ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
อาหารเพื่อสุขภาพปากและฟัน http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=19&t=46705 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 02 พ.ย. 2013, 22:10 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | อาหารเพื่อสุขภาพปากและฟัน | ||
![]() ![]() การดูแลรักษาสุขภาพของปากและฟันนั้นบางคนคิดว่าการแปรงฟันทุกวันหรือพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แท้จริงแล้วปากและฟันต้องการดูแลและเอาใจใส่มากกว่านั้น ซึ่งเราสามารถดูแลสุขภาพปากและฟันของเราด้วยตนเองได้โดย การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นตัวการทำให้ฟันผุ พฤติกรรมการบริโภคอาหารของคนไทย ส่วนใหญ่มักจะบริโภคอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลเป็นหลัก เช่น อาหารมื้อหลัก จะเป็นข้าวอาหารว่างมักเป็นขนมหวานหรือผลไม้ เป็นต้น ซึ่งอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดฟันผุ ขบวนการที่จุลินทรีย์ในช่องปากจะไปย่อยอาหารพวกแป้งและน้ำตาลให้กลายเป็นกรดไปกัดกร่อนฟันทำให้ฟันผุขบวนการที่จุลินทรีย์สลาย น้ำตาลให้กลายเป็นกรดนั้นต้องใช้เวลา ดังนั้นการแปรงฟันบ้วนปากหลังรับประทานอาหารทุกครั้งจึงเป็นการควบคุมไม่ให้เชื้อโรคได้เจอกับน้ำตาล วิธีนี้สามารถป้องกันไม่ให้เกิดกรดไปกัดกร่อนฟันได้เช่นกัน ดังนั้น เราจึงควรหลีกเลี่ยงหรือลดความถี่ในการรับประทานอาหาร และเครื่องดื่มที่ใส่น้ำตาล หรือมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ ทั้งนี้เพื่อลดน้ำตาลที่เป็นวัตถุดิบให้จุลินทรีย์ และควรรับประทานอาหารประเภทโปรตีน เช่น ถั่ว หรือผลไม้แทนการรับประทานขนมหวาน ควรรับประทานหลังมื้ออาหาร เพราะหลังอาหารจะมีน้ำลายออกมาช่วยชะล้างกรดที่เกิดขึ้น จากการย่อยสลายน้ำตาลได้บางส่วน ![]() ![]() 1. การรับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูง ได้แก่ ผักและผลไม้บางชนิด เช่น แตงกวา ฝรั่ง มะเขือเทศ ชมพู่ จะช่วยทำความสะอาดฟัน 2. ควรดื่มน้ำผลไม้แทนน้ำอัดลม เพราะในน้ำอัดลมมีปริมาณน้ำตาลอยู่มาก หากหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลมไม่ได้ควรดื่มน้ำอัดลมจะผ่านจากหลอดลงคอไปโดยตรงทำให้น้ำตาลในน้ำอัดลมมีโอกาสสัมผัสกับฟันน้อยกว่าการดื่มจากแก้ว 3. เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อฟันและปาก เช่น อาหารที่มีวิตามินซี (Ascorbic Acid) ซึ่งมีความสำคัญในการรักษาเหงือก ฟัน กระดูก พบในผักสด ผลไม้สด ส้ม สับปะรด กะหล่ำปลี แครอท ผักคะน้า เป็นต้น 4. การรับประทานอาหารประเภทถั่วลิสง รำ ถั่วเหลือง มะม่วง จะมีวิตามินบี 2 (Riboflavin) ช่วยเรื่องของมุมปากแตกลิ้นอักเสบ เป็นต้น 5. ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่แข็งมาก เช่น น้ำแข็ง กระดูก เพราะอาจทำให้ฟันสึกหรอและแตกได้ 6. ไม่ควรรับประทานจุกจิก เพื่อลดการตกค้างของเศษอาหารในช่องปากที่จะเปลี่ยนเป็นกรด ซึ่งสามารถทำลายผิวเคลือบฟันทำให้ฟันผุ 7. ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพราะคนเราที่มีปากแห้งมีแนวโน้มที่จะมีกลิ่นปากและมีฟันผุมากกว่าคนทั่วไปที่เป็นดังนี้ เพราะขณะที่ปากแห้งเชื้อโรคในช่องปากจะเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนได้มากกว่าปกติเชื้อโรคเหล่านี้จะมีทั้งชนิด ที่สามารถผลิตสารที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก และชนิดที่ทำให้เกิดโรคฟันผุ ขอบคุณที่มา :: http://student.mahidol.ac.th/~u4809013/ ... -teeth.htm :: วารสารครอบครัวคอลเกต-ปาล์มโอลีฟ ขอบคุึณภาพจากอินเทอร์เน็ต >>> การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ อโรคยาปรมาลาภา <<< ![]() ![]() ![]()
|
เจ้าของ: | น้องพลอย [ 22 พ.ย. 2013, 07:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อาหารเพื่อสุขภาพปากและฟัน |
ขออนุโมทนาค่ะ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | sirinpho [ 28 ก.ค. 2015, 07:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อาหารเพื่อสุขภาพปากและฟัน |
![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |