ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ธรรมท้า ให้ลองมาพิสูจน์
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=65263
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  muisun [ 07 ม.ค. 2025, 07:26 ]
หัวข้อกระทู้:  ธรรมท้า ให้ลองมาพิสูจน์

ธรรมท้า ให้ลองมาพิสูจน์ ไม่มีใครที่จะกล้ารู้ทัน การเกิดแห่งพลังคิด รู้ทันการดับพลังคิด รู้ทันคุณในพลังคิด รู้ทันโทษแห่งการนึกคิด และรู้ทันการสลัดออกซึ่งความนึกคิด

เพราะถ้ารู้ทันจะคิดดับได้ มันจะทำลายพลังคิดให้ดับเกลี้ยง จะไม่มีส่วนเหลือให้คิดยึดได้อีก เหมือนมีแสงมา มืดจะต้องดับไปฉะนั้น

ที่ไม่มีใครกล้าพิสูจน์ ก็เพราะเกลียดกลัวรู้ทัน จะมาทำลายดับพลังคิดยึด ที่หวงแหนยิ่งกว่าชีวิต จึงยอมทนทุกข์ทรมารไปทุกๆชาติ

ถ้าใครกล้าพิสูจน์ ใส่ใจขยันสังเกตุ ระลึกรู้ใจตั้งมั่น รู้ทันจะคิดดับ ทุกลมหายใจ เข้าดับออกดับ จะดับพลังคิดที่เป็นเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวงได้

จึงเป็น❤️พระพุทธศาสนา ที่ต้องรักษาด้วยการรู้ทัน

สาธุรู้ทันแก่นแท้ในชีวิต

เจ้าของ:  โลกสวย [ 10 ม.ค. 2025, 00:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมท้า ให้ลองมาพิสูจน์

muisun เขียน:
ธรรมท้า ให้ลองมาพิสูจน์ ไม่มีใครที่จะกล้ารู้ทัน การเกิดแห่งพลังคิด รู้ทันการดับพลังคิด รู้ทันคุณในพลังคิด รู้ทันโทษแห่งการนึกคิด และรู้ทันการสลัดออกซึ่งความนึกคิด

เพราะถ้ารู้ทันจะคิดดับได้ มันจะทำลายพลังคิดให้ดับเกลี้ยง จะไม่มีส่วนเหลือให้คิดยึดได้อีก เหมือนมีแสงมา มืดจะต้องดับไปฉะนั้น

ที่ไม่มีใครกล้าพิสูจน์ ก็เพราะเกลียดกลัวรู้ทัน จะมาทำลายดับพลังคิดยึด ที่หวงแหนยิ่งกว่าชีวิต จึงยอมทนทุกข์ทรมารไปทุกๆชาติ

ถ้าใครกล้าพิสูจน์ ใส่ใจขยันสังเกตุ ระลึกรู้ใจตั้งมั่น รู้ทันจะคิดดับ ทุกลมหายใจ เข้าดับออกดับ จะดับพลังคิดที่เป็นเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวงได้

จึงเป็น❤️พระพุทธศาสนา ที่ต้องรักษาด้วยการรู้ทัน

สาธุรู้ทันแก่นแท้ในชีวิต

เธอจะไม่ได้อะไร กับการพร่ำเพ้อชนิดนี้เลย
ให้เธอหัดคิดหัดเขียน หัดเรียนปริยัติ
เพื่อให้เธอพิสูจน์ได้ว่า การแค่สลัดรู้ทันความคิดในโลกียะ กับโลกุตระ มันต่างกันลิบลับขนาดไหน
และจะได้พิสูจน์สอบทาน จากพระธรรม อันพระผู้มีพระภาคเจ้าท่านทรงตรัส ทรงแสดงไว้ดีแล้ว

หัดเอาพระธรรม พระวจนะ พระสูตร พระอภิธรรม มาโพสต์ เธอก็จะได้เรียนรู้ เข้าใจ ว่า เธฮมืดมนอยู่ประการใด

ปริยัตติ แปลว่ารู้ทั่ว รู้ยังไม่ทั่ว จะไปรู้ทันได้อย่างไร
เธอก็โดนความคิดนั้น เล่นงานอยุ่ จมปลักในความมืดมาตลอด หลายต่อหลายกระทู้
นั่นเป็นความคิดของเธอ ทั้งหมด คิดไปว่าไม่คิด คิดไปว่าไม่มีใครกล้ารู้ทัน คดิไปถึงการเกิดพลังแห่งความคิด คิอไปว่า ให้รู้ทัน ให้รู้ทันคุณแห่งความคิด นั่นเป้นผลผลิตของความคิดทั้งหมด ที่เธอไม่เห็น
นี่ก็พิสูจน์ได้แล้ว ว่าเธอ ได้แต่พูด แต่ไม่เห็น แม้ความคิด
เธอตามความคิดเหมือนแมวที่ถูกหนูลากไปกิน
แล้วก็ไม่รู้ตัวเอาเสียด้วยว่า โดนหนูลากไปกิน
ความคิดชนิดน้ำซึมบ่อทราย เมื่อสติ สัมปชัญญะไม่มี ไม่ได้อยุ่กับสติปัฎฐาน ก็ไม่เห็นหรอกว่า ความคิดชนิดนั้น มันลากเธอมายาวจนตั้งกระทู้ไม่รู้กี่กระทู้ ต่อกี่กระทู้

ความคิดที่จะกระทำตั้งกระทู้ตัวเดียว มันก็ลากเธอไปตั้งกระทู้แล้วกระทู้เล่ามานาน
แค่ความคิดเดียว ว่าจะเรียนหนังสือให้จบ เธอต้องหลงทำตามความคิดนั้น มากี่ปี กว่าจะเรียนจบ

นี่ก็พิสูจน์ได้ ตัวอย่าง ว่า ความคิดมันดับนานแล้วตั้งแต่เป็นเด็กเล็กเด็กน้อย แต่เธอก็หลงตามทำตามความคิดนั้นไป พยายามเรียนให้จบ
นั่นรู้ทันความคิดนั้นมั๊ยล่ะ
ถ้าเธอไม่มีสัมมาทิฎฐิ ความคิดใดๆ ที่เกิดดับ ก็แค่ทำให้เธอวนเวียนในสังสารวัฎอยุ่นั่นเอง
แล้วก็เธอก้ยังหาความเป็นนักปราชญไม่ได้เลย
รู้จักมั๊ย สุ จิ ปุ ลิ
เมื่อเป็นปราชญ์ไม่ได้ จะเป็นอริยะได้หรือ

หัดเรียนปริยัติ เอาพระธรรมมาเรียน มาเขียน มาคิด มาถาม มาฟัง เริ่มให้ได้ก่อน
หัวใจนักปราชญ โลกียะ ยังเป็นไม่ได้ จะไปนิพพานแล้ว
จะกระโดดแว๊ปเดียว ถึงพุทธเกษตร

คำของเธอเหล่านั้น ออกมาตามความคิด ที่เธอรู้ไม่เท่าทัน ไม่เห็นความคิดเอาเสียเลย
และนั่นไม่ใช สิ่งที่พระพุทธองค์สอนเลย

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/