ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
หลวงปู่ป้อ ธมฺมสิริ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=27090 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 29 พ.ย. 2009, 08:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | หลวงปู่ป้อ ธมฺมสิริ |
![]() ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่ป้อ ธมฺมสิริ วัดบ้านเอียด (วัดโพธิ์ศรีบ้านเอียด) ต.เขวา อ.เมือง จ.มหาสารคาม ๏ อัตโนประวัติ “หลวงปู่ป้อ ธมฺมสิริ” อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านเอียด (วัดโพธิ์ศรีบ้านเอียด) ตำบลเขวา อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ท่านเป็นพระเกจิยุคเก่ามีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วภาคอีสานเมื่อร้อยปีที่ผ่านมา ร่วมสมัยกับ “หลวงปู่ศรีธรรมศาสน์” แห่งวัดใต้โกสุม ตำบลหัวขวาง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม และ “หลวงปู่ซุน ติกขปัญโญ” แห่งวัดบ้านเสือโก้ก ตำบลเสือโก้ก อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม ในปัจจุบันวัตถุมงคลเหรียญรูปเหมือนของทั้ง 3 ท่าน มีราคาเช่าหาในท้องถิ่นหลักพันกลางๆ ส่วนการสืบค้นประวัติของหลวงปู่ป้อ จากปากคำของพระอาจารย์สุข พลลาภ อดีตพระที่เคยปนนิบัติหลวงปู่ป้อ ก็ได้ข้อมูลพอสังเขปเท่านั้น เนื่องเพราะอัตโนประวัติของท่านไม่มีการบันทึกไว้แต่อย่างใด ทราบเพียงว่า หลวงปู่มีพี่สาว 2 คนคือ นางพันและนางจันทร์ โดยหลวงปู่ป้อเป็นบุตรคนสุดท้อง ส่วนโยมบิดา-โยมมารดาไม่ทราบชื่อ เพราะบรรดาญาติๆ ต่างเสียชีวิตไปนานแล้ว เหลือญาติที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันเป็นชั้นเหลน หลวงปู่ป้อ เกิดประมาณเดือนมกราคม ปี พ.ศ.2415 ต่อมาครอบครัวของท่านได้ย้ายบ้านเรือนออกไปอยู่บ้านโนนสะพัง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งใหม่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเอียดเท่าใดนัก ครอบครัวหลวงปู่มีอาชีพทำไร่ทำนาเหมือนชาวอีสานทั่วๆ ไป เมื่อสมัยยังเล็กๆ ท่านก็ช่วยงานครอบครัวด้วยความขยันขันแข็ง ![]() หลวงปู่ซุน ติกขปัญโญ ๏ การบรรพชาและอุปสมบท พออายุกว่าสิบปี โยมบิดา-โยมมารดาได้นำไปบรรพชาเป็นสามเณร และเมื่ออายุ 20 ปี ในปี พ.ศ.2435 จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดในหมู่บ้าน แต่ไม่ทราบว่าพระอุปัชฌาย์ของท่านเป็นผู้ใด ๏ ออกธุดงควัตรและศึกษาด้านไสยเวท หลังจากอุปสมบท ท่านได้จำพรรษาศึกษาพระธรรมวินัยด้วยความขยันขันแข็งอยู่วัดบ้านเอียด มาโดยตลอด ท่านเป็นพระที่เคร่งพระธรรมวินัยมากที่สุดในยุคนั้น แต่ด้วยความที่หลวงปู่ชมชอบความสงบวิเวกช่วงหลังออกพรรษาแทบทุกปี หลวงปู่จะออกธุดงควัตรไปแสวงหาความหลุดพ้นตามป่าเขาลำเนาไพรตามป่าในภาคอีสาน และยังได้ศึกษาเล่าเรียนไสยเวท โดยสันนิษฐานว่า น่าจะศึกษาจากสำนักพระอาจารย์โสภาวดี วัดฟ้าเหลื่อม อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งพระเกจิสายอีสานยุคนั้นมักจะไปเล่าเรียนที่วัดแห่งนี้แทบทั้งสิ้น ความเข้มขลังของท่านเป็นที่เลื่องลือมากในยุคนั้น ท่านเก่งทางเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรีกันบ้านกันเมือง หลวงปู่ป้อเป็นพระที่แม่นพระธรรมวินัย จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นพระวินัยธร และแม่นกฎหมาย อาจารย์พรหมา รักษาเกณฑ์ อดีตเคยเป็นครูสอนอยู่บ้านเอียด ปัจจุบันอายุเกือบ 80 ปี เล่าว่า เมื่อกว่า 60 ปีที่ผ่านมา มีนายตำรวจคนหนึ่งยศร้อยตำรวจโท ออกตรวจพื้นที่มาพบหลวงปู่ที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน และพูดจาทำนองดูถูกว่าหลวงปู่เป็นพระแก่ จึงเกิดมีปากเสียงกัน นายตำรวจท่านนั้นจับท่านไปโรงพัก หลวงปู่ก็ถามว่าจะเอากฎหมายมาตราไหนมาจับท่าน ตำรวจไม่สามารถจะแจ้งข้อหาอะไรได้จึงต้องปล่อยหลวงปู่ๆ จึงเทศน์สั่งสอนให้ตำรวจดูตราที่หน้าหมวกที่พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานมา มีข้อความว่าอย่างไร สุดท้ายนายตำรวจท่านนั้นเกิดสำนึกผิด จึงได้กราบขอขมาท่านซึ่งหลวงปู่ก็เมตตาให้อภัย ![]() หลวงปู่มหานนท์ พรหฺมสีโล ๏ พระนักพัฒนา หลวงปู่ป้อยังเป็นพระนักพัฒนา ท่านได้พัฒนาวัดบ้านเอียด (วัดโพธิ์ศรีบ้านเอียด) ให้เจริญรุ่งเรือง สร้างถาวรวัตถุไว้มากมายไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ ศาลาการเปรียญ นอกจากนั้น ท่านยังเป็นหัวแรงใหญ่ชักชวนชาวบ้านก่อสร้างโรงเรียนประถมศึกษาขึ้นในหมู่บ้าน จนเป็นผลสำเร็จปรากฏอยู่จนถึงปัจจุบัน ในยุคนั้น ด้วยบารมีของหลวงปู่ป้อท่านทำให้มีผู้แสวงบุญมากราบนมัสการ และฟังธรรมที่วัดบ้านเอียดอย่างล้นหลาม ด้วยกิตติศัพท์ที่เลืองลือในเรื่องความเข้มขลังด้านไสยเวท ด้านยาสมุนไพร จึงมีพระภิกษุ สามเณร และฆราวาส จากทั่วทุกสารทิศเดินทางมากราบกรานขอฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงปู่ป้อจำนวนมาก เช่น หลวงปู่เสาร์ วัดศรีสุข, หลวงปู่มหานนท์ พรหฺมสีโล เป็นต้น นอกจากนั้น วัดบ้านเอียด (วัดโพธิ์ศรีบ้านเอียด) ยังเป็นสำนักเรียนที่มีเชื่อเสียงโด่งดัง ทำให้มีพระภิกษุสามเณรจากทั้งใกล้และไกล มาศึกษาเล่าเรียนกับหลวงปู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งท่านจะเคร่งครัดมาก หากไม่ตั้งใจศึกษาท่านจะไม่ให้อยู่ที่วัดอย่างเด็ดขาด ![]() รูปหล่อหลวงปู่ป้อ ธมฺมสิริ ๏ การมรณภาพ ล่วงเข้าสู่ปัจฉิมวัยด้วยความไม่เที่ยงของสังขาร หลวงปู่มีอาการอาพาธบ่อยครั้ง แต่ด้วยความที่ท่านปลงอนิจจังสังเวชเห็นว่าเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดาของสัตว์โลก ท่านจึงไม่ยอมฉันยาใดๆ ทั้งสิ้น สุดท้ายท่านได้มรณภาพทิ้งสังขารลง เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2502 สิริอายุรวมได้ 87 พรรษา 67 หลังเก็บสังขารท่านไว้จนถึงปี พ.ศ.2503 จึงมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ แม้หลวงปู่ป้อจะละสังขารไปนานกว่า 40 ปีแล้ว แต่คุณความดีของท่ายังปรากฏอยู่ในจิตใจของพุทธศาสนิกชนชาวอีสานตราบจนกระทั่งปัจจุบัน ![]() หลวงปู่ป้อ ธมฺมสิริ ............................................................. คัดลอกมาจาก :: หนังสือพิมพ์ข่าวสด หน้า 31 คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6 โดย เชิด ขันตี ณ พล วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 15 ฉบับที่ 5582 |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 29 พ.ย. 2009, 08:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หลวงปู่ป้อ ธมฺมสิริ |
![]() ![]() ![]() อนุโมทนาสาธุด้วยครับ ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |