ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

สาธุ....กับความสงบ..เย็น
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=19&t=24529
หน้า 1 จากทั้งหมด 9

เจ้าของ:  COMA! [ 31 ก.ค. 2009, 11:00 ]
หัวข้อกระทู้:  สาธุ....กับความสงบ..เย็น

ในเวลาแต่ละวัน เราอาจจะหาโอกาสได้นั่งพักผ่อนสบายๆริมฝั่งแม่น้ำ
หรือว่าที่ลานหน้าบ้านของเราหรือในสวนเล็กๆของเราก็ได้
นั่งอย่างคนที่มีปัจจุบันขณะที่นั่งอยู่จริง ๆ ไม่ได้คิดถึงสิ่งอื่น
การใช้จิตของเราจดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออกอย่างอ่อนโยน
และผ่อนคลายนั้นจะทำให้เรามีปัจจุบันขณะอย่างแท้จริง

จิตของเราจะไม่คิดถึงอดีตแล้วก็ไม่หวาดระแวงในอนาคต
การฝึกให้มีกายกับใจของเราอยู่เป็นหนึ่งเดียวกันในปัจจุบันขณะ
เพราะมีลมหายใจที่เชื่มโยงนั้นจะทำให้ชีวิตของเราสดชื่น
และเบิกบานจริงๆอย่างเรียบง่าย ไม่ต้องอาศัยวัตถุภายนอกเลย
การเริ่มฝึกปฏิบัตินั้น ทำให้ใจเราหนักแน่นและมั่นคงขึ้น
จึงเป็นสิ่งที่น่าอนุโมทนาอย่างยิ่ง

เรากลับมาสู่ลมหายใจที่มีปัจจุบันขณะที่รู้ตื่น และเบิกบานกันบ่อยมากขึ้น
แล้วใช่ไหมในช่วงนี้เราจะเห็นว่าเมื่อลมหายใจของเราเบาขึ้น
กายกับใจของเราก็สงบระงับมากขึ้นความคิดลังเลสงสัยฟุ้งซ่านจะน้อยลง
เราจึงมีความคิดที่คมขึ้นมาจากพื้นฐานของจิตที่สงบนั่นเอง

ความคิดนั้นจะทำให้เรามีชีวิตที่ทันสมัยอย่างแท้จริง
เพราะว่ามันไม่ทุกข์เพราะความคิด
ถ้าเรามีปัจจุบันทุกขณะอย่างคนที่เบิกบาน
เพราะความทุกข์ไม่รบกวนจิต เราก็เริ่มมีชีวิตที่สดใสจริง ๆ แล้ว
จงมีความสุขกับปัจจุบันทุกขณะที่ทันจิตอย่างแท้จริง
แล้วเราจะเห็นว่าโลกใบนี้มีอิสระอย่างแท้จริง


ไฟล์แนป:
64522029jr5.jpg
64522029jr5.jpg [ 26.07 KiB | เปิดดู 9499 ครั้ง ]

เจ้าของ:  COMA! [ 31 ก.ค. 2009, 11:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สาธุ....ความสงบ เย็น

การได้เกิดเป็นมนุษย์ถือเป็นโอกาสพิเศษของชีวิตทีเดียว
ศักยภาพของมนุษย์ที่จะต้องไปให้ถึง
ก็คือการใช้โอกาสในการเกิดนี้เป็นการเกิดที่ไม่เกิดอีกแห่งทุกข์
เราต้องท้าทายตัวเราเอง ที่จะมีชีวิตที่ให้โอกาสในการเกิดของเรา
ทำหน้าที่ทุกหน้าที่ในทุกการกระทำ ทุกคำพูดและทุกความคิดของเรา
จะต้องมีความไม่ประมาทอยู่ในทุกๆขั้นตอนของชีวิตที่เดียว

ถ้าคุณมีความสุขที่จะใช้ชีวิตอย่างนี้
อย่างคนที่รู้ว่าศักยภาพสูงสุดของเราที่จะไปถึงคือการฝึกฝนตัวเอง
รู้จักการใช้ชีวิตที่ฝึกปฏิบัติทั้งกายภาวนา ศีลภาวนา จิตภาวนา
และปัญญาภาวนา คือการดูแลร่างกายของเราให้ถูกต้องในทุกขั้นตอน
ดูแลความเป็นปกติของการใช้ชีวิตประจำวันของเรา
รักษาใจของเราให้ดำรงอยู่ซึ่งความมั่นคงของสมาธิ แล้วก็ภาวนาให้มาก
เราจะมีชีวิตที่รู้ว่าการเกิดของเราทำให้โลกใบนี้ผาสุกและงดงามได้
ขอให้คุณมีความสุขกับการใช้ชีวิตในโอกาสแห่งการเกิดของคุณ
และใช้การเกิดนี้เป็นการเกิดที่ไม่เกิดอีกแห่งทุกข์


ไฟล์แนป:
9c0e6e04c304e36cc93cc47fd87759b4_web.jpg
9c0e6e04c304e36cc93cc47fd87759b4_web.jpg [ 59.95 KiB | เปิดดู 9571 ครั้ง ]

เจ้าของ:  COMA! [ 31 ก.ค. 2009, 11:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สาธุ....ความสงบ เย็น

เรามาแข่งขันกับตัวเราเองดีไหม?
ถ้าเพื่อเราแข่งขันกับคนอื่น มันเห็นแก่ตัวด้วยกันทั้งนั้นแหละ
เพราะเราคงไม่อยากให้ใครชนะเราใช่ไหมคะ
เปลี่ยนความคิดที่จะแข่งขันกับคนอื่น มามีตัวเราเองเป็นคู่ต่อสู้ดีกว่า
ชีวิตของเรา เราสามารถที่จะพัฒนามันได้ทุกวัน
เมื่อวานนี้ทำอะไร วันนี้ทำให้ดีกว่าเมื่อวาน
ใช้ตัวเราเองเป็นเครื่องวัด ในการที่เราจะเห็นว่าชีวิตของเราดีขึ้นได้ทุกวัน

นั่นคือศักยภาพภายในตนของเราก็จะเติบโตขึ้นด้วย การแข่งขันกับตัวเอง
จะทำให้เราสามารถเป็นคู่แข่งขันกับคนอื่นได้ อย่างเป็นกัลยาณมิตรด้วย
การที่มีคนอื่นเป็นเครื่องวัด ที่จะทำให้เรามีความตระหนักรู้
ในการทำหน้าที่ของเราให้เติบโต ไปพร้อมกับการมีเพื่อนนั้นเป็นสิ่งที่ดี
มีบุคคลอื่นเป็นคู่แข่งขันแต่ก็เป็นเพื่อนกันได้ ความคิดของเราจะไม่คับแคบ
จิตใจของเราจะเปิดกว้าง และว่างพอในการที่จะเดินทางไปกับคนอื่นด้วยดี
ไม่ต้องแข่งขัน มีชีวิตที่มีตัวเองเป็นคู่ต่อสู้ และมีคนร่วมโลกเป็นเพื่อนร่วมทาง


ไฟล์แนป:
16485z.jpg
16485z.jpg [ 37.33 KiB | เปิดดู 9039 ครั้ง ]

เจ้าของ:  COMA! [ 31 ก.ค. 2009, 11:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สาธุ....ความสงบ เย็น

การมองโลกในแง่ดีก็ดีกว่ามองโลก ในแง่ร้าย
แต่ทั้งดีทั้งร้ายก็เป็นของคู่ ทั้งสองส่วนนี้อยู่ภายใต้กฏของธรรมชาติ
ลองฝึกที่จะมองโลกตามความเป็นจริงดีกว่า เราจะเห็นว่าทุกสรรพสิ่งที่กำลังปรากฎขึ้น
เป็นของที่ทนอยู่ได้ยากทั้งสิ้น มันเกิดขึ้น ทนอยู่ได้ยากและจบลง
ถ้าเรามองทุกอย่างตามความเป็นจริงอย่างนี้ เราจะไม่ติดดีติดร้าย
เราจะเป็นอิสระในมุมมองของเราที่เปิดกว้าง และใจที่ว่างพอจากการยึดมั่นถือมั่น
การที่เราฝึกที่จะมีชีวิตของเรามั่นคงและหนักแน่นในการที่จะดำรงชีวิตอยู่ เหนือของคู่นั้น
ทุกคนทำได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องของนักบวช หรือว่าผู้ที่สนใจในพุทธ ศาสนาเท่านั้น

แต่คนที่กำลังทำหน้าที่อยู่ในปัจุบันนี้
ถ้าเปิดใจของเราที่จะฝึกมองวิถีชีวิตของเราอย่างมีสติ
เราจะพบว่า เมื่อเราทอดสะพานแห่งสติ ชีวิตของเราจะทุกข์น้อยลง
จงมองโลกตามความเป็นจริงที่เห็นว่าสรรพสิ่งทั้งหลาย
อยู่ภายใต้กฎธรรมชาติ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และจบลง ทุกเรื่องจบลงแน่
ขอให้คุณมีความสุขที่จะมองโลกอยู่เหนือดี เหนือชั่ว


ไฟล์แนป:
Good_morning_Hi5_03.jpg
Good_morning_Hi5_03.jpg [ 29.53 KiB | เปิดดู 9040 ครั้ง ]

เจ้าของ:  Bwitch [ 31 ก.ค. 2009, 11:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สาธุ....ความสงบ เย็น

:b8: สาธุค่ะคุณ COMA!
ดิฉันช้อบชอบสีม่วง สีฟ้าก็ดีค่ะ
มองดอกไม้ในแจกันแล้วอยากไปนั่งอยู่ในสวนจัง
:b47: :b48: :b47: :b48: :b47: :b48: :b47: :b47: :b48: :b47: :b48: :b47: :b48: :b47: :b48:
เห็นด้วยกับการ รักษาใจ ให้มีความสุขกับชีวิตประจำวันค่ะ
:b46: :b45: :b51: :b53: :b53: ทาน ศีล ภาวนา และการเจริญปัญญา ล้วนเป็นอริยมรรคที่ผู้ปฏิบัติจะสามารถรู้ได้ด้วยตัวเองจริงๆ :b8: :b8:

เจ้าของ:  COMA! [ 31 ก.ค. 2009, 11:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สาธุ....ความสงบ เย็น

ทำงานอย่างไรไม่ให้เบื่อ

เบื่ออาจจะเป็นความรู้สึกที่เรา ไม่พอใจในผลงานก็ได้
ลองฝึกทำงานอย่างนี้ ทำงานให้สนุก เป็นสุขในขณะที่ทำงาน
ขอให้ระมัดระวังการทำงานที่เหตุอยู่ทุก ๆ ขั้นตอนเลย

ลองใช้เหตุแห่งงานนั้นเป็นฐานแห่งการภาวนา
มีความสามารถ มีความรู้ มีความรับผิดชอบต่อการทำเหตุด้วยการไม่ประมาทขาดสติ
พยายามที่จะมีความตระหนักรู้เท่าทันในปัจจุบันขณะกับเหตุของงานให้เต็มที่
ผลออกมาอย่างไร ไม่ต้องคาดหวัง แต่เราสามารถที่จะวางแผนได้ในขณะที่ทำงาน
และเห็นว่าแผนของเรานั้นได้ดำเนินไปอย่างคนที่มีความสุขตลอดเวลา
ถ้าอย่างนี้เบื่อเข้ามาไม่ได้หรอก และผลของงานก็มีความสุขอยู่ในทุกขณะที่ทำงานด้วย

เราใช้การงานเป็นฐานแห่งการภาวนาได้
งานเป็นฐานแห่งการยกจิตวิญญาณของเรา
ผู้ทำงานให้เจริญขึ้นในขณะที่ทำงานได้
ขอแค่ให้มีความตระหนักรู้ได้ว่าเราสามารถที่จะภาวนาได้ในทุกขณะ
ทำงานให้สนุก เป็นสุขในการทำหน้าที่
เก็บกิน เก็บใช้แต่พอประมาณ แล้วตัวเบื่อก็จะไม่เป็นเหตุของงาน


ไฟล์แนป:
5yn18wn.jpg
5yn18wn.jpg [ 39.6 KiB | เปิดดู 9042 ครั้ง ]

เจ้าของ:  COMA! [ 31 ก.ค. 2009, 11:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สาธุ....ความสงบ เย็น

tongue tongue

ไฟล์แนป:
3972.jpg
3972.jpg [ 71.86 KiB | เปิดดู 8695 ครั้ง ]

เจ้าของ:  COMA! [ 31 ก.ค. 2009, 11:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สาธุ....ความสงบ เย็น

ทุกคนมีชีวิตและทุกชีวิตก็เป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา
มันเป็นบทเรียน เป็นประสบการณ์และเป็นครูที่ยิ่งใหญ่
ที่จะทำให้ชีวิตของเรามีความก้าวหน้าและเข้มแข็งขึ้น
ขอบคุณปัญหาในชีวิตที่ทำให้เราเติบโตได้ในวันนี้
เรามาเรียนรู้เรื่องของการตามดูความคิดในใจของเรา
ที่จะมีความพร้อม ในการที่จะเผชิญกับสิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้
แต่เราสามารถมีชีวิตที่ไม่ทุกข์ได้ กับสิ่งนั้น
ทุกข์มีไว้ให้เห็น…ไม่มีไว้ให้เป็น...


ไฟล์แนป:
__fw12.jpg
__fw12.jpg [ 31.55 KiB | เปิดดู 9029 ครั้ง ]

เจ้าของ:  COMA! [ 31 ก.ค. 2009, 11:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สาธุ....ความสงบ เย็น

ความโกรธนี้เป็นเหมือนไฟใช่ไหม
เวลาที่เราเห็นไฟไหม้บ้านเรา เราจะทำอย่างไร
ลองตั้งคำถามกับตัวเราเองเรา จะเห็นว่าเราจะรีบดับไฟทันทีใช่ไหม
เราจะไม่เสียเวลาเลยที่จะไปมองดูว่าใครคือคนที่จุดไฟ
ทันทีที่ท่านเห็นว่าท่านโกรธ ท่านควรจะดับความโกรธ
ท่านควรจะดับความโกรธในใจของท่านก่อนเลย
อย่าปล่อยให้ไฟมันไหม้ใจเรา จนเราล้มละลาย
เพราะเรามัวแต่ไปเพ่งโทษว่าใครเป็นคนจุดไฟ
บางคนอาจจะสร้างม๊อบด้วยซ้ำไป
ที่จะหาเสียงคนอื่นมาสนับสนุนว่าฉันควรจะโกรธ
ถ้าอย่างนี้คงต้องล้มละลายแน่ ๆ เลย

ควรดับไฟแห่งความร้อนในใจด้วยสติ
จงฝึกที่จะเป็นบุคคลที่ละอายในการปล่อยให้ชีวิตในขณะที่หายใจเข้า
แล้วรู้ว่าเรากำลังโกรธ เมื่อหายใจออกต้องหยุดความโกรธให้ได้ในทันที
ความโกรธทำให้เราน่าเกลียด ฝึกที่จะมีชีวิตที่หายใจเข้ารู้ว่า
ขณะนี้จิตของเราเยือกเย็น แจ่มใส ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ
เอาไฟแห่งความโกรธออกไปด้วย
ขอให้มีความสุขกับชีวิตที่ไม่ถูกไฟแห่งความโกรธเผาไหม้และลุกลาม
ด้วยสติปัญญาและความไม่ประมาทของท่าน


ไฟล์แนป:
8af0184a382c70dc17e8c6f80dee3a05_size3.jpg
8af0184a382c70dc17e8c6f80dee3a05_size3.jpg [ 94.74 KiB | เปิดดู 9036 ครั้ง ]

เจ้าของ:  COMA! [ 31 ก.ค. 2009, 12:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สาธุ....ความสงบ เย็น

วิถีชีวิตแม่ศรีเรือน
ภาระประจำวันของคุณแม่บ้าน(คุณแจ๋ว)ตามหน้าที่แห่งการครองเรือน
จึงไม่ค่อนสามารถเดินทางไปปฏิบัติธรรมตามใจปราถนาได้มากนัก
แต่คุณแม่บ้านก็สามารถที่จะฝึกสมาธิอย่างง่าย ๆ กับวิถีชีวิตประจำวันได้คะ

ขอเพียงมีความตระหนักรู้...
ทุกขณะที่ลมหายใจของเราเป็นลมหายใจแห่งสติ
ลมหายใจแห่งสติเป็นลมหายใจแห่งความตระหนักรู้ค่ะ
ถ้าเรารู้ว่าขณะนี้ ใจของเรารู้ตื่นและเบิกบาน
ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม ต้องมีสติ
สติคือความตะหนักรู้ก็จะทำให้เกิดสัมปชัญญะ คือความรู้ตัวพร้อม
ลองหายใจตามกันดู หายใจเข้ารู้ หายใจออกรู้
ถ้าเรารู้ว่าหายใจเข้ากายทำอะไรใจอยู่ด้วย
เมื่อเราหายใจออกอีกครั้ง ความรู้ตัวทั่วพร้อมจะเกิดขึ้นทันที
ความมั่นคงแห่งจิตจะปรากฏขึ้น ความมั่นคงแห่งจิตคือสมาธิ
กำลังของจิตขณะนี้จะทำให้ท่านมีความรู้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งเป็นความรู้ที่ทำให้ท่านไม่ทุกข์ ความรู้อย่างนี้เรียกว่าปัญญา
มีสติอยู่ทุกขณะที่หายใจเข้าออก มีความรู้ตัวทั่วพร้อม
และมีกำลังของจิตที่เป็นความมั่นคงของสมาธิ
เราสามารถจะใช้ชีวิตอย่างมีสุขทุกครั้งที่หายใจเข้า แล้วนำความชื่นบานมาสู่ชีวิต
หายใจเข้า หายใจออก ดั่งดอกไม้บาน ภูผาใหญ่กว้าง ดั่งสายน้ำฉ่ำเย็น
ดั่งนภากาศอันบางเบา ฝึกสมาธิกับลมหายใจ ใช้ลมหายใจเป็นเพื่อน เป็นชีวิต
และเป็นเกาะกำบังอันศักดิ์สิทธิ์คะ


ไฟล์แนป:
kvjm2xiykzvwttoyymz0.jpg
kvjm2xiykzvwttoyymz0.jpg [ 29.62 KiB | เปิดดู 9048 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ภัทร์ไพบูลย์ [ 31 ก.ค. 2009, 13:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สาธุ....ความสงบ เย็น

สาธุครับท่านผู้เจริญดอกไม้ธรรมชาติธรรมะก็ธรรมชาติเฉกเช่นเดียวกับชีวิตของกัลญาณมิตรและผมเองรวมแล้วก็เกิดมากธรรมชาติเช่นเดียวกัน ดินก่อให้เกิดพื้นที่ นำก่อเกิดดของเหลวที่เย็นฉ่ำท่านกัลญาณมิตรนำดอกไม้มาให้สมาชิกในลานธรรมชมก็เป็นมงคลชีวิตทำให้สมาชิกในลานธรรมแห่งนี้มีความสุขกับธรรมชาติ สาธุในสิ่งดีที่จัดสรรครับผม



เทพบุตร :b8: :b8: :b8: :b8:

ไฟล์แนป:
คำอธิบาย: นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

218_S.jpg
218_S.jpg [ 103.37 KiB | เปิดดู 9019 ครั้ง ]

เจ้าของ:  COMA! [ 31 ก.ค. 2009, 13:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สาธุ....ความสงบ เย็น

เมตตาคือความรู้สึกเป็นมิตร เป็นเพื่อน
เมตตามีข้าศึกใกล้ๆ ที่ลวงว่าเป็นเมตตาคือโลภะ หวังดี เพราะบุคคลนั้นเป็นที่รัก
เป็นมิตรเพราะต้องการสนิทสนทด้วย หรือหวังดี ช่วยเหลือเพราะต้องการลาภ ยศ สรรเสริญ
อันเป็นลักษณะของโลภะที่เป็นความต้องการ ยินดี ติดข้อง
เมตตาย่อมไม่ทุกข์ แต่โลภะย่อมทุกข์ เมตตาย่อมไม่แบ่งแยกช่วยเหลือทุกคน
โลภะ แบ่งแยกช่วยเหลือเป็นมิตรกับคนที่รัก
ซึ่งประการที่สำคัญที่สุด ต้องมีสติและปัญญาที่รู้ลักษณะของเมตตาและโลภะ
ถ้าไม่รู้เราก็แยกไม่ออกว่าขณะไหน เป็นเมตตา ขณะไหนเป็นโลภะ
การอบรมเจริญเมตตาให้มากขึ้นจึงเป็นเรื่องของปัญญา
เพราะเมตตากับโลภะใกล้กันมาก และการแผ่เมตตานั้น
ไม่ใช่จะแผ่ให้ทุกคนได้ เพราะเมตตายังไม่มีกำลังอย่างนั้น
ต้องเป็นระดับอัปนา แต่ค่อยๆ อบรมจิตให้มีเมตตาทีละเล็กละน้อยได้
เช่น กับครู อาจารย์ แต่ยังแผ่ไม่ได้ หากเรายังหวังผลจากการกระทำนั้นๆ


สาธุ..ด้วยค่ะคุณภัทร์ไพบูลย์....

ไฟล์แนป:
133f97610f59737fbb5d767170eeb7c7_web.jpg
133f97610f59737fbb5d767170eeb7c7_web.jpg [ 27.96 KiB | เปิดดู 9130 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 31 ก.ค. 2009, 15:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สาธุ....ความสงบ เย็น

สาธุ สาธุ สาธุค่ะ...คุณCOMA!

ขอบคุณบทความดีดี
ดอกไม้สวยสวยที่นำมาแ่บ่งปันกันนะคะ

ธรรมะสวัสดีค่ะ

รูปภาพ

เจ้าของ:  jintana63 [ 31 ก.ค. 2009, 16:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สาธุ....ความสงบ เย็น

อนุโมทนาสาธุค่ะ คุณ coma! :b8:
สำหรับบทความที่ดีมากๆ และดอกไม้สวยๆ
ถูกใจจริงๆสำหรับสีม่วง สุขสดชื่นจริงๆค่ะ :b16:
ขอขอบพระคุณมากค่ะ :b51: :b53: :b51:
ธรรมะสวัสดีค่ะ

เจ้าของ:  COMA! [ 04 ส.ค. 2009, 18:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สาธุ....ความสงบ เย็น

tongue ขอบคุณ...กัลยาณมิตรทุกท่านมากนะค่ะ...สำหรับกำลังใจ

ไฟล์แนป:
23_1213211197.jpg
23_1213211197.jpg [ 8.33 KiB | เปิดดู 8896 ครั้ง ]

หน้า 1 จากทั้งหมด 9 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/