วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 18:50  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2013, 20:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ค. 2013, 22:27
โพสต์: 76

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
รูปภาพท่านอนาคาริก ธรรมปาละ (Anagarika Dhammapala)
ประดิษฐานอยู่ภายในวัดมูลคันธกุฏีวิหาร (ใหม่) ณ สารนาถ
ท่านอนาคาริกเป็นชาวศรีลังกาผู้ฟื้นพระพุทธศาสนาในอินเดีย
และเรียกร้องสังเวชนียสถานพุทธคยา
สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า คืนมาเป็นของชาวพุทธ
ท่านจึงเป็นผู้มีพระคุณอันยิ่งแก่ชาวพุทธทั่วโลก


ท่านอนาคาริก ธรรมปาละ (Anagarika Dhammapala)

ท่านอนาคาริก ธรรมปาละ เกิดเมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2407

มรณภาพเมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2476

เป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดในการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย

เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมมหาโพธิ์ เมืองกัลกัตตา ประเทศอินเดีย

และเป็นผู้เรียกร้องเอาพุทธสถานในอินเดียกลับคืนมาเป็นของชาวพุทธ

ท่านเกิดในครอบครัวผู้มั่งคั่ง บิดาชื่อว่า เดวิด เหววิตรเน เมื่อได้อ่านหนังสือเรื่อง

ประทีปแห่งเอเชียของท่านเซอร์ เอ็ดวิล อาร์โนล ก็เกิดความซาบซึ้ง มีความคิดอยาก

อุทิศชีวิตถวายต่อพระพุทธองค์ในการฟื้นฟูพุทธศาสนาที่อินเดีย จึงออกเดินทางสู่

อินเดีย เมื่อได้เห็นเจดีย์พุทธคยาที่ชำรุดทรุดโทรมถูกทอดทิ้ง และอยู่ในความครอบ

ครองของพวกมหันต์ จึงเกิดความสังเวชใจ ที่ได้พบเห็นเช่นนั้น จึงทำการอธิษฐานต่อ

ต้นพระศรีมหาโพธิ์ว่า จะถวายชีวิตเป็นพุทธบูชา เพื่อฟื้นฟูพุทธศาสนา ในอินเดียและ

นำพุทธคยากลับคืนมาเป็นสมบัติของชาวพุทธทั่วโลกให้ได้

จากนั้นจึงเดินทางกลับลังกาและก่อตั้ง สมาคมมหาโพธิ์ ขึ้นที่โคลัมโบ หลังจากนั้น

ท่านก็ได้ส่งสมณทูตมาที่พุทธคยา แต่ธรรมทูตทั้ง 4 กลับถูกมหันต์ที่ยึดครองพุทธคยา

รังแกจนบางรูปบาดเจ็บและบางท่านมรณภาพ ท่านต้องเดินทางกลับอินเดียอีก แล้ว

รณรงค์เพื่อให้พุทธคยากลับเป็นของชาวพุทธเช่นเดิม ท่านเดินทางไปพุทธคยาและก็

โดนมหันต์ห้ามเข้าพุทธคยา แต่ท่านดื้อแพ่งจนที่สุดถูกทำร้ายจนเรื่องขึ้นศาล สุดท้าย

ศาลชั้นต้นชี้ขาดให้ชาวพุทธชนะ แต่มหันต์ไม่ยอมจึงฟ้องฎีกา ศาลฎีกา กลับให้มหันต์

ชนะ จึง'ทำให้มหันต์ยึดคืนอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นท่านและพระสงฆ์จึงโดนขับออกจากพุทธ

คยา แม้ว่าจะแพ้แต่ท่านก็ไม่ยอมแพ้ ยังรณรงค์แจกจ่ายบรรยายเขียนหนังสือแจกจ่ายให้

ชาวอินเดียทั่วไปอ่าน ทำให้ชาวอินเดียคนสำคัญ ทั้งคานธี ราธากฤษณัน (อดีต

ประธานาธิบดีคนที่สองของอินเดีย) ท่านรพินทรนาถ ฐากูร เห็นใจแล้วกล่าวสนับสนุน

ท่านธรรมปาละ ทำให้พวกมหันต์เสียงอ่อนลง ต่อมาท่านเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เพื่อ

รณรงค์และบรรยายธรรมและทำให้นางแมรี่ อี ฟอสเตอร์ที่ฮาวายเลื่อมใส ศรัทธา และ

ได้ยอมตนเป็นพุทธมามกะ และบริจาคหนึ่งล้านรูปีแก่ท่านธรรมปาละ ต่อมาท่านธรรม

ปาละได้ก่อตั้งสมาคมมหาโพธิ์ขึ้นหลายแห่งในอินเดีย


รูปภาพ
ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่สารนาถ ชั้นที่ 1

รูปภาพ
สร้างโดยพระเจ้าอโศกมหาราช เมื่อ สองพันสองร้อยกว่าปีก่อนครับ
ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่สารนาถ พาราณสี ที่มหาโพธิสมาคมพาราณสี


ซึ่งที่ประดิษฐานที่เห็นนี้ สร้างโดยท่านอนาคาริกธรรมปาละ เป็นชั้นที่ 2

และมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา นำโดยท่านอาจารย์สุจินต์

บริหารวนเขตต์ จะสร้างที่ประดิษฐาน เป็นชั้นที่ 3 ครอบองค์นี้ครับ

ในปัจฉิมวัยท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่สารนาถพาราณสี ก่อนมรณภาพท่าน

อธิษฐานว่า ขอให้ข้าพเจ้าได้ตายไวๆ แล้วขอให้เกิดมาเผยแพร่ธรรมของพระพุทธองค์

ตลอดไป

ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ความพยายามในการโอนพุทธคยาจากมหันต์ให้เป็นของ

ชาวพุทธยังไม่สำเร็จ จนได้เอกราช ท่านเนห์รูและรัฐบาลของท่าน จึงร่างกฎหมาย

โอนพุทธคยาเป็นของรัฐบาล แล้วแต่งตั้งคณะกรรมการ 8 ท่านเป็นผู้บริหาร โดยเป็น

ฝ่ายฮินดู 4 และพุทธ 4 ส่วน ประธานเป็นนายอำเภอเมืองคยา แม้จะไม่สามารถทำให้

ชาวพุทธเป็นผู้บริหารทั้งหมด แต่ก็นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อชาวพุทธทั่วโลก

กฎหมายนี้สร้างความไม่พอใจให้มหันต์เป็นอย่างมาก จึงฟ้องร้องทางศาลให้ถือว่า

กฎหมายนี้เป็นโมฆะ แต่ประธานาธิบดีของอินเดียและนักการเมืองหลายท่าน ได้ห้าม

ปรามให้มหันต์ถอนฟ้อง เพราะจะเป็นที่อับอายแก่อินเดียทั้งชาติ และมหันต์อาจจะเสีย

มากกว่านี้หลายเท่า มหันต์เชื่อฟังเพียงแต่ยับยั้งกฎหมายไว้แต่ก็ยังไม่ถอนฟ้อง ปัจจุบัน

พุทธคยายังใช้กฎหมายนี้อยู่ ในบั้นปลายชีวิตท่านได้อุปสมบท ณ ป่าอิสิปตน

มฤคทายวัน สารนาถเมืองพาราณสี และมรณภาพที่นั้นเมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2476

รวมอายุ 69 ปี ที่มา จาก วิกิพีเดีย สารานุกรม ซึ่งสามารถอ่านประวัติทั้งหมดได้ที่นี่ครับ

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD% ... 5%E0%B8%B0

********************************************

ซึ่งหากไม่มีท่าน อนาคาริก ธรรมปาละ พระพุทธศาสนาในอินเดีย ก็คงไม่ฟื้นฟูขึ้น

และ สังเวชนียสถาน มีที่พุทธคยา เป็นต้น ชาวพุทธและพุทธศาสนานิกชนทั้งหลาย

ก็คงไม่ได้มีโอกาสไปเคารพสักการะ บูชาในสถานที่เหล่านี้เลย และที่สำคัญที่สุด ที่

ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่สารนาถ ชาวพุทธทั้งหลายก็คงไม่ได้มีโอกาสไป

เคารพสักการะเลย หากไม่มีท่าน เพราะท่านฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในอินเดีย และตัว

ท่านเอง คือ ท่าน อนาคาริก ธรรมปาละ ก็ได้สร้างกุศลด้วยการสร้างที่ประดิษฐาน

พระบรมสาริริกธาตุ เป็นชั้นที่ 2 ครอบ องค์เดิมที่เป็นที่ประดิษฐานเก่า เมื่อครั้งพระเจ้า

อโศกมหาราชได้สร้างไว้ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่ สารนาถเมืองพาราณสี และ มูลนิธิ

ศึกษาและเผยแพร่พระพุทธสาสนา จะไม่มีโอกาสเลยที่จะได้สร้างที่ประดิษฐานพระบรม

สารีริกธาตุ เป็นชั้นที่ 3 ครอบต่อจากของท่าน หากไม่มีท่าน อนาคาริก ธรรมปาละ ครับ

แต่เพราะว่ามีท่าน อนาคาริก ธรรมปาละ ทำให้มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

นำโดยท่านอาจารย์สุจินต์และสหายธรรมทั้งหลาย จะได้มีโอกาสเจริญกุศลครั้งใหญ่

ในการสร้างที่ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่สารนาถ ครอบอีกชั้น เป็นชั้นที่ 3 ต่อ

จากของพระเจ้าอโศกที่เป็นชั้นที่ 1 ท่านอนาคาริก ธรรมปาละ เป็นชั้นที่ 2 ครับ จึงควร

ระลึกถึงพระคุณของท่าน อนาคาริก ธรรมปาละ และอนุโมทนาในกุศลจิตของท่านมา ณ

ที่นี้ครับ ขออนุโมทนา

รูปภาพ

ที่มา : http://www.dhammahome.com/front/webboar ... p?id=20504

อ่านเพิ่มเติมจาก...ท่านอนาคาริก ธรรมปาละ
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=15326

:b45: วัดมูลคันธกุฏีวิหาร (ใหม่) ณ สารนาถ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=43034

.....................................................
".....มหาปุริสภาวสฺส ลกฺขณํ กรุณาสโห....."
".....อัชฌาศัยที่ทนไม่ได้เพราะกรุณาเป็นลักษณะของความเป็นมหาบุรุษ....."


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 10 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร