ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ก้าวย่างสู่สุขภาพดี
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=19&t=31084
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 24 เม.ย. 2010, 15:01 ]
หัวข้อกระทู้:  ก้าวย่างสู่สุขภาพดี

รูปภาพ


ก้าวย่างสู่สุขภาพดี


ตามหลักชีวกลศาสตร์ (Biomechanics)
“เท้า” เป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยรองรับน้ำหนักและแรงกระแทก
จากการเคลื่อนไหวของร่าง กาย ไม่ว่า ยืน เดิน วิ่ง กระโดด


มองจากภายนอก เท้าของเราประกอบด้วย 3 ส่วน
คือ เท้าส่วนหน้า หมายถึง นิ้วเท้า และฝ่าเท้าส่วนหน้า
เท้าส่วนกลาง ประกอบด้วยโครงของฝ่าเท้าซึ่งเป็นส่วนเว้าเรียกว่า อุ้งเท้า
และเท้าส่วนหลัง หมายถึงบริเวณส้นเท้า
หากสแกนดูจะพบว่าเท้าข้างหนึ่งประกอบด้วยกระดูก 26 ชิ้น ข้อต่อ 33 ข้อ
เชื่อมต่อกับโครงสร้างของร่างกายด้วยกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นจำนวนนับไม่ถ้วน


โครงสร้างของเท้าที่กล่าวมานั้นมีความสัมพันธ์กับลักษณะรองเท้า
ที่คุณเลือกใส่ในชีวิตประจำวัน เท้าจะปรับตัวให้เหมาะกับรูปแบบของรองเท้า
เพื่อช่วยในการทรงตัวของร่างกาย ให้ดีที่สุด
ดังนั้นหากคุณใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะกับเท้าอยู่บ่อยๆ
ก็ย่อมมีผลให้โครงสร้างเท้าเปลี่ยนไป
เช่น ในกรณีที่คุณต้องใส่รองเท้าส้นสูงทุกวัน
พื้นรองเท้าที่เทลงจะทำให้เท้าส่วนหน้าของคุณต้องรองรับน้ำหนักมากกว่าปกติ
เป็นสาเหตุของอาการปวดเท้าไปจนถึงเข่าและหลังได้
หรือการใส่รองเท้าหน้าแคบ บีบนิ้วเท้าบ่อยๆก็จะทำให้ปวดนิ้วเท้า
และทำให้เกิดภาวะผิดปกติของเท้าได้


:b48: ปัญหาจากรองเท้าคู่ใจ

ลักษณะของรองเท้าคู่ใจที่คุณเลือกใส่ในชีวิตประจำวัน
อาจเป็นสาเหตุของภาวะ ผิดปกติของเท้าได้
ลองสังเกตอาการเบื้องต้นเหล่านี้ดูนะคะ

:b39: อาการปวดน่องหรือเป็นตะคริว อาจมีสาเหตุจากการเดินบ่อยๆ
หรืออยู่ในท่าเขย่ง จากการสวมรองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน
ทำให้กล้ามเนื้อน่อง เอ็นร้อยหวาย( Achilles tendon ) ตึงตัว

:b39: อาการปวดตึงหลังส่วนล่าง เป็นผลจากการใส่รองเท้าส้นสูง
ที่ทำให้น้ำหนักของร่างกายเทไปข้างหน้า
ร่างกายจึงต้องปรับให้ลำตัวแอ่นไปด้านหลัง เพื่อให้ร่างกายตั้งตรงและทรงตัวได้

:b39: ภาวะเท้าโก่งหรือหลังเท้านูน มีผลการสำรวจพบว่า
การใส่รองเท้าส้นสูง ซึ่งเท้าต้องเขย่งเป็นเวลานาน
ส่งผลให้เท้าโก่งจากการดึงรั้งของพังฝืดใต้ฝ่าเท้า(Plantar Fascia)

:b39: ภาวะเท้าแบน ตามทฤษฎีธรรมชาติกับความเจริญในเมือง
(Nature VS Civilization Theory) ของนายแพทย์ฟิลลิป วาสิลี
แพทย์เฉพาะทางด้านเท้า ชาวออสเตรเลีย ได้อธิบายไว้ว่า
เป็นการเปลี่ยนแปลงของเท้าให้บิดเข้าด้านในและอุ้งเท้าแบนลง
มื่อต้องสัมผัสกับพื้นรองเท้าที่แข็งแบน
ซึ่งส่งผลให้มีคนทั่วโลกกว่าร้อยละ 70 เกิดภาวะนี้
โดยสังเกตจากอาการปวดเข่า เกิดปุ่มโปนข้างหัวแม่เท้า
และปัญหารองช้ำ (Plantar fasciitis)
หรืออาการปวดบริเวณอุ้งเท้าจนถึงส้นเท้า
โดยเฉพาะก้าวแรกหลังจากตื่นนอนตอนเช้า หรือนั่งนาน ๆ แล้วลุกขึ้นยืน


:b48: เทคนิคดูแลเท้า

:b39: ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า รองเท้าที่ดีควรสูงไม่เกิน 1 นิ้ว
และลักษณะส้นไม่ควรเป็นส้นเข็มหรือเล็กเกินไป
เพราะนอกจากจะทำให้การทรงตัว เสียสมดุล
แล้วยังทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายอีกด้วย

:b39: ควรเลือกรองเท้าที่ยาวกว่าเท้าประมาณ 1 เซนติเมตร
และไม่บีบนิ้วเท้าเกินไป เพราะโดยปกติขณะเราเดิน
เท้าจะเคลื่อนไปด้านหน้าประมาณ 7 มิลลิเมตร
ดังนั้นคนที่ใส่รองเท้าพอดีเกินไปจึงเกิดปัญหากับเล็บและนิ้วเท้า
เป็นเหตุให้เล็บเสีย นิ้วเท้างุ้มงอ และเบียดกันได้

:b39: เลือกรองเท้าที่มีพื้นสัมผัสนุ่ม หรือเสริมพื้นรองเท้า
เพื่อช่วยลดแรงกระแทก เสริมแผ่นรองส้นหรือกันส้นเพื่อลดการเสียดสี
ป้องกันผิวหนังด้านและเกิดตาปลา

:b39: ควรเลือกซื้อรองเท้าช่วงบ่ายซึ่งเป็นช่วงที่เท้าขยายเต็มที่
และควรลองสวมรองเท้าทั้งสองข้าง

:b39: รองเท้าที่ดีต้องกระชับ ไม่คับหรือหลวมเกินไป
ส้นเท้าอาจเลื่อนขึ้นลงได้เล็กน้อยขณะเดินแต่ไม่ควรหลุดจากเท้า
และเปลี่ยนความเชื่อที่ว่ารองเท้าคับจะยืดออกเมื่อใช้ไปสักพัก
เพราะกว่ารองเท้าจะยืดออกเท้าของคุณอาจบาดเจ็บก่อนได้

:b39: เมื่อมีอาการเจ็บหรือปวด ควรรีบหาสาเหตุ
เพราะบางครั้งรองเท้าอาจหมดสภาพ หรือไม่เหมาะสมกับโครงสร้างเท้า
และคุณอาจผ่อนคลายเท้าโดยการแช่น้ำอุ่น
ร่วมกับการบริหารกล้ามเนื้อขาและเท้าอย่างง่าย
โดยกระดกปลายเท้าขึ้นให้สุด จนรู้สึกตึงที่น่อง ค้างไว้ 10 วินาที
ทำซ้ำ10 ครั้ง จะช่วยลดอาการปวดเมื่อยเท้าได้


ที่มา...Health & Cuisine

:b48: :b8: :b48:

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 24 เม.ย. 2010, 16:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ก้าวย่างสู่สุขภาพดี

:b48: :b8: :b48:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

:b48: :b8: :b48:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/