ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

“โคเลสเตอรอล” ภัยเงียบทำร้ายหัวใจ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=19&t=31199
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 29 เม.ย. 2010, 11:04 ]
หัวข้อกระทู้:  “โคเลสเตอรอล” ภัยเงียบทำร้ายหัวใจ

รูปภาพ


“โคเลสเตอรอล” ภัยเงียบทำร้ายหัวใจ

โคเลสเตอรอลเป็นไขมันประเภทที่พบได้บ่อยที่สุดประเภทหนึ่งในร่างกายมนุษย์
แต่เป็นไขมันชนิดที่ไม่มีใครอยากมี เนื่องจากการมีระดับโคเลสเตอรอลสูงในเลือด
เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญอันหนึ่งที่ก่อให้เกิดการพัฒนาของโรคหัวใจและหลอดเลือด


โคเลสเตอรอลมาจากไหน

โคเลสเตอรอลได้มาจาก 2 ทางด้วยกัน

ทางแรกคือร่างกายสร้างขึ้นเองจากตับ
ซึ่งตับจะควบคุมระดับโคเลสเตอรอลในร่างกาย
ด้วยการสร้างโคเลสเตอรอลที่ร่างกายต้องการ
และรักษาระดับโคเลสเตอรอลในกระแสเลือด
ด้วยการกำจัดโคเลสเตอรอลที่ไม่ดีและนำโคเลสเตอรอลที่จำเป็นมาแทนที่

ทางที่ 2 ได้จากอาหารที่รับประทานเข้าไป
แล้วมีการดูดซึมผ่านลำไส้เล็กเข้าสู่กระแสเลือด
ซึ่งอาหารที่มีไขมันสูงและอาหารประเภทจานด่วน
หรือของขบเคี้ยวนั้นเป็นตัวการที่ทำให้ระดับโคเลสเตอรอลในกระแสเลือดสูง

ร่างกายของคนเราต้องการโคเลสเตอรอลจากอาหารวันหนึ่ง ๆ
ไม่เกิน 300 มิลลิกรัม ระดับโคเลสเตอรอลทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย
จะเริ่มสูงขึ้นเมื่ออายุประมาณ 20 ปี จึงไม่ค่อยพบว่าเด็กหรือพวกวัยรุ่น
เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหรือโรคหัวใจ


โคเลสเตอรอลมีกี่ชนิด

โคเลสเตอรอลเป็นไขมันที่มีประโยชน์เป็นส่วนประกอบของเซลล์ต่าง ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีโคเลสเตอรอลมากเกินไป
จะไปสะสมอยู่ตามผนังหลอดเลือดแดงทั่วร่างกาย
อาจแบ่งโคเลสเตอรอล ได้ย่อย ๆ 2 ชนิด คือ

1. โคเลสเตอรอล ชนิดร้าย
หรือ แอล-ดี-แอล (Low Density Lipoprotein Cholesterol, LDL-C)

เป็นตัวที่มีบทบาทสำคัญในการสะสมในผนังของหลอดเลือดแดง
ไขมันชนิดนี้ร่างกายสร้างขึ้นเองส่วนหนึ่ง
และมาจากอาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมันจากสัตว์

2. โคเลสเตอรอล ชนิดดี
หรือ เอช-ดี-แอล (High Density Lipoprotein Cholesterol, HDL-C)

ไขมันชนิดนี้จะช่วยในการขนถ่ายโคเลสเตอรอลที่สะสมอยู่ออกมาทำลาย
จึงช่วยป้องกันโรคหัวใจหลอดเลือด ดังนั้นหากยิ่งสูงจะยิ่งเป็นผลดี
ไขมันนี้ร่างกายสร้างขึ้นเอง
และจะสูงขึ้นในผู้ที่ออกกำลังแบบแอโรบิค อย่างสม่ำเสมอ


นอกจากนี้ยังมีไตรกลีเซอไรด์ เป็นไขมันอีกชนิดหนึ่ง

ที่มาจากอาหารร่วมกับร่างกายสร้างขึ้นที่ตับ
ไตรกลีเซอไรด์เป็นแหล่งพลังงานสำคัญของร่างกาย
โดยอาหารพวกแป้งและน้ำตาล รวมทั้งโปรตีนที่เหลือใช้
จะถูกเปลี่ยนเป็นไตรกลีเซอไรด์ และถูกเก็บสะสมไว้ที่ชั้นไขมัน
เพื่อเป็นพลังงานสำรอง ไขมันชนิดนี้ปัจจุบันมีข้อมูลบ่งชี้ว่า
เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่อ้วน เป็นเบาหวาน
ความดันโลหิตสูง และมีระดับ เอช-ดี-แอล ต่ำ


ไขมันสูงเท่าไหร่ จึงเป็นอันตราย
ความจริงแล้วตัวไขมันในเลือดที่สูงนั้นไม่ได้ทำให้เกิดอาการ
อาการต่างๆ เป็นผลมาจากการตีบตันของหลอดเลือดแดง
ซึ่งต้องอาศัยเวลาหลายปี การสะสมของไขมันในผนังหลอดเลือดแดงนี้
เริ่มพบตั้งแต่ในวัยรุ่นแล้ว จากข้อมูลการศึกษาต่างๆ พบว่า
ระดับไขมัน โคเลสเตอรอลมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
และจะมีอันตรายมากขึ้นหากไขมันโคเลสเตอรอลรวม
มากกว่า 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
จากข้อมูลต่างๆ จึงกำหนดค่าของไขมันในเลือดไว้ดังนี้



:b39:โคเลสเตอรอล รวม (Total Cholesterol)

ระดับที่เหมาะสม น้อยกว่า 200 มก.ต่อดล.

เริ่มสูง คือ 200-239 มก.ต่อดล.

สูงคือมากกว่า 240 มก.ต่อดล.


:b39: แอล-ดี-แอล โคเลสเตอรอล (LDL-Cholesterol)

ระดับที่เหมาะสม น้อยกว่า 130 มก.ต่อดล.

เริ่มสูง คือ 130-160 มก.ต่อดล.

สูงคือมากกว่า 160 มก.ต่อดล.
สูงมาก คือ มากกว่า 190 มก.ต่อดล.


:b39: เอช-ดี-แอล โคเลสเตอรอล (HDL-Cholesterol)

ระดับที่เหมาะสม มากกว่า 40 มก.ต่อดล.

สูง (เป็นผลดี) มากกว่า 60 มก.ต่อดล.


:b39: ไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides)

ระดับเหมาะสม น้อยกว่า
150 มก.ต่อดล.



เราจะป้องกันโรคหัวใจขาดเลือดได้อย่างไร

โรคหัวใจขาดเลือดเกิดจากหลายปัจจัย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสื่อมตามอายุ
จึงไม่สามารถป้องกันโรคนี้ได้100%
แต่จากการศึกษาต่างๆ ล้วนยืนยันว่า การลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ลง
สามารถช่วยชะลอการเกิดโรค
และช่วยลดปัญหาแทรกซ้อนทางหลอดเลือดลงได้ เช่น


:b48: ลดอาหารที่มีไขมัน และโคเลสเตอรอลสูงต่าง ๆ
เช่น เครื่องในสัตว์ ปลาหมึก หอยแครง หอยแมลงภู่
ไข่แดง เนย และให้รับประทานอาหารไขมันโคเลสเตอรอลต่ำแทน
เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ ไข่ขาว นมพร่องมันเนย
ควรควบคุมโคเลสเตอรอลจากอาหารไม่ให้เกินวันละ 300 มก.

:b48: เพิ่มอาหารจำพวกผักใบต่าง ๆ และผลไม้ที่มีกากมาก
เพื่อให้ร่างกายได้รับกากใยอาหารมากขึ้น
จะช่วยลดการดูดซึมไขมันโดเลสเตอรอลที่จะเข้าสู่ร่างกายให้น้อยลง

:b48: การปรุงอาหารให้หลีกเลี่ยงวิธีการทอด

:b48: ผัดโดยใช้น้ำมันมาก ๆ เปลี่ยนเป็น ต้ม นึ่ง อบ แทน
หากจำเป็นต้องใช้น้ำมันควรใช้น้ำมันพืชจากถั่วเหลือง
น้ำมันข้าวโพด น้ำมันงา น้ำมันดอกคำฝอยแทน

:b48: ออกกำลังกายสม่ำเสมอแทน
ครั้งละอย่างน้อย 15-20 นาที สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง

:b48: คุมน้ำหนักไม่ให้อ้วน หรือเกินมาตรฐานเมื่อเทียบกับส่วนสูง

:b48: ควรงดสูบบุหรี่ หรืองดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
แต่หันมาดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแทน



หากพบว่าระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูงและควบคุมอาหารไม่ได้ผล
ควรรับการรักษาเพื่อลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด
ซึ่งจะช่วยป้องกันผลแทรกซ้อนระยะยาวได้



ที่มา... http://www.nutrimaster.com/tip01.asp

:b48: :b8: :b48:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/