มีรายงานจากวารสาร Journal of the National Cancer Institute ได้มีนักวิจัยชาวสหรัฐอเมริกาได้ศึกษาพบว่าคนที่มีระดับโมเลกุลของวิตามินอี ในเลือดสูง เช่น อัลฟา และแกมม่า โทโคฟีรอล (alpha- and gamma-tocopherol) ดูเหมือนว่าจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรค มะเร็งต่อมลูกหมาก ลดลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์
โดยการศึกษานี้ได้ทำการศึกษาในอาสาสมัครผู้ชายที่เข้าร่วมโครงการวิจัยการ ใช้อัลฟาโทโคฟีรอลกับเบต้าแคโรทีนเพื่อการป้องกันโรค มะเร็ง - Alpha-Tocopherol, Beta-Carotene Cancer Prevention (ATBC) - ที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 30,000 คน โดยเลือกอาสาสมัครพวกนี้มาวิจัยผลของวิตามินอีโดยเลือกผู้ป่วย มะเร็งต่อมลูกหมาก จำนวน 100 คน และคนปกติอีก 200 คน จากโครงการวิจัยดังกล่าว
พบว่ากลุ่มของผู้ชายที่มีระดับของ Alpha-Tocopherol ในเลือดสูงที่สุดจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรค มะเร็งต่อมลูกหมาก ลดลงถึง 51 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่มีระดับของ Alpha-Tocopherol ต่ำที่สุด
ในทำนองเดียวกันกลุ่มของผู้ชายที่มีระดับของ Gamma-Tocopherol ในเลือดสูงที่สุดจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรค มะเร็งต่อมลูกหมาก ลดลง 43 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่มีระดับของ Gamma-Tocopherol ต่ำที่สุด
และจากการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมยังพบความสัมพันธ์อีกว่าคนที่รับประทาน อาหารเสริมที่มี Alpha-Tocopherol เป็นประจำจะมีความเสี่ยงลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ไม่ได้รับประทาน โดยโครงการวิจัยการใช้อัลฟาโทโคฟีรอลกับเบต้าแคโรทีนเพื่อการป้องกันโรค มะเร็ง - Alpha-Tocopherol, Beta-Carotene Cancer Prevention (ATBC) - พบว่าคนที่รับประทานอาหารเสริมที่มีวิตามินอีด้วยจะสามารถลดความเสี่ยงที่จะ เป็นโรค มะเร็งต่อมลูกหมาก ลงถึง 32 เปอร์เซ็นต์
คุณหมอ Demetrius Albanes และทีมงานจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติได้เชื่อว่าฤทธิ์ในการเป็นสารต้านอนุมูล อิสระของวิตามินอี น่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้ลดความเสี่ยงจากขบวนการเกิดของโรค มะเร็งต่อมลูกหมาก และนอกจากนี้เจ้า Alpha-Tocopherol ยังมีฤทธิ์ในการเสริมสร้างภูมิต้านทานที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย
SOURCE: Journal of the National Cancer Institute, March 2, 2005.
ขออนุโมทนาสาธุการด้วยค่ะ คุณธรรมบุตร 
อนุโมทนา..สาธุเช่นกัน..ครับ..ท่าน