ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
...สุขภาพจิตและความเครียด... http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=19&t=27957 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลูกโป่ง [ 24 ธ.ค. 2009, 10:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | ...สุขภาพจิตและความเครียด... |
![]() ในสมัยก่อนเราอวยพรซึ่งกันและกันด้วยคำว่า "ขอให้สุขภาพแข็งแรง มีอายุมั่นขวัญยืน" แต่ในปัจจุบันเราพูดกันติดปากแล้วว่า "ขอให้ท่านมีสุขภาพกายที่แข็งแรง มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์" หรือบางท่านก็จะอวยพรว่า "ขอให้มีความสุขทั้งกายและใจ" เป็นต้น แสดงว่า เรื่องของสุขภาพจิต หรือสุขภาพของจิตใจเริ่มเข้ามามีบทบาท และเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ทุกคนรู้จัก "ความเครียด" และทราบดีว่าความเครียดนั้น สามารถก่อให้เกิดความไม่สบายได้ ทั้งทางด้านจิตใจ และมีผลสะท้อนสู่ความไม่สบายของร่างกายได้ด้วย สุขภาพจิตมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดต่อความเครียด ถ้าจะพูดง่าย ๆ สุขภาพจิตที่ดี ย่อมมีความเครียดน้อยมาก หรือมีความเครียด แต่เพียงพอดี ๆ และสามารถแก้ปัญหาขจัดความเครียด ให้บรรเทาเบาบางไปได้ นำมาซึ่งความสุขและความสบายของจิตใจ หากความเครียดเกิดขึ้นจาก เรื่องราวที่ใหญ่โตมากมาย เช่น อยู่ในฐานะเป็นหนี้เป็นสินใกล้ล้มละลาย ยังต้องเสียของรัก หรือเสียคนอันเป็นที่รัก ยังถูกผู้ใกล้ชิดดูถูกเหยียดหยาม ขาดคนเข้าใจ ขาดคนเห็นใจ ความเครียดเหล่านี้ย่อมนำมาให้เกิดสุขภาพจิตแปรปรวน กลายเป็นความทุกข์ทางใจ สุขภาพจิตที่ดี เกิดขึ้นจากความสมหวัง ความสำเร็จ และการตอบสนองที่ดี เหมาะสม ถูกใจ ถูกอารมณ์ หรือประสบผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะแตกต่างกันในแต่ละคน แต่ละวัย ![]() จะต้องการทั้งอาหารกายและอาหารใจ อาหารกายที่ดีที่สุดคือ นมแม่ อาหารใจคือ ความรักความ เอาใจใส่ การสัมผัสโอบอุ้มและสัมผัสใกล้ชิด ด้วยความทะนุถนอมอย่างต่อเนื่อง จากพ่อแม่ รู้จักป้อนเมื่อทารกหิว หมั่นทำความสะอาดร่างกายให้กับทารก เมื่อเนื้อตัวสกปรก หรือเมื่อเปียกเปื้อนอุจจาระ ปัสสาวะ โดยปฏิบัติทุกอย่างให้ทารกด้วยความละมุนละไม ![]() มักกลัวการถูกทอดทิ้ง ต้องการความรักใคร่และใกล้ชิดจากผู้ใหญ่ โดยเฉพาะพ่อแม่ ต้องการการเรียนรู้ การสอน และบอกกล่าวไปตามความเหมาะสมแก่วัยของเด็ก เด็กที่กลัวถูกทอดทิ้ง หรือถูกทิ้งห่างมาบ้างแล้วจากที่บ้าน มักมีปัญหาไม่อยากไปโรงเรียน พ่อแม่ควรไปส่งและไปรับกลับให้ตรงตามเวลา วัยเด็ก ยังเป็นวัยแห่งการเรียนรู้ พ่อแม่ควรอบรมสั่งสอนอย่างใกล้ชิด และคำสั่งสอนต่าง ๆ นั้นจะประสบความสำเร็จได ้ ก็ต่อเมื่อพ่อแม่จะต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี เพื่อวางรากฐานให้ลูกได้เติบโตเป็นพลเมืองดี มีความรู้ และปฏิบัติงานสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และชาติบ้านเมือง ![]() เป็นวัยอยากรู้ อยากลอง ติดเพื่อน และชอบขัดแย้งกับผู้ใหญ่ พ่อแม่ต้องทำตัวเป็นที่ปรึกษา เป็นเพื่อนสนิท เพื่อช่วยกล่อมเกลา ให้ลูกเดินถูกทิศทาง การที่พ่อแม่จะแสดงความขัดแย้งอย่างรุนแรง หรือลงโทษเด็กวัยนี้อย่างรุนแรง อาจได้ผลในทางตรงกันข้าม คือ ลูกในวัยรุ่นอาจจะไม่ยอมเชื่อฟังผู้ใหญ่อีกต่อไป ![]() ผู้ใหญ่เป็นวัยที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งรับผิดชอบตัวเอง ครอบครัว และสังคม ทำให้เครียดง่าย แต่ก็ยังมีพลังที่จะทำงานได้เต็มที่ เมื่อมีปัญหาในชีวิตควรคิดแก้ไข ไม่ท้อถอย ถ้าแก้ปัญหาด้วยตัวเองไม่ได้ ควรปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือจากผู้ใกล้ชิด ยึดหลักศาสนา เพื่อทำให้จิตใจสงบ ไม่รุ่มร้อนด้วยอารมณ์ร้าย ๆ เช่น โกรธแค้น อาฆาต อิจฉาริษยา เศร้าใจ น้อยใจ หาเวลาพักผ่อน เที่ยวเตร่ เล่นกีฬา หรือทำงานอดิเรกที่ชอบเพื่อช่วยลดความเครียด ![]() ผู้สูงอายุจะมีเวลาว่างมาก ควรใช้ให้เป็นประโยชน์ เช่น ทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ สังสรรค์กับเพื่อนฝูง ทำบุญ ทำกุศล ฯลฯ ผู้สูงอายุมีประสบการณ์มาก ควรถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ เช่น เขียนหนังสือ เล่าให้ลูกหลานฟัง เป็นที่ปรึกษาปัญหาต่าง ๆ และลูกหลานควรรับฟังด้วยความเคารพ ผู้สูงอายุมักมีร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง จึงไม่ควรทำงานแบบหักโหม และควรออกกำลังกายเบา ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพราะจิตใจจะแจ่มใส ถ้าร่างกายปกติสุขด้วย ศึกษาธรรมะเพื่อให้ใจสงบสุข ละวางต่อความทุกข์ ความไม่สบายใจที่เกิดจากสังคมและจากบุคคลใกล้ชิด ทั้งหมดที่กล่าวแล้วนั้น เป็นสาระน่ารู้เบื้องต้น ที่เกี่ยวกับสุขภาพจิตในวัยต่าง ๆ ซึ่งถ้าได้ดำเนินไปด้วยดีตั้งแต่เด็ก ผู้นั้นก็จะมีพื้นฐานของสุขภาพจิตที่เข้มแข็งอยู่แล้วพอสมควร สามารถทนทานต่อความเครียด และสามารถเผชิญความเครียดได้ดีพอสมควร นอกจากนั้นสุขภาพจิตในครอบครัว ซึ่งก็คือข้อปฏิบัติเบื้องต้น ระหว่างสามีภรรยาก็มีความสำคัญในการที่จะรักษาความสุขทางใจ ให้เกิดกับทุก ๆ สมาชิกในครอบครัว ทิ้งห่างจากความเครียดทั้งหลาย ![]() ตัวอย่างเช่น 1. มีเวลาที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน สนุกสนานด้วยกัน คุย กัน ปรึกษาหารือและปรับทุกข์กัน 2. ร่วมกันรับผิดชอบชีวิตครอบครัว ช่วยกันทำงานทั้งงานนอก บ้านและงานในบ้าน 3. ควบคุมอารมณ์ เมื่อฝ่ายหนึ่งร้อน อีกฝ่ายต้องเย็น พยายาม ประนีประนอมดีกว่าเอาชนะกันถึงขั้นแตกหัก 4. ยกย่อง ให้เกียรติกัน ชมเชยเมื่ออีกฝ่ายทำความดี รักษา มารยาท ไม่ลบหลู่ ดูถูก หรือใช้ถ้อยคำหยาบคายทำร้ายจิตใจกัน ![]() ข้อปฏิบัติระหว่างพ่อแม่กับลูกก็มีความสำคัญอย่าง เช่น 1. มีเวลาพูดคุย เป็นที่ปรึกษา อบรมสั่งสอน ไต่ถามทุกข์สุข เล่น กับลูก ๆ 2. ปฏิบัติต่อลูก ๆ อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ลำเอียง เพื่อพี่น้องจะได้ ไม่อิจฉากัน 3. แบ่งงานบ้านให้ลูก ๆ ช่วยทำเพื่อฝึกหัดให้มีความรับผิดชอบ และฝึกที่จะช่วยตัวเองเป็นเมื่อโตขึ้น 4. ไม่เข้มงวด ดุด่า หรือปล่อยปละละเลย หรือโอ๋ลูกมากเกินไป เมื่อลูกทำผิดก็ต้องลงโทษตามสมควร เมื่อลูกทำดีก็ต้องชมเชย ไม่เพิกเฉย ส่วนข้อแนะนำอันเป็นกลยุทธ์ที่จะสร้างความสุขเบื้องต้นในครอบครัวอย่างง่าย ๆ ก็คือ เมื่อคิดจะมีลูก ควรมีแค่ 2 คน เพื่อจะเลี้ยงดูได้เต็มที่ เมื่อภรรยาตั้งครรภ์ สามีต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ เมื่อมีความทุกข์ต้องปลุกปลอบใจกัน ไม่ทอดทิ้งกัน เมื่อมีปัญหาขัดแย้ง ต้องชี้แจงกันด้วยเหตุผล ระงับการใช้อารมณ์และกำลัง เมื่อมีภาระหนัก ต้องช่วยกันแบ่งเบา ไม่เอาเปรียบกัน เมื่อแต่งงานกันแล้ว ต้องช่วยกันทำมาหากิน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน ครอบครัวเป็นสุข เมื่อทุกคนรักใคร่ปองดองกัน เมื่อ ความเครียดที่เกิดจากภัยเศรษฐกิจก็ตาม ภัยทางสังคม ด้านการเมือง ด้านภัยแล้ง เข้ามาเบียดเบียนทำให้เสียสุขภาพจิต หรือเกิดความเครียดอย่างรุนแรง ทำให้ป่วยทางใจ จะมีอาการต่าง ๆ ได้ดังนี้ คือ อาการวิตกกังวลมากกว่าปกติ หงุดหงิดง่าย ไม่ค่อยมีสมาธิในการทำงานหรือการเรียน มีเหงื่อออกตามมือตามเท้า เศร้าเสียใจเกินกว่าเหตุ ชอบโทษตัวเองว่าไม่ดี บางทีก็คิดฆ่าตัวตาย ชอบคิดว่าตัวเองป่วยเป็นโรคนั้นโรคนี้ ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไร อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เบื่อหน่าย ไม่อยากทำอะไร หวาดกลัวอย่างไม่สมเหตุสมผล เช่น กลัวความสกปรก กลัวเชื้อโรค กลัวสัตว์บางชนิด กลัวที่แคบ กลัวที่สูง ย้ำคิดย้ำทำ ทำอะไรซ้ำ ๆ ซาก ๆ โดยไม่จำเป็น เช่น ล้างมือบ่อย ๆ ทั้งที่ไม่เปื้อน ตรวจตรากลอนประตู หน้าต่างก่อนนอนคืนละหลาย ๆ เที่ยว อาการต่าง ๆ เหล่านี้เป็นอาการจริง ๆ เกิดขึ้นจริง ๆ มิได้แกล้งทำให้เกิด หรือจงใจให้เกิดอาการแต่ประการใด เพียงแต่ว่าอาการจริงๆ ที่เกิดเหล่านี้เป็นอาการของโรคที่เกิดจากความเครียด โรคที่เป็นความแปรปรวนของสุขภาพจิต ทำให้เกิดความไม่สมดุล ของระบบประสาทอัตโนมัติต่าง ๆ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือและรักษา แพทย์ที่มีความรู้ทางด้านสุขภาพจิตโดยทั่วไป และจิตแพทย์จะช่วยท่านได้ โดยเฉพาะตามคลินิกคลายเครียด ซึ่งมีอยู่ทั่วไปตามโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ทั่วราชอาณาจักร ทั้งทางภาครัฐและภาคเอกชน นายแพทย์สุรพงศ์ อำพันวงษ์ สนับสนุนข้อมูลโดย หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ที่มา... http://www.elib-online.com/doctors/mental_stress.html |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 24 ธ.ค. 2009, 19:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ...สุขภาพจิตและความเครียด... |
![]() ![]() ![]() สาธุครับคุณลูกโป่ง ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |