ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ดูแลสุขภาพใจกันหน่อย http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=19&t=36417 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลูกโป่ง [ 25 ม.ค. 2011, 11:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | ดูแลสุขภาพใจกันหน่อย |
![]() ![]() ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านที่เป็นแฟนประจำของ “รักลูก” เป็นคนรักสุขภาพ ห่วงใยสุขภาพของตนเองและคนรอบข้างกันทุกคน แต่ก็ไม่มั่นใจว่าการดูแลสุขภาพของท่านนั้น ท่านได้ดูแลและห่วงใย “สุขภาพใจ” กันบ้างหรือเปล่า ที่สงสัยแบบนี้ไม่ใช่ไม่เชื่อใจกันนะครับ แต่เป็นเพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะสนใจ “สุขภาพใจ” กันเท่าใดนัก แถมเวลามีใครมาแนะนำว่า อาการอย่างนี้ควรจะไปพบจิตแพทย์ก็พาลโกรธคนแนะนำ คิดว่าเขาหาว่าตัวเองบ้าไปเสียอีก “สุขภาพใจ” ของเรานั้นสำคัญไม่แพ้ “สุขภาพกาย” ครับ หากสุขภาพใจไม่ดีก็สามารถทำให้สุขภาพกายแย่ไปด้วย คนโบราณเขาจะให้ความสำคัญกับทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กัน เพราะเชื่อว่า “กายที่สมบูรณ์จะคู่กับใจที่สมบูรณ์” ครับ เรามาสำรวจ “สุขภาพใจ” กันดูสักหน่อย ดีไหมครับ... ![]() ปวดไม่มาก พอทำให้รำคาญ แต่มันจะเหมือนมีอะไรมารัดอยู่รอบศีรษะ บางทีก็ร้าวไปบริเวณท้ายทอย หรือต้นคอ ![]() เคยไหมเมื่อถึงเวลาอาหารแล้วรู้สึกไม่อยากจะทานอะไรเลย แถมยังรู้สึกลำบากใจว่าต้องกินอีกแล้วหรือนี่ ![]() แต่พอดึกๆ คนอื่นเขาหลับสนิท คุณกลับตื่นขึ้นมาแล้วนอนหลับต่อไม่ได้อยู่คนเดียว ![]() พอบ่ายๆ หลังจากฝืนใจสู้มาสักพัก ความรู้สึกที่ว่านี้ก็ค่อยๆ ดีขึ้น แต่เมื่อรุ่งขึ้นก็กลับเป็นแบบเดิมอีก ![]() กลัวไม่ปลอดภัย กลัว กลัว และกลัว... จนพาลให้รู้สึกเบื่อๆ เศร้าๆ ทำนบน้ำตาพังง่ายเหลือเกิน ใครพูดอะไรน้ำตาก็จะไหลอยู่เรื่อย ![]() ถ้าสำรวจแล้ว คุณมีบางข้อ หรือหลายข้อที่ผมตั้งคำถามไว้ “สุขภาพใจ” ของคุณเริ่มจะไม่สมบูรณ์แล้วล่ะครับ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณบ้านะ มันเป็นสัญญาณบางอย่างเพื่อบ่งบอกว่า “ใจ” ของคุณเริ่มทำงานบกพร่อง กาย ใจ และสมอง นั้นเกี่ยวข้องกัน เรื่องของใจ ไม่ได้มาจากก้อนเนื้อที่หน้าอกข้างซ้ายหรอกนะครับ แต่เกี่ยวข้องกับสมองของมนุษย์เราโดยตรง หากสุขภาพใจไม่ดี เกิดความเครียด ก็กระทบกับสมองทุกส่วนสัมพันธ์กันไปหมด ซึ่งอาการทั้งหลายเหล่านี้ก็จะมาลงที่จิตและแสดงออกทางร่างกาย หรืออาการ ต่างๆ อย่างที่ผมกล่าวมาข้างต้นนี่แหละครับ ดังนั้น ถึงเวลาที่คุณต้องใส่ใจและต้องทำอะไรบางอย่างกับใจของคุณแล้วล่ะ ลองทำแบบนี้ดูนะครับ... ![]() คือ การลองนึกดูว่ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไรมากที่สุด โดยเริ่มจากตอนที่เริ่มมีปัญหา มีเหตุการณ์อะไรเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตของเราบ้าง แล้วก็ลองพิจารณาว่าเพราะอะไร เหตุการณ์ที่ว่านั้นมันมีความหมายกับเราอย่างไร มันคุกคามเรา ทำให้เสียหน้า ทำให้ด้อยค่า ทำให้หมดกำลังใจ หรือทำให้หวั่นเกรงกับอนาคต หากได้คำตอบก็ลองใคร่ครวญใหม่อีกครั้ง ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงหรือ คำตอบที่ได้ใหม่นี้ บางครั้งมันช่วยทำให้ความไม่สบายต่างๆ ที่เกิดขึ้นหายไปได้ครับ ![]() เขาจะให้คำแนะนำอย่างไร เราจะได้พบทางออกหรือไม่ อย่าไปใส่ใจครับ เพราะแค่เราได้พูดเรื่องคับอกระบายออกมาจากใจนั้นก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นแล้ว ข้อสำคัญ คุณต้องมั่นใจว่า เขาจะรับฟังคุณและไม่เอาเรื่องของคุณไปโพนทะนาต่อครับ ![]() และต้องทำให้ได้อย่างที่บอกตอนต้นแล้วว่า “กายที่สมบูรณ์คู่กับใจที่สมบูรณ์” นั้นเป็นเรื่องจริง... ใจที่ไม่ดีสามารถแก้ได้ด้วยการทำกายให้ดีครับ ![]() บ่อยครั้งปัญหาที่ผมถามขึ้น เกิดจากการที่คนเราทำงานโดยไม่นึกถึงตัวเอง โหมกับงานโดยไม่ใส่ใจสุขภาพกายและใจ คิดแต่ว่า...งานต้องเสร็จให้ได้ จะดึก จะล้ายังไงต้องทำให้ได้ การทำงานแบบนี้ทั้งกายและใจจะแย่แน่ๆ เพราะถ้าสมองล้า ร่างกายล้าแล้วล่ะก็ คุณไม่มีทางผลิตงานที่ดีออกมาได้หรอกครับ หยุดพักเพื่อให้ทุกอย่างฟื้นกลับสู่ภาวะปกติ อาจพักผ่อนนอนหลับสักตื่น แล้วคุณจะพบว่า คุณสามารถกลับมาทำงานได้ใหม่อีกรอบอย่างมีประสิทธิภาพ แถมไม่มีโรคจากความเครียดจำพวก แผลในกระเพาะอาหาร ความดันโลหิตสูงเกิดขึ้นอีกด้วย ![]() แล้วควบคุมตัวเองให้เป็นตามตารางเวลาที่ทำขึ้นให้ได้ และตารางเวลาที่ว่านี้จะต้องเป็นตารางประจำวันครับ ไม่ใช่ตารางประจำสัปดาห์ ตารางเดือน หรือตารางปี ร่างกายมนุษย์มีนาฬิกาภายในที่จะทำงานครบรอบทุก 24 ชม. คือ ตื่นเพื่อทำภารกิจประมาณ 16-18 ชม. นอนหลับพักผ่อนประมาณ 6-8 ชม. ถ้าเราฝืนนาฬิกาธรรมชาติในร่างกาย วันนี้ระบบต่างๆ ในร่างกายก็จะรวน เราจะต้องควบคุมการทำงาน และการพักผ่อนให้เป็นไปตามนาฬิกาธรรมชาติให้ได้ และภายในช่วงเวลา 16-18 ชม. ที่ร่างกายมันตื่นนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องโหมทำงานอย่างเดียว การจัดให้มี 4-6 ชม. ที่จะต้องใช้เป็นเวลาสำหรับทำกิจกรรมผ่อนคลายด้วยการเล่นกีฬา ทำงานบ้าน พูดคุยกับครอบครัวเพื่อนฝูง ถ้าจะให้เหมาะเราควรจัดสัดส่วนเวลาทำงาน ผ่อนคลาย นอนหลับให้เป็น 10:6:8 ถ้าทำแบบนี้ได้สุขภาพกายและใจของเราจะดีมากครับ ![]() เอาไว้เวลาเหงาๆ เบื่อ หรือเครียดจัดจะได้มีอะไรทำ หลายคนไม่สนใจกิจกรรมอื่นใดนอกจากทำงานเลย พอร่างกายและใจล้าเลยไม่รู้จะหยิบอะไรมาทำ ครั้นจะอยู่เฉยๆ ก็ยิ่งหนัก พอหาทางออกไม่ได้ก็เครียดโดยการหยิบงานมาทำก็ยิ่งหนักเข้าไปอีก มองหากิจกรรมสนุกๆ ไว้ทำครับ เล่นดนตรี กีฬา อ่านหนังสือ ปลูกต้นไม้ ทำสวน ฟังเพลง ฯลฯ ![]() ที่ผมต้องบอกแบบนี้เพราะกิจกรรมผ่อนคลายมันมีหลายประเภท บางคนชอบนั่งสมาธิ รำไท้เก๊ก ฝึกควบคุมกล้ามเนื้อ ฯลฯ ลองหาวิธีที่ตัวเองชอบและถนัดมาไว้ใช้ เมื่อเกิดตึงเครียดขึ้นมาก็เอากิจกรรมที่ว่านี้มาช่วยผ่อนคลายตัวเอง ![]() อย่าไปอายว่าการพบจิตแพทย์เป็นเรื่องเสียหาย เพราะการเจ็บป่วยทางใจก็ไม่ต่างอะไรจากป่วยทางกาย ทุกคนมีโอกาสที่จะเจ็บป่วยได้ และสังคมทุกวันนี้มันวุ่นวายสับสนมากขึ้นทุกที ผู้คนเจ็บป่วยทางใจมากขึ้น จึงไม่แปลกที่เราก็อาจเป็นหนึ่งในนั้นได้เช่นกันครับ อย่างไรก็ตาม ผมอยากให้คุณหมั่นตรวจสุขภาพกายและใจอยู่เสมอครับ ว่าตอนนี้ยังดีอยู่หรือไม่ แม้ว่าจะดีอยู่ มาตรการ 8 ข้อที่ผมได้เสนอไว้ ก็อยากให้คุณผู้อ่านเอาไปปฏิบัติเลย ซึ่งจะช่วยป้องกันเราจากปัญหาสุขภาพใจได้ดีทีเดียวครับ... [ ที่มา.. นิตยสารรักลูก ปีที่ 26 ฉบับที่ 304 พฤษภาคม 2551 ] http://www.elib-onli...l_heart001.html ภาพประกอบจาก... http://photos1.fotos...0/u14425361.jpg ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |