ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
“นิกันติ” วิปัสสนูกิเลสข้อ ๑๐ (หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=19234 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | I am [ 28 พ.ย. 2008, 12:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | “นิกันติ” วิปัสสนูกิเลสข้อ ๑๐ (หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ) |
![]() ๑๐. นิกันติ จะเกิดความพอใจในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่ผ่านมาแล้ว ว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้องที่สุดใครจะมาแก้ไขให้เป็นอย่างอื่นนั้นไม่ได้เลย นี้คือ วิปัสสนูปกิเลสตัวสุดท้าย ถ้าใครได้พบเห็นผู้ที่เป็นลักษณะอย่างนี้ จะช่วยชี้แนะแนวทางให้เขากลับใจเป็น สัมมาทิฏฐิ นั้นยากมาก เพราะแนวทางปฏิบัติของเขาเป็นมาอย่างนี้ ผลที่ได้รับก็ออกมาอย่างนี้ ความเชื่อถือ ความพอใจ ความยินดี ได้หยั่งรากฝังลึก ในความรู้สึกอย่างนี้แล้ว จะไม่ยอมกลับใจอย่างแน่นอน จะมอบกายถวายชีวิตอุทิศตัวเองให้เป็นไปในลักษณะนี้จนตลอดวันตาย ไม่มีใครแล้วในยุคนี้จะแก้ได้ แต่ถ้าผู้นั้นเป็นเพียงข้อ ๑ ถึงข้อ ๔ พอมีทางแก้ไขได้ แต่ถ้าเป็นข้อ ๕ ขึ้นไปก็ยากที่จะแก้ไข หรือแก้ไขไม่ได้เลย เพราะผู้เป็นวิปัสสนูนี้มีมานะทิฏฐิสูงมาก มีความรู้เห็นเฉพาะตัว ใครจะไปพูดว่าผิดนั้นไม่ได้เลย ยกเว้นผู้มีนิสัยเคยเกี่ยวข้องกันมาในอดีตชาติเท่านั้น พอจะแก้ไขได้ ถ้าไม่อย่างนี้ เขาก็จะไม่เข้าใจ ในคำตักเตือนจากใครๆ ทั้งนั้น ฉะนั้น นักภาวนาปฏิบัติทั้งหลาย เมื่อท่านได้อ่านเรื่องของ วิปัสสนูปกิเลส ทั้ง ๑๐ ข้อนี้แล้ว ท่านจะมีความคิดเห็นเป็นอย่างไรนั้น ขอมอบให้ท่านได้พิจารณาตัดสินด้วยตนเอง ข้าพเจ้าเป็นเพียงชี้แนะแนวทางความผิดความถูกให้รับรู้เท่านั้น เพราะหลักการในการทำสมาธิมีมากมายในปัจจุบันแต่ละสำนักแต่ละชมรมก็มีหลักการ วิธีทำสมาธิเป็นของตนเอง วิธีภาวนาทำสมาธิแต่ละสำนักก็มีเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อจิตมีความสงบเหมือนกัน การศึกษาแนวทางก็เป็นหมวดธรรมเล่มเดียวกัน แต่ว่าใครจะตีความหมายในหมวดธรรมนั้นๆ ไปอย่างไรก็เป็นเรื่องของผู้นำ ถ้าผู้นำตีความหมายถูก ก็นำมาสอนลูกศิษย์ให้ปฏิบัติถูกต่อไป ถ้าผู้นำตีความหมายในหมวดธรรมนั้นผิด ก็จะนำมาสอนลูกศิษย์ให้ปฏิบัติผิดต่อไป ในยุคปัจจุบันนี้มีความนิยมภาวนาทำสมาธิเป็นส่วนมากการทำสมาธิ ขอให้เป็นสัมมาสมาธิก็แล้วกัน เพราะสัมมาสมาธิเป็นแนวทางที่ถูกต้องที่สุด เป็นแนวทางที่จะให้เกิดเป็นวิปัสสนา ไม่เหมือนทำสมาธิแล้วกลายเป็น มิจฉาสมาธิ เพราะมิจฉาสมาธิจะทำให้เกิดเป็น วิปัสสนูปกิเลส ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว มิจฉาสมาธิ สัมมาสมาธิ มีความสงบได้เหมือนกัน แต่ความเห็นที่เกิดขึ้นจะไม่เหมือนกัน สัมมาสมาธิจะมีความเห็นเป็นไปในสายของพระอริยเจ้า มิจฉาสมาธิ จะมีความเห็นผิดสายทางของพระอริยเจ้า ฉะนั้น ข้าพเจ้าได้เขียนเรื่อง มิจฉาสมาธิ ที่เป็นสายทางให้เกิดเป็นวิปัสสนูปกิเลส ๑๐ อย่างนี้เอาไว้ เพื่อจะได้ศึกษาและสังเกตดูตัวเองว่า เป็นไปในวิปัสสนูปกิเลสนี้หรือไม่ ถ้าเป็นไปในลักษณะนี้เกิดขึ้นแก่เรา ก็ให้หยุดเอาไว้ เพื่อจะมาทำความเข้าใจในตัวเองเสียใหม่หรือไปถามครูอาจารย์ผู้ที่มีความชำนาญในการทำสมาธิที่ถูกต้องอย่าฝืนทำสมาธิที่ผิดให้มากไปกว่านี้ มันจะเกิดปัญหาตามมาทีหลัง เพราะวิปัสสนูปกิเลสเป็ผลเกิดขึ้นจากมิจฉาสมาธิ คือความตั้งใจไว้ผิดมิจฉาสมาธิ เป็นผลเกิดขึ้นจาก มิจฉาทิฏฐิ คือความเห็นผิดเป็นต้นเหตุ เมื่อต้นเหตุเป็นฐานความเห็นผิดไว้แล้ว จะภาวนาปฏิบัติอย่างไรด้วยอุบายใดก็ตามก็จะภาวนาผิดไปทั้งหมด ฉะนั้นขอให้นักภาวนาปฏิบัติทั้งหลาย จงมีความรอบรู้ในการปฏิบัติของตน นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป :: หนังสือ สัมมาทิฏฐิ เล่ม ๑ : หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ วัดป่าบ้านค้อ ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ![]() ![]() >>> อ่านวิปัสสนูกิเลสอีก ๙ ข้อ ได้ที่นี่ • วิปัสสนูปกิเลส ๑๐ อย่าง (หลวงพ่อทูล ขิปฺปปฺญโญ) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=40223 |
เจ้าของ: | กำลังเพียร [ 28 พ.ย. 2008, 23:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: "นิกันติ" วิปัสสนูกิเลสข้อ ๑๐ (หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ) |
![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |