ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
คำขอโทษ.... http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=19&t=21199 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | บัวหิมะ [ 22 มี.ค. 2009, 17:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | คำขอโทษ.... |
![]() ![]() ![]() คงจะช่วยเตือนสติเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก ในยุคปัจจุบันอย่างเราๆ ได้เป็นอย่างดี โปรดอ่านด้วยใจเป็นธรรม เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 นายกรัฐมนตรีคนใหม่แห่งออสเตรเลีย เควิน รัดด์ กล่าวคำแถลงการณ์ต่อรัฐสภา ถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ เป็นคำกล่าวขอโทษต่อชาวพื้นเมืองแห่งออสเตรเลีย ต่อความผิดพลาดของบรรพบุรุษชาวผิวขาว เป็นนาทีประวัติศาสตร์ หลังจากที่รัฐบาลชุดก่อนๆ ของออสเตรเลียพยายามเลี่ยงหนีประเด็นนี้มาโดยตลอด ![]() ![]() "วันนี้เราสดุดีชนพื้นเมืองแห่งแผ่นดินนี้ วัฒนธรรมที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งยังสืบสานอยู่ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ เรายอมรับการปฏิบัติที่มิชอบต่อพวกเขา เรายอมรับโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องกับ 'คนรุ่นที่ถูกขโมย' บทที่มีรอยแผลในประวัติศาสตร์ชาติของเรา เวลาได้มาถึงแล้วสำหรับชาติที่จะพลิกหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์ออสเตรเลีย โดยการแก้ไขสิ่งที่ผิดในอดีตให้ถูกต้อง และดังนี้ จึงก้าวต่อไปอย่างมั่นใจในอนาคต..." ![]() ชาวพื้นเมืองแห่งทวีปออสเตรเลียประกอบด้วยชาวอะบอริจินส์และชาวเกาะ ทอร์เรส สเตรต ![]() ก่อนที่ผู้อพยพชาวอังกฤษจะรุกยึดทวีปออสเตรเลียในปี ค.ศ. 1788 ออสเตรเลียทั้งทวีปเป็นบ้านของชาวพื้นเมืองราว 318,000-750,000 คน เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังการขึ้นฝั่งของชาวยุโรป โรคภัยที่ผู้มาเยือนนำมาด้วยฆ่าชาวพื้นเมืองตายไปอย่างรวดเร็ว เฉพาะในพื้นที่ซิดนีย์โรคฝีดาษฆ่าชาวพื้นเมืองกว่าครึ่งหนึ่ง ![]() โรคภัย การเสียดินแดน และการสังหารหมู่ทำให้ชาวพื้นเมืองแห่งทวีปในซีกโลกใต้นี้ลดลงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในช่วงปี ค.ศ. 1788-1900 ชาวพื้นเมืองจำนวนหนึ่งทำงานเป็นกรรมกรให้ชาวผิวขาว เมื่อปฏิทินอะบอริจินส์พลิกถึงต้นศตวรรษที่ 20 ชาวพื้นเมืองก็เหลือเพียงราว 150,000 คน ![]() ![]() เราขอโทษโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการพรากชาวอะบอริจินส์ และเด็กๆ ชาวเกาะ ทอร์เรส สเตรต จากครอบครัวของพวกเขา ชุมชนของพวกเขา และประเทศของพวกเขา สำหรับความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมาน และความบาดเจ็บของคนรุ่นที่ถูกขโมยนี้ ลูกหลานของพวกเขา และครอบครัวที่พวกเขาทิ้งไว้ข้างหลัง เราขอกล่าวคำขอโทษ สำหรับมารดาและบิดาทั้งหลาย พี่ชายน้องชาย พี่สาวน้องสาวทั้งหลาย ในการพรากครอบครัวและชุมชน เราขอกล่าวคำขอโทษ และสำหรับการสูญเสียศักดิ์ศรี กับการลดคุณค่าลงแห่งประชาชนและวัฒนธรรมที่น่าภูมิใจ เราขอกล่าวคำขอโทษ เรา - รัฐสภาแห่งออสเตรเลีย ขอร้องด้วยความเคารพให้รับคำขอโทษนี้ในดวงจิต เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเยียวยาชาติ..." ![]() ในช่วงปี ค.ศ. 1869-1969 ภายใต้กฎหมายและนโยบายต่างๆ ที่ต่อต้านชาวอะบอริจินส์ เด็กชาวพื้นเมืองจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกผสม ถูกพรากจากอกพ่อแม่ไปอยู่ในสถานที่รัฐจัดตั้ง รวมถึงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า โดยที่พ่อแม่ของเด็กไม่มีสิทธิ์คัดค้าน เด็กเหล่านี้เป็นที่รู้จักชื่อ The Stolen Generations (คนรุ่นที่ถูกขโมย) ประมาณตัวเลขไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนคน พวกเขาถูกห้ามไม่ให้พูดภาษาพื้นเมือง ถูกเลี้ยงมาให้เติบโตเป็นแรงงาน น้อยคนจะก้าวพ้นหนทางชีวิตที่มืดมนและความยากไร้ ![]() ![]() มิก ดอดสัน หนึ่งในคณะกรรมการคนหนึ่งลาออกจากสภาการประสานสัมพันธ์ชาวอะบอริจินส์ เขากล่าวว่า "ข้าพเจ้าสิ้นหวังต่อประเทศของข้าพเจ้า และเสียใจต่อความไม่แยแสของผู้นำทางการเมืองผู้ซึ่งไม่ยินดีกับสิ่งที่จำเป็นในการฟื้นฟูเราในฐานะชาติ" "วันนี้เราย่างก้าวแรกออกไป โดยการยอมรับอดีตและแผ้วทางสู่อนาคตที่หลอมรวมชาวออสเตรเลียทั้งปวง อนาคตซึ่งรัฐสภานี้ตั้งหลักการว่า ความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในอดีตจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก อนาคตซึ่งเราวางความมุ่งมั่นว่าชาวออสเตรเลียทั้งปวง ทั้งชาวพื้นเมืองและไม่ใช่ชาวพื้นเมือง ปิดช่องว่างระหว่างเราในเรื่องคุณภาพชีวิตที่ยืนยาว การไปถึงจุดหมายทางการศึกษา และโอกาสทางเศรษฐกิจ อนาคตซึ่งเราโอบอุ้มความเป็นไปได้ของหนทางใหม่ๆ ในการแก้ปัญหา เพื่อสางปัญหาต่างๆ ที่วิธีการเก่าล้มเหลว อนาคตซึ่งตั้งบนฐานของการเคารพต่อกัน การกระทำการด้วยกัน และความรับผิดชอบร่วมกัน อนาคตซึ่งชาวออสเตรเลียทั้งมวล ไม่ว่าเผ่าพันธุ์ใด เสมอภาคกันอย่างแท้จริง เป็นคู่หูเท่าเทียมกัน ด้วยเดิมพันเท่ากันในการปั้นแต่งบทต่อไปในประวัติศาสตร์แห่งประเทศยิ่งใหญ่นี้ - ออสเตรเลีย" ![]() ข้างหลังบ้านเราเองก็มีเหตุการณ์อยุติธรรมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลอบสังหารผู้ค้านอำนาจรัฐในยุคอัศวินครองเมืองช่วงทศวรรษ 2490, การสังหารหมู่แห่ง หกตุลา, ฆาตกรรมแห่ง พฤษภาทมิฬ, นโยบายวิสามัญฆาตกรรมยาเสพติดที่ผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อ ฯลฯ ใช่! เราก็มี 'คนรุ่นที่ถูกขโมย' มากมายที่ครอบครัวของพวกเขาไม่มีโอกาสพบกับพวกเขาอีกเลย มิหนำซ้ำคนบางคนบางกลุ่มยังโรยเกลือบนบาดแผลเหล่านั้นด้วยการบิดเบือนความจริงในอดีต กระทั่งปฏิเสธความคงอยู่ของความผิดพลาดเหล่านั้นอย่างหน้าตาเฉย สองร้อยยี่สิบปีหลังจากความผิดพลาดครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ชาวพื้นเมืองแห่งออสเตรเลียได้ยินคำขอโทษจากลูกหลานของผู้ก่อความผิดเหล่านั้น เราไม่เคยได้ยินคำขอโทษจากใคร! เราได้ยินแต่ความเงียบ ![]() บางทีพวกเขาไม่เคยและไม่มีวันเข้าใจว่า คำขอโทษที่จริงใจมีค่ามากกว่าการเลือกที่จะเงียบ ลืม หรือแก้ตัว คนเขลาเลือกที่จะเงียบ คนตาบอดเลือกที่จะลืม คนขลาดเอ่ยแต่คำแก้ตัว ![]() >>>คำขอโทษอาจมาช้า แต่ไม่เคยสายเกินไป เพราะคำขอโทษเป็นทิพยโอสถในการเยียวยารักษาบาดแผลของสังคม เข้าใจและเรียนรู้บทเรียนที่ผิดพลาดในอดีต แล้วเดินหน้าต่อไป<<< บทความโดย..........วินทร์ เลียววาริณ |
เจ้าของ: | shimai [ 18 เม.ย. 2009, 14:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คำขอโทษ.... |
![]() |
เจ้าของ: | ลูกโป่ง [ 03 มิ.ย. 2009, 05:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คำขอโทษ.... |
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ...คุณบัวหิมะ เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะคะ ธรรมะสวัสดีค่ะ ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |