ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
โมงยามแห่งความสุข http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=19&t=28784 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลูกโป่ง [ 19 ม.ค. 2010, 10:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | โมงยามแห่งความสุข |
![]() ใครๆ ก็อยากมีความสุข แต่หากแสวงหาไม่ถูกวิธี ก็ใช่จะมีความสุข ในทางกลับกัน ถ้าแสวงหาถูกวิธี ก็จะมีความสุขด้วยวิธีที่แสนเรียบง่าย และเป็นเรื่องธรรมดาสามัญอย่างที่สุด ในรอบปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์และเรื่องราวหลายอย่างที่ทำให้ผู้เขียนมีความสุขมาก และคิดว่าบางเรื่องหากนำมาเล่า ก็อาจจะทำให้หลายคนพลอยมีความสุขไปด้วยเช่นเดียวกัน ติช นัท ฮันห์ เรื่องที่หนึ่ง เป็นความสุขทางจิตวิญญาณล้วนๆ ซึ่งเกิดจากการที่ผู้เขียนโชคดี ได้รับอาราธนาให้ไปร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการเจริญสติกับสังฆะแห่ง หมู่บ้านพลัม เมืองบอร์โดซ์ ประเทศฝรั่งเศส เวลาสองอาทิตย์ ที่ผู้เขียนได้ใช้ชีวิต อยู่ในชุมชนแห่งผู้ฝึกปฏิบัติเพื่อการเจริญสติ นับเป็นโมงยามแห่งความสุข ความรื่นรมย์ของชีวิตโดยแท้ เพราะที่หมู่บ้านพลัมนั้น นักบวชทุกคนและอาคันตุกะผู้มาเยือนทุกคน ไม่ว่าจะมาจากไหนก็ตาม ล้วนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน กล่าวคือ ทุกคนล้วนมาเพื่อต้องการฝึกเจริญสติด้วยการตื่นรู้อยู่กับปัจจุบันขณะทั้งสิ้น เราแทบไม่พูดถึงเรื่องอื่นที่นอกเหนือไปจากเรื่องการฝึกเจริญสติเลย มองไปทางไหนก็เห็นแต่รอยยิ้มของมวล “กัลยาณมิตร” นานาชาติกว่า 700 ชีวิต แม้ว่าตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เราจะพูดน้อยอย่างยิ่ง แต่บรรยากาศโดยรวมก็ถือว่า เรามีความเข้าใจกันอย่างสูงยิ่ง เป็นความเข้าใจในกันและกันโดยไม่ผ่านคำพูด หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ นั้น นับเป็นรูปธรรมของการตื่นรู้อยู่กับปัจจุบันที่ชัดเจนที่สุด ชนิดไม่ต้องการคำบรรยายใดๆ อีก เพราะไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวอิริยาบถ การพูด การมอง การลบกระดาน การก้าวย่าง การเหลือบ การแล การดื่ม การขบฉัน การยิ้ม ทุกอิริยาบถของท่าน ล้วนแสดงให้เห็นถึงความสงบที่ถูกอบร่ำด้วยพลังแห่งสติมาอย่างยาวนานลึกซึ้งทั้งสิ้น เมื่อได้อยู่ใกล้ครูบาอาจารย์ที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งสติ พลังแห่งสติภายในตัวของเราเองก็พลอยถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ที่ผู้เขียนรู้สึกโชคดีไม่ใช่เพียงเพราะว่าได้ไปเยือนที่หมู่บ้านพลัมในฐานะ นักบวชรูปหนึ่งเท่านั้น แต่ที่หมู่บ้านพลัม ผู้เขียนได้รับความเมตตาอย่างสูงยิ่งจากท่านติช นัท ฮันห์ และจากพี่น้องบนเส้นทางธรรมเสมือนหนึ่งเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ทุกวัน ผู้เขียนได้นั่งสวดมนต์ใกล้ชิดกับหลวงปู่ติช นัท ฮันห์ ได้เดินจงกรมร่วมกับท่าน ได้ฟังธรรมจากท่านซึ่งๆ หน้า และที่ถือว่าเป็นความเมตตาอย่างสูงยิ่งก็คือ หลวงปู่ได้เมตตาให้เข้าไปเยี่ยมชมกุฏิที่พำนักส่วนตัวของท่านทุกหลังในวัด แต่ละแห่ง ซึ่งทำให้ผู้เขียนเกิดแรงบันดาลใจหลายอย่างต่างประการ จนไม่อาจพูดออกมาเป็นถ้อยคำได้ ก่อนกลับจากหมู่บ้านพลัม วันนั้น ขณะที่ผู้เขียนเดินจงกรมตามหลวงปู่อยู่นั่นเอง ท่านก็หยุดเดิน พร้อมกับก้มลงเด็ดดอกหญ้าดอกหนึ่งจากบนพรมหญ้าเขียวขจี ที่เป็นทางเดินจงกรม ยื่นให้แก่ผู้เขียน พร้อมกับเชื้อเชิญขอให้กลับมาเยี่ยมหมู่บ้านพลัมอีกจะกี่ครั้งก็ได้ ตามแต่ใจต้องการ จนถึงวันนี้ ดอกไม้ดอกนั้นยังคงผลิบานอยู่ในใจผู้เขียนเสมอมา เป็นดอกไม้แห่งไมตรี ดอกไม้แห่งสติ ดอกไม้แห่งความปีติเบิกบาน จากขุนเขาหิมาลัยทางปัญญาของโลก แด่กรวดทรายกระจิริดจากประเทศไทย สองอาทิตย์ที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับครูบาอาจารย์ผู้เป็นวิปัสสนาจารย์ชั้นยอดของโลก นับเป็นสิริมงคลแห่งชีวิตมิรู้ลืมของผู้เขียนไปตลอดกาล ก่อนเดินทางกลับ ผู้เขียนสรุปประสบการณ์ครั้งสำคัญในชีวิตตลอดสองอาทิตย์นั้น เป็นปณิธานในการ ดำเนินชีวิตให้กับตัวเองว่า “เราจะเดินอยู่บนหนทางที่ถูกต้อง” เพราะเราได้เห็นแล้วว่า ผู้ที่เดินอยู่บนหนทางที่ถูกต้อง “อริยมรรค” นั้น มีชีวิตที่ประเสริฐและเป็นประโยชน์เกื้อกูลต่อโลกเพียงใด รายงานโดย :ว.วชิรเมธี: วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2553 ที่มา...โพสต์ทูเดย์ ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |