9 แหล่งซ่องสุมของเชื้อโรคที่คุณคาดไม่ถึง
ทันทีที่ฤดูเปลี่ยน อากาศแปรปรวน คนทั่วไปมักจะเป็นห่วงสุขภาพ
เพราะคิดว่าอาการเจ็บป่วยต่างๆ เกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
แต่รู้หรือไม่ว่า อากาศไม่ใช่ตัวแปรสำคัญ แต่สิ่งแปลกปลอมที่มองไม่เห็น
โดยเฉพาะเชื้อโรคที่ซุกซ่อนตัวอยู่ตามมุมต่างๆ ต่างหากที่เป็นภัยต่อสุขภาพเรา
มาดูกันว่ามีที่ใดบ้างที่เชื้อโรคเหล่านี้ชอบแอบแฝงอยู่
และควรจะป้องกันและกำจัดเชื้อโรคเหล่านี้อย่างไร
1. ข้าวของเครื่องใช้ในออฟฟิศที่คุณเห็นว่าไม่สกปรกรู้ไหมว่า 1 ใน 3 ของอุปกรณ์ต่างๆ ในออฟฟิศ
ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ โทรศัพท์ คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์
มีเชื้อโรคปะปนอยู่ไม่น้อย เมื่อคุณหยิบจับข้าวของเหล่านี้
แล้วไปสัมผัสกับใบหน้าเมื่อไร เท่ากับว่าเป็นการเปิดทางให้กับเชื้อโรค
เข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว บรรดาชาวออฟฟิศทั้งหลาย
จึงควรหมั่นดูแลความสะอาดอุปกรณ์เครื่องใช้
โดยใช้ผ้าชุบน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทำความสะอาดเป็นประจำ
โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับผู้อื่น
เช่นโทรศัพท์ ยิ่งต้องหมั่นเช็ดทำความสะอาดทุกวัน
2. ลูกบิดประตูห้องน้ำ ราวบันไดตามที่สาธารณะ น่ากลัวกว่าที่คิดจากการศึกษาของมหาวิทยาลัย แอริโซนาพบว่า
ถึงแม้จะล้างมือหลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วก็ยังเสี่ยง
ต่อการติดเชื้อโรคได้ เพราะจับลูกบิดประตูห้องน้ำที่มีเชื้อโรคอาศัยอยู่
ซึ่งส่วนมากมาจากคนที่เข้าห้องน้ำแล้วไม่ล้างมือ แม้แต่ราวบันไดเลื่อน
ราวสะพานต่างๆ ถ้าไม่จำเป็น ควรเลี่ยงที่จะจับ หรือถ้าจับ ต้องล้างมือทุกครั้ง
3. ตามพื้นทางเดินห้องแต่งตัวในฟิตเนสการเดินด้วยเท้าเปล่าเวลาอยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าในโรงยิม
ที่มักเฉอะแฉะไปด้วยน้ำจากห้องอาบน้ำ หรือคนที่เพิ่งว่ายน้ำเสร็จนั้น
เสี่ยงต่อโรคฮ่องกงฟุตไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการเดินผ่านน้ำท่วมขัง
ทุกครั้งที่เดินในห้องแต่งตัวจึงควรใส่รองเท้าฟองน้ำด้วย
แม้แต่ในบริเวณบ้านก็ควรใส่รองเท้า เพราะคุณไม่อาจรู้ได้เลยว่าเท้าคนอื่น
และสัตว์เลี้ยงแสนรักที่เดินไปมาในบ้านนั้นมีเชื้อราอยู่แล้วหรือเปล่า
4. อ่างล้างจานประจำครัวอีกที่ที่พวกเชื้อโรคชอบคือ อ่างล้างจาน
วิธีดีที่สุดเพื่อสุขอนามัยที่ดี ก่อนล้างเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้
ควรล้างอ่างด้วยน้ำยาล้างข้าวของเครื่องใช้ของเด็กผสมกับน้ำอุ่นให้สะอาด
และควรล้างมือทุกครั้งก่อนหลังล้างสิ่งของต่างๆ
รวมทั้งล้างหัวก๊อกให้สะอาดทุกครั้งหลังจากใช้เสร็จ
หมั่นเทน้ำยาล้างท่อทำความสะอาดเป็นประจำ
เพื่อป้องกันไม่ให้ท่อกลายเป็นบ่อบ่มเชื้อโรคประจำครัว
5. ฟองน้ำล้างจานชามเคยสังเกตไหมว่า ฟองน้ำที่ใช้นานๆ จะมีจุดเล็กๆ สีดำ จงทิ้งซะ อย่าเสียดาย
เพราะนั่นคือแบคทีเรียตัวร้ายที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
วิธีง่ายๆ ในการดูแลฟองน้ำให้ปราศจากเชื้อโรคมีดังนี้
หลังจากใช้เสร็จควรบิดให้แห้งที่สุด แล้ววางไว้บนตะแกรงที่แยกต่างหาก
ไม่ให้โดนน้ำ และหมั่นทำความสะอาดฟองน้ำวันเว้นวัน
โดยนำไปอบในไมโครเวฟสัก 1 นาทีให้ความร้อนฆ่าเชื้อโรค
จากนั้นล้างด้วยน้ำสบู่อุ่นๆ ผึ่งแดดให้แห้ง
และเพื่อสุขอนามัยที่ดี ควรเปลี่ยนฟองน้ำทุกๆ 3 สัปดาห์
6. เครื่องซักผ้าในบ้านถ้าเสื้อผ้าที่ซักเสร็จแล้ว มีกลิ่นไม่พึงประสงค์
ให้ลองตรวจสอบที่เครื่องซักผ้าดูก่อน ถ้ามีกลิ่นอับโชยออกมา
แสดงว่ามีเชื้อรา ให้รีบทำความสะอาดด่วน
โดยเทน้ำยาทำความสะอาดเครื่องซักผ้าลงไปในช่องใส่ผงซักฟอก
เปิดเครื่องให้ทำงานโดยตั้งโปรแกรมใช้น้ำอุ่น ทำเดือนละ 4 ครั้ง
หลังจากกลิ่นหายจึงค่อยเปลี่ยนมาเป็นเดือนละครั้ง
ที่สำคัญหลังซักผ้าเสร็จทุกครั้ง
ควรเปิดฝาเครื่องซักผ้าทิ้งไว้ให้แห้งสนิทจึงค่อยปิด
7. ห้องน้ำเป็นห้องที่ใช้ชำระร่างกาย ให้สะอาด แต่กลับไม่สะอาดอย่างที่คิด
ด้วยสภาพแวดล้อมที่แสงแดดมักเข้าไม่ถึงและเปียกชื้น
จึงกลายเป็นแหล่งซ่องสุมชั้นเยี่ยมที่เหล่าแบคทีเรียชื่นชอบ
ดังนั้นในการทำความสะอาดทุกครั้ง นอกจากล้างพื้นและผนังห้องน้ำแล้ว
ควรล้างอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดให้สะอาด
ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออาทิตย์ละครั้ง เพื่อกำจัดแบคทีเรียตัวร้ายให้หมดไป
8. หมอนอันอ่อนนุ่มที่คุณใช้หนุนนอนทุกคืนเคหสถานชั้นดีของเหล่า แบคทีเรียอีกที่ที่คุณคิดไม่ถึงคือ หมอนนั่นเอง
บางคนคิดว่าการซักปลอกหมอน ผ้าปูที่นอนเป็นประจำ
ช่วยให้ห่างไกลจากเชื้อโรค แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย
มีแบคทีเรียบางจำพวกที่ชอบแอบอยู่ในหมอน ซึ่งทำให้เกิดโรคภูมิแพ้
ฉะนั้นนอกจากหมั่นซักปลอกหมอนแล้ว ควรซักหมอนด้วยน้ำสบู่อุ่นๆ
ตากแดดให้แห้งสนิทเดือนละครั้งด้วย
เพื่อให้มั่นใจว่าต่อไปนี้คุณจะนอนได้อย่างปลอดภัย
ไม่มีเจ้าเพื่อนอันตรายมานอนเคียงข้างเหมือนอย่างเคย
9. อุปกรณ์เติมสวยอุปกรณ์แต่งหน้าที่สกปรกไป ด้วยคราบเหงื่อและน้ำมันจากผิวหนัง
ที่ไม่เคยทำความสะอาดเลย จะกลายเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย
ทำให้เกิดสิวเสี้ยน และการไม่ใส่ใจล้างมือก่อนแต่งหน้า
ก็เป็นข้อผิดพลาดของผู้หญิงส่วนมากอีกประการ
ซึ่งทำให้เชื้อโรคบนมือที่ไปจับต้องอะไรต่อมิอะไรมานั้นปะปนไปกับเครื่องสำอาง
และเมื่อสัมผัสกับใบหน้าอาจทำให้เกิดผื่นแพ้
หากร้ายแรงอาจทำให้ตาแดงได้ทีเดียว
ดั้งนั้นทุกครั้งก่อนเติมแป้งระหว่างวัน ซับหน้า หรือเติมลิปสติก
ควรล้างมือให้สะอาดเสียก่อน หมั่นล้างพัฟฟ์
แปรง อุปกรณ์แต่งหน้าทุกชิ้นอาทิตย์ละครั้ง
เป็นคุณนายสะอาดแล้วหย่าขาดกับเชื้อโรค
ตั้งแต่วันนี้ ดีกว่าทนใช้ชีวิตเสี่ยงๆ
ที่มา : ธนาคารกสิกรไทย
