พิษที่หอมหวาน
คงพอจะจำกันได้ เมื่อเรายังเป็นเด็กเล็กอยู่นั้น
ผู้ใหญ่มักห้ามเราไม่ให้ดื่มน้ำชา กาแฟ
พอโตเข้าวัยรุ่นก็มักจะถูกปรามไม่ให้ดื่มเหล้าสูบบุหรี่
เพราะเหล้ามีแอลกอฮอล์ บุหรี่มีนิโคติน ชา กาแฟมีคาเฟอีน
ถ้าเสพแล้วจะติดทั้งสิ้น แต่มีสิ่งเสพติดอีกอย่างหนึ่งที่ถูกผู้ใหญ่มองข้ามไป
เพราะไปเพ่งเล็งว่ามัน เป็นเพียงขนมหวานที่จะทำให้ฟันผุเท่านั้น
นั่นคือ ช็อกโกแลต ของโปรดของเด็ๆทุกคน
รวมทั้งผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยก็ชอบเหมือนกัน
ทำไม จึงว่าช็อกโกแลตเป็นสิ่งเสพติดน่ะหรือ
เรามารู้ความจริงกันก่อนว่า ช็อกโกแลตซึ่งเป็นชื่อของขนมหวานนั้น
เป็นขนมหวานที่ทำมาจากเมล็ดโกโก้ผสมนมและน้ำตาล
ถ้าเอามาทำเป็นเครื่องดื่มก็เรียกว่าโกโก้
แล้วในช็อกโกแลตนั่นแหละมีสารประกอบชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ธีโอโบรมีน
ซึ่งในแง่ของความเป็นยาแล้ว
ธีโอโบรมีนมีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของไต จึงใช้สารนี้เป็นยาขับปัสสาวะ
นอกจากนี้ธีโอโบรมีนยังมีฤทธิ์เหมือนคาเฟอีน
ทีทำให้ระบบประสาทตื่นตัว ทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้
เพราะฉะนั้นการดื่มเครื่องดื่มโกโก้หรือกินช็อกโกแลต
จึงไม่ต่างจากการดื่มน้ำชากาแฟนัก
แล้วยังมีอีกความจริงหนึ่งคือช็อกโกแลตมีรสขมมาก
เมื่อนำมาปรุงแต่งเป็นขนมจึงต้องเติมน้ำตาลมากๆ
มากถึง 50% จึงจะกลบความขมได้
เพราะฉะนั้นการกินช็อกโกแลตจึงเท่ากับกินน้ำตาลจำนวนมาก
เท่านั้นยังไม่พอ ช็อกโกแลตยังมีไขมันอยู่ 22 - 30%
ทั้งยังเป็นไขมันที่ย่อยยากและผ่านกะเพาะไปได้ช้า
ทำให้ความอยากอาหารลดน้อยลง
การให้เด็กๆกินช็อกโกแลตจึงทำให้เด็กได้สารอาหารไม่ครบถ้วน
ทำให้เด็กขาดโปรตีน ขาดผัก และผลไม้
ขาดแป้งจากข้าว ขาดวิตามินและเกลือแร่ต่างๆ
สำหรับ ผู้ใหญ่โดยเฉพาะผู้ที่มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง
ควรงดและหลีกเลี่ยงการดื่มโกโก้และกินช็อกโกแลตให้ไกล
เพราะไขมันที่มีในช็อกโกแลตจำนวนมากนั้น
เป็นไขมันที่มีคอเลสเตอรอลอยู่มาก
เหมือนกับที่มีในไข่แดง เนื้อสัตว์ เนบ และน้ำมันมะพร้าว
พอเห็นฤทธิ์ของความหอมหวานไหม
(ที่มา: หนังสือ 3 นาทีมีสาระ เล่มที่ 2 ของ บมจ. ธนาคารกสิกรไทย)
http://www.happyoppy.com/index.php?lay= ... 94&Ntype=3
