ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
หัวใจของมหาสติ 4 ทุกท่านคิดว่าเป็นเช่นไร http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=25878 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 5 |
เจ้าของ: | โคตรภู [ 28 ก.ย. 2009, 17:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | หัวใจของมหาสติ 4 ทุกท่านคิดว่าเป็นเช่นไร |
ความหมายของมหาสติที่มักถูกอ้างบ่อยๆ ดังนี้ครับ ................ อันนี้ความหมายเต็มรูปของสัมมาสติ คือ พิจารณากายในกาย จิตในจิต เวทนาในเวทนา ธรรมในธรรม ความหมายโดยย่อที่สุดก็คือว่า ให้เห็นกายสักแต่ว่ากาย เวทนาสักแต่ว่าเวทนา จิตสักแต่ว่าจิต ธรรมสักแต่ว่าธรรม ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนเขา ................................... (ที่มา : สัมมาสติ ใน “โอวาทปาติโมกข์” โดย อาจารย์วศิน อินทสระ พิมพ์ครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๔๕, จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์, หน้า ๒๘๘-๒๙๑) ขอเชิญท่านทั้งหลายวิสัชชา เพื่อความหลุดพ้นถึงที่สุดแห่งทุกข์ ครับ ด้วยความเป็นมิตรแท้แห่งลานนี้ครับ |
เจ้าของ: | Supareak Mulpong [ 28 ก.ย. 2009, 22:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หัวใจของมหาสติ 4 ทุกท่านคิดว่าเป็นเช่นไร |
อ้างคำพูด: ให้เห็นกายสักแต่ว่ากาย เวทนาสักแต่ว่าเวทนา จิตสักแต่ว่าจิต ธรรมสักแต่ว่าธรรม ตรงนี้เป็นผล ในระดับอรหันตผล |
เจ้าของ: | ตรงประเด็น [ 28 ก.ย. 2009, 22:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หัวใจของมหาสติ 4 ทุกท่านคิดว่าเป็นเช่นไร |
อ้างคำพูด: หัวใจของมหาสติ 4 ทุกท่านคิดว่าเป็นเช่นไร รู้ชัด ตั้งมั่น เห็นแจ้ง รู้ชัด คือ สัมมาสติ(ระลึกชอบ) ตั้งมั่น คือ สัมมาสมาธิ(ตั้งมั่นชอบ) เห็นแจ้ง คือ สัมมาญาณะ(ปัญญาตรัสรู้ชอบ) |
เจ้าของ: | โคตรภู [ 29 ก.ย. 2009, 11:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หัวใจของมหาสติ 4 ทุกท่านคิดว่าเป็นเช่นไร |
Supareak Mulpong เขียน: อ้างคำพูด: ให้เห็นกายสักแต่ว่ากาย เวทนาสักแต่ว่าเวทนา จิตสักแต่ว่าจิต ธรรมสักแต่ว่าธรรม ตรงนี้เป็นผล ในระดับอรหันตผล ปุถุชน อุบาสก อุบาสิกา มีสิทธิ ที่จะทำให้เกิดได้ไหม แล้วในระดับโสดา สกิทาคา อนาคา มีผลเช่นนี้เกิดขึ้นบ้างหรือเปล่า ขอความคิดเห็นด้วยครับ |
เจ้าของ: | Supareak Mulpong [ 29 ก.ย. 2009, 12:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หัวใจของมหาสติ 4 ทุกท่านคิดว่าเป็นเช่นไร |
สักแต่ว่ารู้ คือสิ้นกิเลสแล้ว ไม่มีเวทนา ไม่มีสัญญา แต่เห็นภาพ ได้ยินเสียง รับรส ได้กลิ่นเป็นปกติ ในระดับปุถุชน ทำไม่ได้เลย ในขณะโสดาปัตติมรรค ยังรับรู้ปกติ ทำได้แค่ไม่หลงไปกับเวทนาอารมรณ์นั้น เฉพาะตอนที่วิปัสสนา ในขณะโสดาปัตติผล ยังรับรู้ปกติ จิตปกติจะไม่หลงไปกับเวทนาอารมณ์นั้น นอกจากจะโดนกระทบแรงๆ ในขั้นที่สูงขึ้น แต่ยังไม่ได้อรหันตผล การรับรู้แบบปกติละค่อยๆ ลดลง เพราะเวทนาจะดับไปทีละตัว |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 29 ก.ย. 2009, 14:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หัวใจของมหาสติ 4 ทุกท่านคิดว่าเป็นเช่นไร |
Supareak Mulpong เขียน: สักแต่ว่ารู้ คือสิ้นกิเลสแล้ว ไม่มีเวทนา ไม่มีสัญญา แต่เห็นภาพ ได้ยินเสียง รับรส ได้กลิ่นเป็นปกติ ในระดับปุถุชน ทำไม่ได้เลย ในขณะโสดาปัตติมรรค ยังรับรู้ปกติ ทำได้แค่ไม่หลงไปกับเวทนาอารมรณ์นั้น เฉพาะตอนที่วิปัสสนา ในขณะโสดาปัตติผล ยังรับรู้ปกติ จิตปกติจะไม่หลงไปกับเวทนาอารมณ์นั้น นอกจากจะโดนกระทบแรงๆ ในขั้นที่สูงขึ้น แต่ยังไม่ได้อรหันตผล การรับรู้แบบปกติละค่อยๆ ลดลง เพราะเวทนาจะดับไปทีละตัว ผมเนียะ ถึงแล้ว คำว่าสักว่ารู้ ทำไมกิเลสยังเต็มเลยล่ะ ทำไมยังมีเวทนา สัญญา สังขาร กายก็ไ่ม่ได้หายไปจากความรับรู้ ใจก็ไม่ได้หายไปจากความรับรู้ ทั้งหายทั้งใจรู้ชัดยิ่งกว่าเคยรู้ เห้นมากกว่าเคยเห็น ท่านจะอธิบายว่าอย่างไรครับ |
เจ้าของ: | Supareak Mulpong [ 29 ก.ย. 2009, 14:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หัวใจของมหาสติ 4 ทุกท่านคิดว่าเป็นเช่นไร |
อ้างคำพูด: ผมเนียะ ถึงแล้ว ... Hmm... ![]() |
เจ้าของ: | นนท์ [ 29 ก.ย. 2009, 15:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หัวใจของมหาสติ 4 ทุกท่านคิดว่าเป็นเช่นไร |
อย่าอยากรู้มัน แล้วมันจะรู้เอง ฮ้าวววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว |
เจ้าของ: | โคตรภู [ 29 ก.ย. 2009, 16:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หัวใจของมหาสติ 4 ทุกท่านคิดว่าเป็นเช่นไร |
![]() ผมมีข้อสังเกตุดังนี้ครับ 1. เวลาท่าน หรือ ผม เดินไปไหน ไม่ว่าสถานที่ไหนๆ เราก็เดินไปแหละไปตามทางที่ต้องการ เคยสังเกตุไหมครับว่าเราจำได้หมดหรือเปล่าว่าที่ผ่านมามีอะไรบ้างทั้งซ้ายหรือขวา 2. ต่อจากข้อ 1 ถ้าเราเดินแบบสบายๆ มองดูซ้ายบ้าง ขวาบ้าง ดูทางเดินบ้าง คิดว่าเมื่อถึงปลายทางเราจำได้ไหมว่าเราผ่านอะไรไปบ้าง 3. แต่พอท่านหรือผม เกิดกำหนดก็ดี เพ่งก็ดี ดูลมหายใจก็ดี บริกรรมก็ดี มีปีติเกิดอยู่ เดินไปตามสบายเมื่อถึงปลายทางคิดว่าเราจะจำได้ไหมว่าเดินผ่านอะไรบ้าง ท่าน Supareak Mulpong ว่าเหตุการณ์เช่นนี้เรียกเห็นสักว่าแต่เห็นหรือไม่ รู้สักแต่ว่ารู้หรือไม่ ได้ยินสักว่าแต่ได้ยินหรือไม่ ฯลฯ แล้วคิดว่าศักยภาพของจิตในแต่ละข้อเป็นเช่นไร สามารถฝึกได้ไหม ชาติสยาม เขียน: ผมเนียะ ถึงแล้ว คำว่าสักว่ารู้ ทำไมกิเลสยังเต็มเลยล่ะ ทำไมยังมีเวทนา สัญญา สังขาร กายก็ไ่ม่ได้หายไปจากความรับรู้ ใจก็ไม่ได้หายไปจากความรับรู้ ทั้งหายทั้งใจรู้ชัดยิ่งกว่าเคยรู้ เห้นมากกว่าเคยเห็น ขอบคุณท่านชาติสยามที่เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดครับ น่ายินดีกับท่านชาติสยามครับ ที่กล้าพูดได้เต็มปาก สมตามชื่อท่านครับ แต่ผมว่าถ้าท่านยังไม่ทำการละขันธ์ 5 ของท่าน ผมว่ากิเลสท่านยังคงอยู่อย่างนั้นแหละครับจะพอกพูน หรือบางเบาตามอายุขัย ขึ้นกับท่านแหละครับ สาธุครับท่านบอกว่าเห็นมากกว่าเคยเห็น แล้วท่านทำ กับสภาวะนั้นอย่างไรหรือครับ ตรงประเด็น เขียน: เห็นแจ้ง คือ สัมมาญาณะ(ปัญญาตรัสรู้ชอบ) ท่านตรงประเด็นไม่ขยายหน่อยหรือครับ |
เจ้าของ: | โคตรภู [ 29 ก.ย. 2009, 16:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หัวใจของมหาสติ 4 ทุกท่านคิดว่าเป็นเช่นไร |
นนท์ เขียน: อย่าอยากรู้มัน แล้วมันจะรู้เอง ฮ้าวววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว ท่านนนท์ครับ คิดว่าเหตุกับผล ในคำพูดของท่านมันมันทะแม่งๆ นะครับ |
เจ้าของ: | ศิรัสพล [ 29 ก.ย. 2009, 16:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หัวใจของมหาสติ 4 ทุกท่านคิดว่าเป็นเช่นไร |
ขอตอบตามความเห็นส่วนตัว ว่า.... "กำหนดรู้" |
เจ้าของ: | โคตรภู [ 29 ก.ย. 2009, 17:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หัวใจของมหาสติ 4 ทุกท่านคิดว่าเป็นเช่นไร |
ศิรัสพล เขียน: ขอตอบตามความเห็นส่วนตัว ว่า.... "กำหนดรู้" ยินดีที่รู้จักครับท่าน ศิรัสพล ศาสนานี้เป็นเรื่องของการเจริญปัญญาใช่หรือเปล่าครับ แล้วการ "กำหนดรู้" ต้องกำหนดอย่างไรครับจึงจะเกิดปัญญาครับ |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 29 ก.ย. 2009, 17:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หัวใจของมหาสติ 4 ทุกท่านคิดว่าเป็นเช่นไร |
Supareak Mulpong เขียน: อ้างคำพูด: ผมเนียะ ถึงแล้ว ... Hmm... ![]() ก็ผมเข้าถึงคำว่า"สักว่ารู้" เคยไปลิ้มรสมาแล้ว แล้วจะเลิกเบี่ยงเบนประเด็นได้หรือยัง ตอบไม่ได้ก็บอกว่าไม่ได้ จะได้จบข่าว |
เจ้าของ: | Supareak Mulpong [ 29 ก.ย. 2009, 18:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หัวใจของมหาสติ 4 ทุกท่านคิดว่าเป็นเช่นไร |
อ้างคำพูด: ก็ผมเข้าถึงคำว่า"สักว่ารู้" เคยไปลิ้มรสมาแล้ว อยากให้ท่านช่วยเป็นกรณีศึกษา พอจะแจ้งรายละเอียดได้ใหมครับ เช่นลักษณะอาการ เป็นตอนใหน ? อ้างคำพูด: เหตุการณ์เช่นนี้เรียกเห็นสักว่าแต่เห็นหรือไม่ รู้สักแต่ว่ารู้หรือไม่ ได้ยินสักว่าแต่ได้ยินหรือไม่ ยังไม่ใช่ เป็นการปฏิเสธการรับรู้ ตอนบริกรรมระวังเดินชนเสานะครับ ![]() กายเรามีช่องทางรับรู้อยู่ ๕ ช่องทาง ทำงานพร้อมกันไม่ได้ ในขณะที่เรานึกคิด เราก็จะไม่ได้รับข้อมูลจากระบบประสาททั้ง ๕ ถ้าเราควบคุมการรับรู้ไปที่จุดใดจุดหนึ่งได้อย่างมั่นคง การรับรู้ข้อมูลจากจุดอื่นๆ ก็จะลดลงหรือไม่ได้รับเลย แบบนี้ เป็นกำลังของสมาธิ ทำได้เพียงชั่วคราว อย่างมีดบาดนิ้ว ไปจับเอาลมหายใจไว้ การรับรู้ความเจ็บก็ลดลงได้ แต่ในขณะปกติ ลมเสียดสีกับจมูกตลอดเวลา กลับไม่รู้สึก หรือตอนกำลังทำอะไรเพลินๆ มีคนเรียกแต่เราไม่ได้ยิน เป็นต้น หากเวทนาหายไปหมด พระพุทธองค์เปรียนเหมือนบุรุษแขนด้วน แขนขาดเราก็รู้ว่าแขนขาด เวทนาก็เป็นอวัยวะอย่างหนึ่งของเรา แต่เป็นนามธรรม หากมันขาดหายไป เราก็ต้องรู้ |
เจ้าของ: | จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 29 ก.ย. 2009, 20:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หัวใจของมหาสติ 4 ทุกท่านคิดว่าเป็นเช่นไร |
โอ้โฮ....ต้องขออภัยต่อเจ้าของกระทู้ไว้ก่อนขอรับ เพราะ ผู้(โอ้อวด)รู้ เก่งจริงๆขอรับ รู้แม้กระทั่ง พระอรหันต์ คงจะสำเร็จอรหันต์ละซินะ หรือว่า "อวดอุตริ นำมาเขียนไว้เฉยๆ พวกคุณไม่รู้ดอกขอรับว่า ทำไม จึงมี สติปัฏฐาน ๔ ที่สอนแปลกๆ เพราะหากพวกคุณอยากรู้ ต้องอ่านและทำความเข้าใจ พระอภิธรรมปิฎกทั้งหมดทุกตอน ไม่ใช่ยกเอาบท สติปัฎฐาน๔ มากล่าวมาสอนกัน บรรดาผู้(โอ้อวด)รู้ทั้งหลาย ก็มักจะนำเอาบท สติปัฏฐาน ๔ ขึ้นมาสอน โดยความรู้เท่าไม่ถึงกาล คือไม่รู้แจ้ง แต่อยากจะโอ้อวดว่ารู้ อยากจะเผยแพร่ศาสนาว่างั้นเถอะ แต่ฉลาดน้อย ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย อย่าถามนะว่าข้าพเจ้ารู้เรื่องสติปัฏฐานหรือเปล่า ข้าพเจ้าเคยสอนไปแล้วว่า สติปัฏฐาน อยู่ในส่วนของวิปัสสนา และยังมีความลึ้ลับซ่อนอยู่อีก ไม่บอกขอรับ เพราะเป็นเรือ่งสำคัญ ใครคิดออกก็ดีนะ คิดไม่ออกก็แล้วไปขอรับ หมายเหตุ ต้องขออภัยต่อท่านทั้งหลายที่ตั้งตัวเป็นอาจารย์บ้าง ตั้งสำนักปฏิบัติธรรมบ้าง แล้วสอนเรื่องสติปัฏฐาน แบบรู้เท่าไม่ถึงกาล อ่านข้อแสดงความคิดเห็นนี้ แล้วพิจารณาให้ดีขอรับ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 5 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |