลย ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 05 ก.ย. 2011, 22:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่ยินดีกับ “ญาณ” (พระอาจารย์มั่น) |
และท่านก็อธิบายว่า การหลงตัวด้วยญาณนี้มันละเอียดนัก เราจะสังเกตได้อีกอย่างหนึ่งคือ การขาดจากความรอบคอบบางสิ่งบางประการ เพราะความถือตัว เช่น กล่าวคำดูถูกดูหมิ่นต่อเพื่อนสหธรรมิกด้วยกัน ต่อครูบาอาจารย์ของตน หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งตนไม่เห็นด้วยกับ การดำเนินญาณทุกญาณ พระอาจารย์มั่นกล่าวว่า มันต้องเสื่อม มันจะคงตัวอยู่ได้ตลอดไปหาได้ไม่ แต่ต่อไปก็เลือนเข้า ๆ กลับกลายเป็นความนึกคิดโดยอาศัยสัญญาเก่า นี่คือความเสื่อมแห่งญาณ ลูกศิษย์ก็มีหลายรูป ที่ต้องเสื่อมลงจากญาณเหล่านี้อย่างน่าเสียดาย ดังนั้นเพื่อป้องกันการเสื่อม จึงต้องรีบดำเนินจิตเข้าสู่อริยสัจเสียเลย เพราะความที่จิตเข้าสู่อริยสัจได้แล้ว มันก็ห่างจากความเสื่อมไปทุกที ๆ ท่านยกตัวอย่างว่าท่านหนูใหญ่ อายุคราวเดียวกับท่านอาจารย์ฟั่น อาจาโร ไม่พยายามดำเนินจิตเข้าสู่อริยสัจ แต่ว่ามีญาณแหลมคมดี เอาแต่ญาณภายนอก อย่างเดียวจึงเสื่อมได้ ท่านอาจารย์หนูใหญ่รูปนี้มีวาสนาบำเพ็ญจิตได้ผลยิ่ง ปฏิบัติสมาธิ ได้ผลเร็วก็เกิดญาณรู้ความจริงบางอย่างได้อย่างคล่องแคล่ว จึงเป็นที่ปรึกษา หารือในหมู่คณะได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมีความรู้พิเศษ เป็นที่น่าอัศจรรย์ เป็นที่เกรงขามแก่สหธรรมิกและหมู่คณะที่ร่วมสำนักเดียวกับท่าน และแม้จะเป็นความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ท่านอาจารย์หนูใหญ่ก็จะรู้ทันที ด้วยญาณของท่าน ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 05 ก.ย. 2011, 22:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่ยินดีกับ “ญาณ” (พระอาจารย์มั่น) |
เช่นคราวหนึ่ง สามเณรจัดทำน้ำปานะ (อัฐบาน) ถวายพระเวลานั้น พระอาจารย์หนูใหญ่กำลังนั่งสมาธิอยู่ ปรากฏในญาณของท่านเห็นพระภิกษุ และสามเณรกำลังฉันอาหารกัน ท่านจึงออกจากสมาธิไปที่หมู่พวกพระภิกษุ และสามเณรซึ่งกำลังฉันน้ำปานะอยู่ ท่านได้บอกพระทุกรูปว่ากำลังฉันสิ่งของ ที่เจือด้วยอามิสแน่ ๆ เพราะมันไม่บริสุทธิสามเณรผู้ทำน้ำปานะมากับมือก็ยืนยัน เสียงแข็งว่าไม่มีสิ่งใดเจือปนเด็ดขาดเพราะได้ระมัดระวังอย่างดีตลอด แต่ท่านอาจารย์หนูใหญ่ก็ยืนยันเช่นเดิม จึงมีการสำรวจตรวจตรากัน อย่างละเอียดอีกครั้ง ในที่สุดก็พบเมล็ดข้าวสุกติดอยู่กับภาชนะ ที่ใช้ทำน้ำปานะจริง ๆ ความเฉียบคมในกำลังญาณของท่านอาจารย์หนูใหญ่ เกิดประโยชน์แก่หมูคณะไม่น้อย เพราะเมื่ออยู่ใกล้ท่านต้องระมัดระวังตัว ระวังความประพฤติและความนึกคิด จะออกนอกลู่นอกทางไม่ได้ เพราะท่านรู้เห็นตลอด ทำให้เกิดสติสัมปชัญญะควบคุมมาก ไม่กล้ามีความเผลอไผลพลั้งพลาดง่าย ๆ ไม่พยายามเข้ามาหาท่านให้ท่าน อบรมแนะนำบ่อย ๆ (ตรงนี้จะกล่าวว่าท่านอาจารย์หนูใหญ่ลืมตัว เพราะหลงอยู่ในญาณหรือไม่ มิอาจทราบได้) ภายหลังญาณก็เสื่อมถอย จากคุณธรรมส่วนนี้โดยไม่รู้สึกตัว ปักหลักยืนหยัดสู้กับกิเลสต่อไปไม่ไหว ในที่สุดจำต้องลาสิกขาบท กลับคืนไปอยู่ในฆราวาสวิสัย เป็นทาสกิเลส ต่อไปอีกอย่างน่าเสียดาย ท่านพระอาจารย์มั่นกล่าวว่า บุคคลผู้ซึ่งปฏิบัติจนได้ญาณขั้นนี้ แต่ทำให้เสื่อมไป เปรียบได้กับมีสมบัติล้ำค่ามหาศาลอยู่กับตัวแต่รักษา เอาไว้ไม่ได้ หรือไม่รู้จักใช้สอยให้เกิดประโยชน์ขึ้นมา ก็นับว่าเป็นเรื่อง ที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | murano [ 06 ก.ย. 2011, 21:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่ยินดีกับ “ญาณ” (พระอาจารย์มั่น) |
มาช่วยย้ำตรงนี้... eragon_joe เขียน: พระอาจารย์มั่นท่านเน้นว่า ญาณเหล่านี้มันน่าคิดจริง ๆ เพราะมัน วิเศษแท้ ทั้งเยือกเย็น ทั้งสว่างผ่องใส ทั้งรู้อะไรที่เป็นอดีต อนาคต ตามความประสงค์ ผู้ที่ไม่เข้าใจความจริงที่ไปติด ณ ที่นี้ เราจะสังเกต เห็นได้ตรงที่เกิดทิฐิขึ้นมาอย่างหนึ่ง คือการถือตัวว่าดีกว่าใคร ๆ ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็น ครูบาอาจารย์ เพื่อนสหธรรมิก หรือ ศิษย์ หาว่าศิษย์สู้เราไม่ได้ ใครก็สู้เราไม่ได้ ทิฐิชนิดนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะไม่รู้ตัว ![]() ![]() ![]() ![]() eragon_joe เขียน: และท่านก็อธิบายว่า การหลงตัวด้วยญาณนี้มันละเอียดนัก
เราจะสังเกตได้อีกอย่างหนึ่งคือ การขาดจากความรอบคอบบางสิ่งบางประการ เพราะความถือตัว |
เจ้าของ: | อินทรีย์5 [ 17 ก.ย. 2011, 16:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่ยินดีกับ “ญาณ” (พระอาจารย์มั่น) |
ช่วยย้ำตรงนี้ อ้างคำพูด: ท่านพระอาจารย์มั่นกล่าวว่า บุคคลผู้ซึ่งปฏิบัติจนได้ญาณขั้นนี้
แต่ทำให้เสื่อมไป เปรียบได้กับมีสมบัติล้ำค่ามหาศาลอยู่กับตัวแต่รักษา เอาไว้ไม่ได้ หรือไม่รู้จักใช้สอยให้เกิดประโยชน์ขึ้นมา ก็นับว่าเป็นเรื่อง ที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 17 ก.ย. 2011, 21:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่ยินดีกับ “ญาณ” (พระอาจารย์มั่น) |
eragon_joe เขียน: พระอาจารย์มั่นกล่าวว่า มันต้องเสื่อม มันจะคงตัวอยู่ได้ตลอดไปหาได้ไม่ แต่ต่อไปก็เลือนเข้า ๆ กลับกลายเป็นความนึกคิดโดยอาศัยสัญญาเก่า นี่คือความเสื่อมแห่งญาณ ลูกศิษย์ก็มีหลายรูป ที่ต้องเสื่อมลงจากญาณเหล่านี้อย่างน่าเสียดาย ดังนั้นเพื่อป้องกันการเสื่อม จึงต้องรีบดำเนินจิตเข้าสู่อริยสัจเสียเลย เพราะความที่จิตเข้าสู่อริยสัจได้แล้ว มันก็ห่างจากความเสื่อมไปทุกที ๆ ท่านยกตัวอย่างว่าท่านหนูใหญ่ อายุคราวเดียวกับท่านอาจารย์ฟั่น อาจาโร ไม่พยายามดำเนินจิตเข้าสู่อริยสัจ แต่ว่ามีญาณแหลมคมดี เอาแต่ญาณภายนอก อย่างเดียวจึงเสื่อมได้ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 17 ก.ย. 2011, 21:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่ยินดีกับ “ญาณ” (พระอาจารย์มั่น) |
eragon_joe เขียน: ภายหลังญาณก็เสื่อมถอย จากคุณธรรมส่วนนี้โดยไม่รู้สึกตัว ปักหลักยืนหยัดสู้กับกิเลสต่อไปไม่ไหว ในที่สุดจำต้องลาสิกขาบท กลับคืนไปอยู่ในฆราวาสวิสัย เป็นทาสกิเลส ต่อไปอีกอย่างน่าเสียดาย ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | หลับอยุ่ [ 21 ก.ย. 2011, 00:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่ยินดีกับ “ญาณ” (พระอาจารย์มั่น) |
ต้องดูด้วยว่าขั้นไหน มี!ดีกว่าไม่มีย้ำ!มีดีกว่าไม่มีอะไรเลย |
เจ้าของ: | หลับอยุ่ [ 21 ก.ย. 2011, 00:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่ยินดีกับ “ญาณ” (พระอาจารย์มั่น) |
ใครไม่เอาผมขอญาณอยากได้ๆๆ ![]() |
เจ้าของ: | หลับอยุ่ [ 21 ก.ย. 2011, 10:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่ยินดีกับ “ญาณ” (พระอาจารย์มั่น) |
ย้ำคนเดียวไม่ต้องการคนช่วย มีดีกว่าไม่มี..อะไรเลยอยากได้ด้วย ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 21 ก.ย. 2011, 10:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่ยินดีกับ “ญาณ” (พระอาจารย์มั่น) |
ไม่ได้ช่วย แต่อยากได้... เอาใว้ทำฝนตกหน้าแล้ง ![]() ![]() |
เจ้าของ: | หลับอยุ่ [ 21 ก.ย. 2011, 11:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่ยินดีกับ “ญาณ” (พระอาจารย์มั่น) |
แปลกดี....มีพวกชอบโพสธรรมะของหลวงปู่มั่นจะเข้าสู่อริยะสัจ4กันแล้ว ![]() |
เจ้าของ: | murano [ 21 ก.ย. 2011, 20:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่ยินดีกับ “ญาณ” (พระอาจารย์มั่น) |
เขาบอกว่า อย่าหลงในญาณ ไม่ใช่บอกว่าญาณไม่ดี ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 22 ก.ย. 2011, 04:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่ยินดีกับ “ญาณ” (พระอาจารย์มั่น) |
หนับหนุน..คับ ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |