ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

รักษาศีล
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=65596
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  รสมน [ 12 เม.ย. 2025, 13:22 ]
หัวข้อกระทู้:  รักษาศีล

ยามบุญ​มา กา​ไก่​กลายเป็น​หงส์
ยาม​บุญ​หลง​ หงส์​เป็น​กา​น่า​ฉงน
ยาม​บุญ​ชู​ หมู​หมา​กลายเป็น​คน
ยาม​อับจน​ คน​เป็น​หมา​น่า​อัศจรรย์

#หลวงปู่ลี​ ตา​ณํก​โร






การทำบุญสร้างโรงพยาบาล
มีอานิสงส์ยิ่งกว่าสิ่งใด
มากกว่าการทำบุญอย่างอื่น

สร้างโบสถ์ ศาลา กุฏิ วิหาร
ทำบุญกฐินร้อยกองพันกอง อานิสงส์ก็ไม่เท่าสร้างโรงพยาบาล

ลองคิดดู โบสถ์ ศาลา
มีคนไปบวชอยู่ทุกวันไหม ใช้คุ้มค่าไหม
กฐินก็ไม่ได้มีทุกวัน ทุกเวลา
หนึ่งปีมีครั้งเดียว

แต่สร้างโรงพยาบาลนี้
มีอานิสงส์มาก
เพราะมีคนเข้าคนออกตลอดเวลาไม่เคยขาด
ทั้งกลางวัน กลางคืน แน่นตลอด

การทำบุญ
ถ้าทำถูกต้องถูกวิธี
ก็จะได้ผลบุญแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย
แต่ถ้าทำผิดวิธี
ก็จะได้ผลบุญแบบนิดๆ หน่อยๆ

ดังเช่นการเทน้ำใส่ตะกร้า
ก็จะได้น้ำแค่นิดหน่อย
ผิดกับเทใส่แก้ว
ก็จะได้น้ำแบบเต็มๆ
ไม่รั่วหายไปไหน...

#หลวงปู่แฟ็บ สุภัทโท







"..อย่าปล่อยอย่าวาง พุทโธ ธัมโม สังโฆ กราบพระเสียก่อน ขี้เกียจขนาดไหนกดคอมันลง กดคอมันลงกราบพระพุทธเจ้า กราบพระธรรม กราบพระสงฆ์ แล้วให้หลับไปด้วยพุทโธ ๆ หรือธัมโม หรือสังโฆก็ได้ ไม่ต้องคิดอะไรเวลานั้น ตั้งหน้าภาวนาให้หลับ นี่เรียกว่าเป็นคนดีเจริญธรรมภายในใจ ไปไหนให้ระลึกพุทโธ องค์ศาสดาเลิศอยู่ภายในจิตใจ หรือธัมโม หรือสังโฆก็ได้อย่าลืมตัว เราทำกิจการงานบ้านเมืองอะไรเราก็ยังทำได้ เขียนได้ไปได้มาได้ เราคิดเรื่องอรรถเรื่องธรรมติดแนบกันไปกับงานของเราที่ทำทางโลกทางสงสาร ทำไมทำไม่ได้ ใจดวงเดียวกันทำหน้าที่การงานได้คนละสัดละส่วน ต้องทำได้ทั้งนั้น.."

#เทศนาธรรมคำสอน
พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน) วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
(พ.ศ. ๒๔๕๖ - ๒๕๕๔)






"..ปัจจุบันทุกวันนี้ ก็เหมือนกัน รูปที่เป็นอยู่ เป็นของสกปรกทั้งนั้น ไม่ว่ารูปหญิง รูปชาย รูปพระ รูปฆราวาส เป็นเหมือนกันหมด เหตุใดมันจึงเป็นอย่างนั้น ของที่เราขบฉันรับประทานลงไปเป็นของเน่า ของเหม็น ของเสียทั้งนั้น ไม่ใช่ของดิบของดีอะไร เป็นต้มเป็นแกง เป็นผัดเป็นทอดต่างๆ ถ้าเราทิ้งเอาไว้ ของเหล่านั้นจะเน่า จะเหม็น จะเสีย อยู่ไปคืนสองคืนมีกลิ่นแล้ว นี่ร่างกายของเราที่เอาของเน่าของเหม็นมาบำรุงบำเรอ มันก็เป็นก้อนของเน่า ของเหม็นปฏิกูล ไม่ใช่ของสวยงามอะไร เพราะเหตุนั้น ในร่างกายของเราทั่วไป ไหลออกทางทวารใดก็มีแต่ของสกปรกเน่าเหม็น ไม่เป็นของดิบของดี ของหอมหวาน มีแต่ของเน่า เพียงแต่ลมออกมาเท่านั้น มันก็ยังมีกลิ่น แสดงว่ามันเน่าทั้งตัว มันเหม็นทั้งตัว ไม่มีอะไรที่จะดีวิเศษ.."

ธมฺมวโรวาท
พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร
วัดป่าแก้วชุมพล ต.บ้านชุม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร







"...สมัยก่อนปู่ภาวนาอยู่บนเขา
ต้องเดินลงมาบิณฑบาตในหมู่บ้าน
ทางมันไกลกว่าจะมาถึงก็สายเลย
ได้ข้าวเหนียวปั้นเดียว พอกลับมาถึงฉันข้าวเหนียวเปล่าๆแล้วกินน้ำตามลงไปก็อิ่มเหมือนกัน

แค่เราทำความพอใจให้เกิดจะอาหารอะไรก็อิ่มเหมือนกัน คนเรามันยุ่งยากกันอยู่ก็ตรงนี้หละ
ตรงความพอใจไม่พอใจนี่หละ ถูกใจเราผิดใจเขา
ถูกใจเขาผิดใจเรานี่แหละ..."

หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต
แสดงธรรม เมื่อ16/1/61







"... ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย
มันครอบงำเราอยู่ทุกเมื่อ พิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริงเสีย แม้อบายโลก เขาก็ฆ่ากันกินกันอยู่ ความตายจึงไม่มีที่จะหลีกเร้นซ่อนหนี

... ที่พึ่งอย่างอื่นไม่มีนอกจาก พุทฺธํ ชีวิตํ
ยาว นิพฺพานํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมํ ชีวิตํ ยาว
นิพฺพานํ สรณํ คจฺฉามิ สงฆํ ชีวิตํ ยาว นิพฺพานํ สรณํ คจฺฉามิ ที่พึ่งอย่างอื่นของข้าพเจ้าไม่มี นอกจากพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

... เราต้องหาที่พึ่งอันประเสริฐไว้เสียแต่บัดนี้ แต่ยังมีชีวิตอยู่อย่างนี้ ยังแข็งแรงอยู่อย่างนี้ ถ้าร่างกาย จิตใจมันไม่อำนวยแล้ว จะไปคิด
ถึงอะไร.จะไปยึดไปถือเอาอะไรเป็นที่พึ่งมันยาก ..."
-----------------------------------
#คติธรรม
#หลวงปู่แหวน_สุจิณโณ.วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ (พ.ศ.๒๔๓๐ -​ ๒๕๒๘)







"..ความจริงของความจริงมีอยู่ทุกแห่งทุกหนและทุกเวลาอกาลิโก ขอแต่ปฏิบัติให้ถึงความจริงทำจริง ต้องรู้ตามความสามารถและภูมิวาสนาของตนแน่นอน ไม่ว่าธรรมภายในคือสัจธรรม และธรรมภายนอกคือความรู้แขนงต่าง ๆ ตามภูมินิสัยวาสนาของแต่ละรายที่สร้างมา และความปรารถนาที่ตั้งไว้ไม่เหมือนกัน แต่ผลส่วนใหญ่คือมรรคผลนิพพานนั้น เมื่อถึงแล้วเหมือนกัน.."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)








การพบพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ผู้เข้านิพพานแล้ว

โยมมาเลเซีย : ทำไมพระอรหันต์หรือพระพุทธเจ้ายังมาปรากฏได้ ถ้าท่านเข้าพระนิพพานไปแล้ว

หลวงปู่เปลี่ยน : ท่านดับแต่ขันธ์ ๕ นี่ จิตใจนั้นไม่ได้ดับ เคยเห็นตัวปัญญามั้ย เคยมีตัวรู้แจ้งไหม เคยเห็นปัญญามันดับไหม ไม่ มันดับแต่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ผู้ละขันธ์ ๕ได้ ผู้นั้นก็พันทุกข์เราพันทุกข์ก็คือไม่มาเกิดมีขันธ์อีกนั่นเอง ไม่เกิดอีกก็คือไม่ทุกข์ คนรู้แจ้งเห็นจริงแล้วเขาก็จะต้องไม่เกิด อีก เพราะเราทุกข์กันอยู่เดี๋ยวนี้มีขันธ์ ๕ อยู่นี่ จิตใจที่พันทุกข์จริง ๆ นั้น ตัวที่พันทุกข์คือตัวของปัญญาหรือว่าจิตบริสุทธิ์ เหตุฉะนั้น เราอย่าไปสงสัยอย่างนั้น เราต้องปฏิบัติจนให้เข้าถึงสติปัญญาจริง ๆ ก่อน

เมื่อจิตของบุคคลไหนถึงที่ไหนก็จะรู้ที่นั่น เหมือนกับเราเดินทาง จิตถึงระดับสวรรค์จึงจะเห็นสวรรค์ จิตระดับถึงพรหมโลกจึงจะเห็นพรหมโลก จิตระดับถึงนิพพานจึงจะเห็นนิพพาน อันคนไม่หมดกิเลสจะไปเห็นนิพพานได้ยังไง จิตไม่บริสุทธิ์จะไปเห็นได้ยังไง ถ้ายังไม่ถึงนิพพาน อย่านิยามนิพพาน อย่าสงสัยนิพพาน ปฏิบัติไปก่อน
เพราะดับความโลภ ความโกรธ ความหลงหมดสิ้นจากดวงใจแล้ว ไม่มี จึงจะเห็นนิพพานพระพุทธเจ้าท่านสอนไว้อย่างนั้น ท่านว่าจิตบริสุทธิ์ คำว่าบริสุทธิ์แล้วมันหมดแล้ว มันจึงถึง มันไปด้วยจิตบริสุทธิ์ เมื่อหมดกิเลสมันจึงจะไปได้

#หลวงปู่เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป








โยม เวลานี้กี่โมงแล้ว
บ่ายแล้วใช่ไหม

ถ้ามีของฉัน จะเอาไปถวายพระ
ไม่ต้องถวายท่านนะ
เราห่วงเหลือเกินศาสนาเวลานี้

บางครั้งอาจเป็นช็อคโกแลต
ในนั้นอาจมีถั่วหรือมีนมก็ได้
เสียมากเหลือเกินนะ
ถ้าพระฉัน ศาสนาจะเสียมากนะ

หลวงปู่เชอรี่ อภิเจโต
วัดป่าบ้านตาด






"..ความจริงของความจริงมีอยู่ทุกแห่งทุกหนและทุกเวลาอกาลิโก ขอแต่ปฏิบัติให้ถึงความจริงทำจริง ต้องรู้ตามความสามารถและภูมิวาสนาของตนแน่นอน ไม่ว่าธรรมภายในคือสัจธรรม และธรรมภายนอกคือความรู้แขนงต่าง ๆ ตามภูมินิสัยวาสนาของแต่ละรายที่สร้างมา และความปรารถนาที่ตั้งไว้ไม่เหมือนกัน แต่ผลส่วนใหญ่คือมรรคผลนิพพานนั้น เมื่อถึงแล้วเหมือนกัน.."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)







"คนเกิดบ่ทันพระพุทธเจ้า
กะบอกว่า อยากเกิดทันเป็นสาวกเพิ่น
คนเกิดบ่ทันอาจารย์ใหญ่มั่น
กะบอกว่า อยากเกิดทันเป็นลูกศิษย์เพิ่น"

"... กิเลสมันพาว่า กิเลสมันพาให้เฮาท้อแท้
ในการปฏิบัติ เกิดบ่ทันพระพุทธเจ้ากะให้ปฏิบัติ ในศีลธรรมคำสอนของเพิ่น

... เกิดบ่ทันอาจารย์ใหญ่มั่นกะให้พากัน
ปฏิบัติ ตามคำสอนของเพิ่น กะถือว่าเป็น
ลูกศิษย์ของเพิ่นคือกัน ..."
--------------------------------------
โอวาทธรรม/.....
#หลวงปู่ชอบ_ฐานสโม
วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน อ.วังสะพุง จ.เลย (พ.ศ.๒๔๔๔ - ๒๕๓๘)







"ปีใหม่ทั้งทีนะ ให้ตั้งใจไว้ว่าเราจะเป็นคนใหม่
ที่ดีกว่าเก่า คนไหนใจแคบ ก็หัดใจกว้างนะ
คนไหนไม่เคยมีศีล ก็ตั้งใจรักษาศีลไป
คนไหนไม่เคยมีความสุขสงบในใจ ก็ฝึกให้ใจ
ได้สุขได้สงบบ้าง คนไหนไม่มีจิตที่ตั้งมั่น
ก็ฝึกให้มีจิตที่ตั้งมั่นบ้าง คนไหนแยกธาตุแยกขันธ์
ไม่เป็น ก็แยกให้เป็น คนไหนแยกขันธ์ได้แล้ว
ยังเห็นไตรลักษณ์ไม่เป็นนะ ก็หัดดูขันธ์แสดงไตรลักษณ์
ให้เป็น คนไหนเป็นแล้วนะ ก็ให้มรรคให้ผลเกิดก็แล้วกันนะ"

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช






“สงกรานต์ปีนี้ เราคงต้องเปลี่ยนการรดน้ำ
ด้วยรูปธรรม คือน้ำธรรมดา ให้เป็นนามธรรม คือน้ำใจ

ขอให้เราทุกคนเริ่มปีใหม่ของไทยด้วยการแสดงน้ำใจไมตรีต่อกัน

ขอให้รดน้ำคนรอบข้าง ด้วยการกระทำ และการพูดที่สะท้อนความรัก ความเคารพ การสำนึกในสิ่งที่ดีที่เราได้รับและได้ให้ซึ่งกันและกัน

ขอให้แสดงน้ำใจและความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ทางโทรศัพท์หรือสื่อออนไลน์ การระลึกถึงกันด้วยใจบริสุทธิ์เป็นที่มาแห่งความอบอุ่นใจ

ปีใหม่ไทยนี้ ขอให้ทุกคนเลิกแสดงออกแบบสาดน้ำร้อนเป็นอันขาด ให้ฝึกตนในการแสดงออก ในทางที่ทั้งผู้แสดงและผู้รอบข้างรู้สึกเย็นสบาย

สิ่งแวดล้อมจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรต่อไป ไม่มีใครทราบได้ แต่สิ่งที่เรามั่นใจได้คือ ตราบใดที่เรามีน้ำใจต่อกันและกัน สังคมเรายังคงมีความหวัง”

พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ







“สงกรานต์ แปลว่า ก้าวหน้าสำหรับคนที่รู้ธรรมะ
ใช้ธรรมะในการดับทุกข์ให้ออกไปเรื่อยๆ
ลดความยึดมั่นถือมั่น ทำงานให้ลุล่วงโดยไม่ประมาท
ถือว่าก้าวหน้า และมีวันสงกรานต์ที่แท้จริง”

ท่านพุทธทาสภิกขุ

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/