ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ตำนาน “พระบรมสารีริกธาตุ” (Buddha Relics) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=10&t=55433 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 15 พ.ค. 2009, 22:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | ตำนาน “พระบรมสารีริกธาตุ” (Buddha Relics) |
ตำ น า น พ ร ะ บ ร ม ส า รี ริ ก ธ า ตุ พระบรมสารีริกธาตุ คือธาตุส่วนต่างๆ ในพระวรกายของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่กลายเป็นพระธาตุหลังถูกพระเพลิง ซึ่งแยกชิ้นส่วนเป็นของแข็ง คือ กระดูก ส่วนที่เป็นของอ่อน คือ ส่วนเนื้อหนังและอวัยวะภายในทั้งหมด ซึ่งกล่าวได้ว่า “พระวรกายของพระพุทธเจ้าทั้งหมดหลังการถูกพระเพลิง จะกลายเป็นพระบรมสารีริกธาตุทั้งสิ้น” พระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือที่เรียกเป็นภาษาสามัญว่า “กระดูกของพระพุทธเจ้า” เป็นพระธาตุที่เกิดขึ้นภายหลังการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ หลังจากทรงเสด็จดับขันธปรินิพพาน ได้มีการจัดการพระศพเยี่ยงพระเจ้าจักรพรรดิทั่วไป คือพระห่อพระศพด้วยผ้าใหม่ แล้วหุ้มสำลีสลับกัน ๕๐๐ ชั้น ใส่ลงในรางน้ำมันที่ทำด้วยเหล็ก แล้วปิดด้วยฝาเหล็ก ตั้งเผาบนไม้หอม เสร็จแล้วจึงนำไปบรรจุในสถูป ที่สร้างไว้บนทางสี่แพร่งเพื่อเป็นที่สักการบูชาของคนที่มาทั้งสี่ทิศ แต่ในการถวายพระเพลิงพระศพของพระพุทธเจ้า ได้จัดสถานที่ให้ประชาชนได้มาถวายบังคม ๗ วัน ก่อนที่จะอัญเชิญพระศพเข้าพระนคร เสร็จแล้วจึงได้อัญเชิญพระเพลิงติดขึ้นในทันใด เมื่อพระศพไหม้พระเพลิงดับ จึงได้มีพิธีรวมพระอัฐิธาตุและพระอังคาร (เถ้าถ่าน) ไปตั้งสักการะกลางพระนครอีก ๗ วัน ซึ่งปรากฏว่าหลังพระเพลิงดับ พระฉวี (หนังกำพร้า) พระมังสะ (เนื้อ) พระจัมมะ (หนัง) และพระลสิกา (ไขข้อ) และพระนารหุ (เอ็น) ได้ไหม้และกลายเป็นเถ้าถ่าน ซึ่งตามตำนานกล่าวว่า ภายหลังได้กลายเป็นพระธาตุทั้งสิ้น นอกจากนี้ผ้าชั้นนอกและผ้าชั้นในคู่หนึ่งไม่ไหม้ ส่วนพระอัฐิธาตุทั้งปวงนั้นไหม้ทั้งหมด แต่กลับกลายเป็นเกล็ดสีขาวบริสุทธิ์ สัณฐานใหญ่เท่าเมล็ดถั่วแตก สัณฐานกลางเท่าเมล็ดข้าวสารหัก สัณฐานเล็กเท่าเมล็ดผักกาด และเท่าเมล็ดงา ส่วนที่ยังเป็นชิ้นตามรูปเดิม คือ พระอุณหิสธาตุ (พระอัฐิหน้าผาก) ๑ พระทาฐธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ๔ พระอักขธาตุ (พระรากขวัญ) ๒ พระทันต์ทั้ง ๓๖ ซี่ พระเกศา พระโลมา และพระขนา ตามตำนานพบพระบรมสารีริกธาตุมีเพียง ๔ สัณฐาน ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นเท่านั้น แต่ตามความเป็นจริงแล้ว พระบรมสารีริกธาตุยังมีสัณฐานพิเศษ นอกเหนือจากที่ตำรากล่าวไว้อีกมากมาย นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า พระบรมสารีริกธาตุในส่วนที่มาจากกระดูกนั้น จะสามารถลอยน้ำได้ แต่ต้องค่อยๆ เอาภาชนะช้อนองค์พระธาตุไปวางไว้ในน้ำ ให้น้ำค่อยๆ รองรับองค์พระธาตุ ลักษณะการลอยนั้นองค์พระธาตุจะลอยปริ่มน้ำ กดน้ำจนเป็นแอ่งคล้ายวังน้ำวน และองค์พระธาตุก็จะอยู่ระดับเดียวกันกับผิวน้ำ แล้วจะค่อยๆ เคลื่อนเข้ามารวมกัน พระธาตุของพระอรหันต์ชั้นสูงก็เช่นเดียวกัน เมื่อพระสาวกได้บำเพ็ญเพียรจนบรรลุธรรมชั้นสูง จิตใจที่บริสุทธิ์หมดซึ่งกิเลส พลังแห่งการสั่งสมบารมีจะปรากฏให้เห็น ซึ่งเราเรียกพระธาตุของพระอรหันต์ว่า “พระอรหันตธาตุ” ซึ่งสามารถลอยน้ำได้เช่นกัน • ข้อมูลจาก : ตำนานพระบรมสารีริกธาตุ ใน พระธาตุเจดีย์ มรดกล้ำค่าของเมืองไทย : PHRA THAT CHEDI Thailand’s Precious Heritage โดย ทศพล จังพานิชย์กุล บริษัทคอมม่าดีไซน์แอนด์ พริ้นท์ จำกัด, พิมพ์ครั้งแรก ธันวาคม ๒๕๔๖, หน้า ๑๐-๑๑ • ภาพจาก : พระบรมสารีริกธาตุ (Buddha Relics) โดย มูลนิธิพระบรมธาตุ ในพระสังฆราชูปถัมภ์ เหตุการณ์ต่อเนื่องจาก “วันอัฏฐมีบูชา” โทณพราหมณ์ แบ่งพระบรมสารีริกธาตุออกเป็น ๘ ส่วนเท่าๆ กัน แล้วมอบให้ผู้ครองนครทั้ง ๘ นำไปสักการบูชาที่บ้านเมืองของตน http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=48446 พระบรมสารีริกธาตุ (ท่านพ่อลี ธัมมธโร) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=51360 เหตุที่อัฐิกลายเป็นพระธาตุ มีช้ามีเร็วต่างกัน !?! http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=33571 พระบรมสารีริกธาตุ จัดเป็น “พระธาตุเจดีย์” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=43001 พระธาตุหลวงปู่ขาว อนาลโย (คุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=44367 |
เจ้าของ: | ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ [ 07 ก.ค. 2009, 04:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตำนานพระบรมสารีริกธาตุ |
ขอกราบนอบน้อม พระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระปักเจกพระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระธรรม และ พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ขอให้ข้าพเจ้ามีส่วนในธรรมของพระอริยเจ้าทั้งหลาย |
เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 12 ธ.ค. 2015, 21:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ตำนาน “พระบรมสารีริกธาตุ” (Buddha Relics) |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |