ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะหายจากการที่เพ่งโทษผู้อื่นได้ขาด
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=34729
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 28 ก.ย. 2010, 03:04 ]
หัวข้อกระทู้:  จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะหายจากการที่เพ่งโทษผู้อื่นได้ขาด

รูปภาพ

จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะหายจาก
การที่เพ่งโทษผู้อื่นได้ขาด !!!

พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร


:b42: ผ.

จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะหายจากการที่เพ่งโทษผู้อื่นได้ขาด

เช่น ในเวลาที่เห็นคนทั้งหลายประพฤติกายทุจริต วจีทุจริต
ก็ทำใจให้ประกอบด้วยเมตตากรุณา
ใจที่เพ่งโทษอาจหายไปได้ชั่วคราว

แต่พอเมตตากรุณาเสื่อมลงไป
ใจชนิดนั้นอาจเกิดขึ้นได้อีก


ข้าพเจ้าไม่มีอุบายที่จะละได้
เพราะฉะนั้นจึงต้องหนีจากหมู่ขึ้นมาอยู่บนเขา
ขอท่านจงช่วยบอกอุบายให้ด้วย

:b42: ฝ.

ว่า การเพ่งโทษคนอื่นนั้นสำคัญนัก
เพราะขาดเมตตากรุณา
เป็นไปเพื่อความเบียดเบียนตนแลคนอื่น


สมด้วยพระพุทธภาษิตว่า

ปรวชฺชนานุปสฺสิสฺส เมื่อบุคคลมักตามมองดูซึ่งโทษของผู้อื่น
นิจจํ อุชฺฌานสญฺญิฌน เป็นผู้มีความหมายจะยกโทษอยู่เป็นนิจ
อาสวา ตสฺส วฑฺฒนฺติ อาสวะทั้งหลายย่อมเจริญขึ้นแก่บุคคลนั้น
อาชา โส อาสวกฺขยา บุคคลนั้นเป็นผู้ห่างไกลจากธรรมเป็นที่สิ้นอาสวะ


เพราะฉะนั้นควรทำในใจให้แยกออกไป เป็นอริยสัจ ๔

ส่วนบุคคลนั้นต้องทำความเห็นว่า

เป็นขันธ์ ๕ หรืออายตนะ ๖ เป็นประเภททุกขสัจ
ความประพฤติชั่วด้วยกาย วาจา ใจ
ของบุคคลนั้นเป็นสมุทัย


เพราะเขาไม่ได้เจริญมรรค จึงไม่ถึงนิโรธ

เพราะฉะนั้น ถ้าจะไม่ชอบ หรือเพ่งโทษว่าไม่ดี
ต้องเพ่งส่วนสมุทัย


ส่วนคนนั้นเป็นขันธ์ ๕ หรืออายตนะ ๖ กลับจะน่าสงสาร

เพราะความทำผิดเช่นนั้นเป็นส่วนสมุทัย
ทำเพราะผู้ที่ไม่ได้ประพฤติปฏิบัติมีอริยสัจ ๒
ขันธ์ ๕ และอายตนะ ๖ นั้นเป็นทุกขสัจ
กิเลสความอยากนั้นเป็นสมุทัย
จึงได้ประพฤติกายทุจริต วจีทุจริต วจิทุจริต มโนทุจริต


เหมือนทารกที่ไม่รู้จักไฟจงได้จับ เพราะไม่ทราบว่าร้อน
ส่วนผู้ใหญ่เขาไม่จับ เพราะเขาทราบว่าร้อน
ข้อนี้ฉันใด ผู้ที่ไม่ได้ประพฤติปฏิบัติก็ฉันนั้น


:b42: ผ.

ถามว่า ถ้าเช่นนั้น ผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติ
มีอริยสัจ ๒ คือทุกข์กับสมุทัย
เวลาที่เราเข้าไปเพ่งโทษ
ขันธ์ ๕ อายตนะ ๖ ของเราเป็นทุกขสัจ
การเพ่งโทษเขานั้นเป็นสมุทัย

เวลานั้นเรากับเขาก็ไม่แปลกอะไรกัน
เพราะมีแต่ทุกข์กับสมุทัยสองอย่างเท่านั้น


:b42: ฝ.

รับว่า ถูกแล้ว ถ้าไม่ทำความเห็นให้เป็นอริยสัจ ๔
ก็ยากที่จะหายจากใจที่เพ่งโทษคนอื่น


:b42: ผ.

ถามว่า ถ้าเช่นนั้น พระเสขบุคลทั้งหลาย
ผู้ทำกิจของอริยสัจ ๔
ท่านคงไม่มีความเพ่งโทษผู้อื่นกระมัง

:b42: ฝ.

ตอบว่า แน่ทีเดียว ข้าพเจ้าเข้าใจว่า

พระเสขบุคคลทั้งหลายตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป
ย่อมไม่เพ่งโทษคนอื่น จึงจะพ้นจากความเบียดเบียน


เพราะพ้นจากความเบียดเบียน
จงพ้นจากบาป จึงพ้นจากทุคติ

เพราะพ้นจากความทุคติ คือได้ทำกิจของอริยสัจ๔
ท่านจึงไม่มีความเพ่งโทษใครๆ
อาสวะทั้งหลายจึงไม่เจริญขึ้น


ถึงซึ่งความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย
จนเป็นพระอเสขบุคคล


:b8: :b8: :b8:

(คัดลอกบางตอนมาจาก : สนทนาธรรมภาคปฏิบัติ – ปฏิปัตติวิภัชน์ โดย พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ใน“จิตตภาวนา มรดกล้ำค่าทางพุทธศาสนา : รวมพระธรรมเทศนาภาคปฏิบัติของพระสุปฏิปันโน”

เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒,
รวบรวมโดย มูลนิธิหลวงปู่มั่น และชมรมคุณภาพชีวิต พิมพ์ครั้งที่ ๑,
๕ ธันวาคม ๒๕๔๓ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเผยแพร่เป็น ธรรมทาน, หน้า หน้า ๒๔๗-๒๔๘)


:b8: :b8: :b8:

(หมายเหตุ : สนทนาธรรมภาคปฏิบัติ – ปฏิปัตติวิภัชน์ โดย พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
เป็นมรดกธรรมขิ้นสุดท้ายที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้มอบให้แก่คณะศิษยานุศิษย์ไว้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ
ฉบับเดิมพิมพ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๗ ต่อมาได้จัดพิมพ์ครั้งแรก โดยคณะอุบาสกอุบาสิกา
เพื่อแจกในงานถวายเพลิงศพของท่าน เมื่อ ๓๑ มกราคม ๒๔๙๓)

เจ้าของ:  ธรรมบุตร [ 28 ก.ย. 2010, 05:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะหายจากการที่เพ่งโทษผู้อื่นได้ขาด

รูปภาพ

:b8: อนุโมทนา..สาธุ..ครับ..คุณโรส :b8:

เจ้าของ:  Hanako [ 28 ก.ย. 2010, 08:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะหายจากการที่เพ่งโทษผู้อื่นได้ขาด

พระเสขบุคคลทั้งหลายตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป
ย่อมไม่เพ่งโทษคนอื่น จึงจะพ้นจากความเบียดเบียน

เพราะพ้นจากความเบียดเบียน
จงพ้นจากบาป จึงพ้นจากทุคติ


--

สาธุ :b8: :b55:

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 28 ก.ย. 2010, 14:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะหายจากการที่เพ่งโทษผู้อื่นได้ขาด

smiley ธรรมสวัสดีค่ะคุณ Hanako และท่านธรรมบุตร

สบายดีรึเปล่าคะ ท่านธรรมบุตร ห่างหายไปนาน
ธรรมรักษาทั้ง ๒ ท่านนะคะ :b8:

เจ้าของ:  ธรรมบุตร [ 28 ก.ย. 2010, 18:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะหายจากการที่เพ่งโทษผู้อื่นได้ขาด

cool ธรรมะสวัสดีครับคุณโรส
ผมสบายดีครับคุณโรส สบายดีหรือเปล่าครับ
คิดถึงทุกท่านในธรรมจักรครับ
ช่วงนี้ยุ่งๆ อยู่กับปัญหาทางโลก
กำลังแก้ปัญหากันอยู่
เลยห่างหายไปไม่ค่อยได้เล่นเน็ท
ทำให้ไม่ได้เข้ามาครับ

ธรรมรักษาครับ :b8:


ไฟล์แนป:
4_5_1285678534.jpg
4_5_1285678534.jpg [ 80.28 KiB | เปิดดู 6304 ครั้ง ]

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 28 ก.ย. 2010, 18:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะหายจากการที่เพ่งโทษผู้อื่นได้ขาด

ธรรมบุตร เขียน:
คิดถึงทุกท่านในธรรมจักรครับ
ช่วงนี้ยุ่งๆ อยู่กับปัญหาทางโลก
กำลังแก้ปัญหากันอยู่
เลยห่างหายไปไม่ค่อยได้เล่นเน็ท
ทำให้ไม่ได้เข้ามาครับ

ธรรมรักษาครับ :b8:


นั่นสิค่ะ หายไปตั้งนานเลยนะค่ะ
ระลึกถึง...คุณธรรมบุตร เสมอค่ะ :b8: :b20: :b12: :b4:

เจ้าของ:  ธรรมบุตร [ 29 ก.ย. 2010, 02:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะหายจากการที่เพ่งโทษผู้อื่นได้ขาด

อ้างคำพูด:

นั่นสิค่ะ หายไปตั้งนานเลยนะค่ะ
ระลึก ถึง...คุณธรรมบุตร เสมอค่ะ :b8: :b20: :b12: :b4:


คุณสาวิกาน้อย สบายดีมะครับ
งานยังยุ่งอยู่หรือเปล่าครับ
ระลึกถึงคุณสาวิกาน้อย เสมอเช่นกันครับ :b8: :b16: :b20: :b46:

เจ้าของ:  อนัตตาธรรม [ 29 ก.ย. 2010, 06:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะหายจากการที่เพ่งโทษผู้อื่นได้ขาด

tongue สวัสดีครับคุณกุหลาบสีขาว
Possitive Thinking มองหาแต่ดี หรือมองหาแต่มุมบวก ค้นหาคุณงามความดี สิ่งดีๆ ให้ได้ ให้พบ
จากผู้คน สัตว์ สิ่งของ สถานการณ์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่มากระทบ สัมผัสทวารทั้ง 6 ของเรา

ทำอย่างนี้อยู่เป็นนิจ จนเกิดนิสัยใหม่ ไม่เนิ่นนานนักจักหายจากความเพ่งโทษผู้อื่นครับ

ไฟล์แนป:
100_3933_resize_resize.JPG
100_3933_resize_resize.JPG [ 59.13 KiB | เปิดดู 6230 ครั้ง ]

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 30 ก.ย. 2010, 01:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะหายจากการที่เพ่งโทษผู้อื่นได้ขาด

"เพ่งโทษ" >>>> แปลว่าอะไร
"เพ่งโทษ" ไม่มีคุณจริงหรือ......

ขอบเขต ความหมายกว้างขนาดไหน
ต่างกับ เห็นโทษ เห็นความไม่ดีไม่งาม อย่างไร

แล้ว เพ่งโทษ >>>> เพราะไม่มีเมตตา? เกิดจากสาเหตุอื่นมีอีกไม้?

:b6: :b6:

:b31:

เจ้าของ:  ทักทาย [ 30 ก.ย. 2010, 02:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะหายจากการที่เพ่งโทษผู้อื่นได้ขาด

ธรรมบุตร เขียน:
cool ธรรมะสวัสดีครับคุณโรส
ผมสบายดีครับคุณโรส สบายดีหรือเปล่าครับ
คิดถึงทุกท่านในธรรมจักรครับ
ช่วงนี้ยุ่งๆ อยู่กับปัญหาทางโลก
กำลังแก้ปัญหากันอยู่
เลยห่างหายไปไม่ค่อยได้เล่นเน็ท
ทำให้ไม่ได้เข้ามาครับ

ธรรมรักษาครับ :b8:


ระลึกถึงท่านเช่นกันค่ะท่านธรรมบุตร

เจริญในธรรมค่ะ :b8:

เจ้าของ:  ทักทาย [ 30 ก.ย. 2010, 02:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะหายจากการที่เพ่งโทษผู้อื่นได้ขาด

หัวข้อนี้กำลังเป็นที่ต้องการของท้องตลาด
ในยุคปัจจุบันมากๆ....ส่วนมากแล้วจะเห็นแต่โทษคนอื่น
ไม่ค่อยเห็นโทษของตัวเองเลย
อนุโมทนาค่ะคุณโรส :b8:

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 06 ต.ค. 2010, 22:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะหายจากการที่เพ่งโทษผู้อื่นได้ขาด

ท่านอนัตตาธรรม เขียน:
สวัสดีครับคุณกุหลาบสีขาว
Possitive Thinking มองหาแต่ดี หรือมองหาแต่มุมบวก ค้นหาคุณงามความดี สิ่งดีๆ ให้ได้ ให้พบ
จากผู้คน สัตว์ สิ่งของ สถานการณ์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่มากระทบ สัมผัสทวารทั้ง 6 ของเรา

ทำอย่างนี้อยู่เป็นนิจ จนเกิดนิสัยใหม่ ไม่เนิ่นนานนักจักหายจากความเพ่งโทษผู้อื่นครับ


:b8: :b8: :b8:

:b8: ขอบคุณมากค่ะคุณอนัตตาธรรมสำหรับคำแนะนำ
และนิคเนมใหม่ที่ตั้งให้ :b4:

(ในบรรดาดอกกุหลาบทั้งหมด
กุหลาบสีชาก็ชอบกุหลาบสีขาวมากที่สุดเหมือนกันค่ะ
แต่กุหลาบสีไหน ลงท้ายก็ต้องเป็นสีชาอยู่ดีน่ะค่ะ)
:b12:

โดยส่วนตัว มีความเห็นว่า

การมองเห็นตามความเป็นจริงทุกด้านทั้งด้านลบ และบวก
น่าจะได้ประโยชน์โดยแท้จริงนะคะ


มองด้านลบ – ให้เป็น “เยี่ยง” แต่ไม่จำเป็นต้อง “เอาอย่าง”
มองด้านดี- ด้วยความชื่นชมและมุทิตาจิต
รวมทั้งอาจใช้เป็นแบบอย่างเพื่อพัฒนาตนค่ะ
:b16:

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 06 ต.ค. 2010, 22:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะหายจากการที่เพ่งโทษผู้อื่นได้ขาด

ท่านเช่นนั้น เขียน:
เพ่งโทษ" >>>> แปลว่าอะไร
"เพ่งโทษ" ไม่มีคุณจริงหรือ......

ขอบเขต ความหมายกว้างขนาดไหน
ต่างกับ เห็นโทษ เห็นความไม่ดีไม่งาม อย่างไร

แล้ว เพ่งโทษ >>>> เพราะไม่มีเมตตา? เกิดจากสาเหตุอื่นมีอีกไม้?


:b8: :b8: :b8:

tongue

มีพระพุทธภาษิต บทหนึ่งกล่าวว่า

“บัณฑิตย่อมไม่เพ่งโทษผู้อื่น”
เพราะไม่มีคุณสมบัติ มีแต่โทษสถานเดียว


ถ้าจะเพ่งโทษ พึงเพ่งโทษตนเองดีกว่า

ในมุมมองส่วนตัวนั้น กุหลาบสีชามองว่า

การเพ่งโทษนั้น
นอกเหนือจากการขาดความเมมตาเป็นบาทฐานสำคัญแล้ว
อีกเหตุหนึ่งอาจพึงเกิดจาก “อคติ” ของผู้เพ่งเป็นสำคัญ


อย่างไรก็ตาม

คิดว่าบางครั้ง “ผู้ถูกเพ่งโทษ”
อาจได้รับประโยชน์จากการถูกเพ่งโทษบ้างเหมือนกัน
หากนำความที่ถูกเพ่งไปทบทวนพิจารณาปรับปรุงตน


ซึ่งหากทบทวนแล้วพบว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้นจริง
ก็ไม่มีเหตุให้ต้องกังวลแต่อย่างใด

แต่หากเมื่อทบทวนแล้ว
พบว่าสิ่งที่ถูกกล่าว “เพ่งโทษ” นั้นเป็นความจริง
แล้วนำไปปรับปรุงแก้ไข
ก็นับว่า “ผู้เพ่งโทษ” นั้นให้คุณแก่ตนไม่น้อยเลยนะคะ


ส่วนการเห็นโทษนั้น
เป็นการตระหนัก
และประจักษ์ถึงโทษภัยของสิ่งนั้นโดยปราศจากอคติ
บนพื้นฐานของจิตที่มีจิตเมตตาต่ออีกฝ่ายหนึ่ง
เพราะไม่พึงให้เกิดโทษภัยอย่างนั้นนั้น


ทั้งหลายทั้งปวง ข้างต้น ล้วนเป็นความเห็นส่วนตัวค่ะ...ท่านเช่นนั้น :b8:

เจ้าของ:  อนัตตาธรรม [ 20 ต.ค. 2010, 18:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะหายจากการที่เพ่งโทษผู้อื่นได้ขาด

tongue
เพ่งโทษ กับ ใช้ปัญญา พิจารณา ให้เห็น บาป บุญ คุณ โทษ นั้นต่างกัน

เพ่งโทษ หรือจับผิดผู้อื่น สิ่งอื่นๆ ผลที่ได้ คือ จิตเศร้าหมอง อย่ทำกันเลยดีกว่า

ใช้ปัญญาพิจารณา ให้เห็น บาป บุญ คุณ โทษ นั้น ทำให้เกิดความฉลาด ละชั่ว ทำดี ยิ่งๆขึ้นไป

พุทธภาษิต 2 ข้อ ที่ควรนำมาท่องบ่น พิจารณาประกอบคือ


1."ผู้รู้ดี เป็นผู้เจริญ ผู้รู้ชั่ว เป็นผู้เสื่อม"

2."ความชั่ว ไม่ทำเสียเลยจะดีกว่า"


ไฟล์แนป:
Resize of aa033.jpg
Resize of aa033.jpg [ 86.98 KiB | เปิดดู 5994 ครั้ง ]

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/