ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

การดูจิตนั้น แท้ที่จริงแล้วเราไม่ได้ดูจิตโดยตรง?
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=23872
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ภัทรกร [ 14 ก.ค. 2009, 18:22 ]
หัวข้อกระทู้:  การดูจิตนั้น แท้ที่จริงแล้วเราไม่ได้ดูจิตโดยตรง?

การดูจิตนั้น แท้ที่จริงแล้วเราไม่ได้ดูจิตโดยตรง แต่เราอาศัยการดูเจตสิกหรือสภาวะธรรมที่มาปรุงแต่งจิต สภาวะธรรมฝ่ายอกุศล เช่น ราคะ โทสะ โมหะ ส่วนสภาวะธรรมฝ่ายกุศล เช่น อราคะ อโทสะ อโมหะ สมาธิ เป็นต้น มาทําความเข้าใจกันใหม่นะครับ สําหรับผู้เริ่มต้น

จิต คือธรรมชาติที่ทําหน้าที่รู้อย่างเดียว รู้เร็ว รู้เก่ง เกิดดับไวมาก เดี๋ยวไปรู้ทางตา ไปรู้ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ

เจตสิก คือธรรมชาติที่มาปรุงแต่งจิตแล้วจิตไปรู้เข้า สภาวะธรรมฝ่ายอกุศล เช่น ราคะ โทสะ โมหะ ส่วนสภาวะธรรมฝ่ายกุศล เช่น อราคะ อโทสะ อโมหะ สมาธิ เป็นต้น รวมทั้งเวทนา ความรู้สึกทุกข์หรือสุข เฉยๆ และสัญญาคือความจําได้หมายรู้

ที่ครูบาอาจารย์สอนให้ดูจิตนั้น แท้จริงแล้วคือการดูเจตสิก เจตสิกแต่ละชนิดจะมีลักษณะเดียวกันทั้งสิ้น คือเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

การดูจิตเป็นภาษาของครูบาอาจารย์สายวัดป่าใช้เรียกกัน ถ้ากล่าวให้เป็นภาษาทางปริยัติแล้ว หมายถึง การทําจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน ซึ่งสอนไว้ว่า

จิตมีราคะก็ให้รู้ว่าจิตมีราคะ จิตไม่มีราคะก็ให้รู้ว่าจิตไม่มีราคะ
จิตมีโทสะก็ให้รูว่าจิตมีโทสะ จิตไม่มีโทสะก็ให้รู้ว่าจิตไม่มีโทสะ
จิตมีโมหะก็ให้รู้ว่าจิตมีโมหะ จิตไม่มีโมหะก็ให้รู้ว่าจิตไม่มีโมหะ
จิตหดหู่ก็ให้รู้ว่าจิตหดหู่ จิตไม่หดหู่ก็ให้รู้ว่าจิตไม่หดหู่
จิตฟุ้งซ่านก็ให้รู้ว่าจิตฟุ้งซ่าน จิตไม่ฟุ้งซ่านก็ให้รู้ว่าจิตไม่ฟุ้งซ่าน
จิตเป็นสมาธิก็ให้รู้ว่าจิตเป็นสมาธิ จิตไม่เป็นสมาธิก็ให้รู้ว่าจิตไม่เป็นสมาธิ
จิตถึงฌานก็ให้รู้ว่าจิตถึงฌาน จิตไม่ถึงฌานก็ให้รู้ว่าจิตไม่ถึงฌาน
จิตมีจิตอื่นยิ่งกว่าก็ให้รู้ว่าจิตมีจิตอื่นยิ่งกว่า จิตไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่าก็ให้รู้ว่าจิตไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า
จิตหลุดพ้นก็รู้ว่าจิตหลุดพ้น จิตไม่หลุดพ้นก็รู้ว่าจิตไม่หลุดพ้น

จากพระสุตตันตปิก เล่มที่ ๒. ทีฆนิกาย มหาวรรค

ไฟล์แนป:
draw12.gif
draw12.gif [ 19.15 KiB | เปิดดู 1952 ครั้ง ]

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/