ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
กรรมดีและกรรมชั่ว http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=65161 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | รสมน [ 10 ธ.ค. 2024, 06:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | กรรมดีและกรรมชั่ว |
"พระจะมาอยู่วัดนี้บอกไว้ก่อนเลยเลิกนะ โทรศัพท์ ใครมี เอามาไว้ที่นี่ จำเป็นจะต้องใช้ มาบอก มาโทรต่อหน้า ไม่งั้นหมดล่ะ พระ ไปเขี่ยๆ เจออะไรก็ไม่รู้ อย่าไปทำเหมือนโยมเขา บุหรี่ก็ทิ้งซะ มาที่นี่ ทิ้งไม่ได้ก็นิมนต์ออกไปที่อื่น" หลวงปู่สมบูรณ์ กนฺตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ถาม : ในการปฏิบัติของเรา จำเป็นที่จะต้องเข้าถึงฌานหรือไม่ครับ ตอบ : ไม่ ฌานไม่ใช่เรื่องจำเป็น ท่านต้องฝึกจิตให้มีความสงบ และมีอารมณ์เป็นหนึ่ง (เอกัคคตา) แล้วอาศัยอันนี้สำรวจตนเอง ไม่ต้องทำอะไรพิเศษไปกว่านี้ ถ้าท่านได้ฌานในขณะฝึกปฏิบัตินี้ ก็ใช้ได้เหมือนกัน แต่อย่าไปหลงติดอยู่ในฌาน หลายคนชะงักติดอยู่ในฌาน มันทำให้เพลิดเพลินได้มากเมื่อไปเล่นกับมัน ท่านต้องรู้ขอบเขตที่สมควร ถ้าท่านฉลาด ท่านก็จะเห็นประโยชน์และขอบเขตของฌาน เช่นเดียวกับที่ท่านรู้ขั้นความสามารถของเด็กและขั้นความสามารถของผู้ใหญ่ พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท) "..โลกอยู่ได้ด้วยเมตตา คือความเอ็นดูสงสารกันทุกตัวสัตว์ที่มีชีวิตครองตัวอยู่ ไม่พึงเบียดเบียนทำลายกันด้วยความโกรธแค้น หรือด้วยความเห็นแก่ปากแก่ท้อง ซึ่งไม่มีประมาณแห่งความอิ่มพอและไม่มีทางสิ้นสุดแห่งการทำลายกัน พระพุทธเจ้าทรงเห็นโทษของมันด้วยพระปัญญาอันแหลมคมไม่มีทางสงสัย และทรงเห็นคุณในความเมตตาว่า เป็นธรรมอ่อนโยนและสมัครสมานรักใคร่ไมตรีต่อกันระหว่างสัตว์โลกทุกชั้นทุกภูมิ ซึ่งมีความรักสุขเกลียดทุกข์เสมอหน้ากัน จึงประทานไว้เพื่อความมั่นคงแห่งสันติสุขแก่โลกตลอดกาลนาน หากเมตตาธรรมยังมีอยู่ในใจของสัตว์โลกอยู่ตราบใด โลกยังจะมีหวังความสุขความสมหวังอยู่ตราบนั้น แต่ถ้าเมตตาได้ห่างเหินจากใจของสัตว์โลกกาลใด กาลนั้นแม้สัตว์โลกจะมีความอุดมสมบูรณ์ด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคนานาชนิดอย่างพึงพอใจก็ตาม แต่จะไม่มีความสงบสุขตกค้างอยู่ในวงสัตว์โลกนั้น ๆ เลย ส่วนที่ได้รับจะมีแต่ความเดือดร้อนขุ่นเคืองไปทุกหย่อมหญ้า.." ภูริทตฺตธมฺโมวาท พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๓) คัดลอกมาเป็นบางส่วนจากหนังสือประวัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต โดยหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน . #เราจะไม่ยอมลงนรก เอากันจริงๆ เอาให้ได้กันวันนี้แหละ เอาตัวได้จริงๆ ขอทุกคนจงคิดว่าเราจะไม่ลงนรก ให้ทุกคนตั้งใจแบบนี้นะ ทุกวันก่อนที่ตื่นขึ้นมาใหม่ๆ ถ้าจะลุกขึ้นนั่งหรือไม่ลุกขึ้นนั่งก็ตามใจ ไม่บังคับ ถ้าบังเอิญลุกขึ้นนั่งจิตไม่เป็นสุขก็ไม่ต้องลุกขึ้นมานั่ง พอตื่นปั๊บอารมณ์สบาย ให้ตั้งใจเวลานั้นทันที นึกในใจว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง แล้วต่อจากนั้นไปใช้เวลาอีกนิดหนึ่งภาวนาว่า "พุทโธ" หายใจเข้านึกว่า "พุท" หายใจออกนึกว่า "โธ" เอานิดเดียว ใช้เวลาสักสองสามนาทีเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นก็ลุกไปทำงานตามปกติ ขอยืนยันว่าทุกท่านลงนรกไม่ได้ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน __________ จากหนังสือ "ธัมมวิโมกข์" ปีที่ ๓๘ ฉบับที่ ๔๒๗ หน้า ๕๑ คัดลอกโดย คณะบุญสุประวีณ์ "..โลกอยู่ได้ด้วยเมตตา คือความเอ็นดูสงสารกันทุกตัวสัตว์ที่มีชีวิตครองตัวอยู่ ไม่พึงเบียดเบียนทำลายกันด้วยความโกรธแค้น หรือด้วยความเห็นแก่ปากแก่ท้อง ซึ่งไม่มีประมาณแห่งความอิ่มพอและไม่มีทางสิ้นสุดแห่งการทำลายกัน พระพุทธเจ้าทรงเห็นโทษของมันด้วยพระปัญญาอันแหลมคมไม่มีทางสงสัย และทรงเห็นคุณในความเมตตาว่า เป็นธรรมอ่อนโยนและสมัครสมานรักใคร่ไมตรีต่อกันระหว่างสัตว์โลกทุกชั้นทุกภูมิ ซึ่งมีความรักสุขเกลียดทุกข์เสมอหน้ากัน จึงประทานไว้เพื่อความมั่นคงแห่งสันติสุขแก่โลกตลอดกาลนาน หากเมตตาธรรมยังมีอยู่ในใจของสัตว์โลกอยู่ตราบใด โลกยังจะมีหวังความสุขความสมหวังอยู่ตราบนั้น แต่ถ้าเมตตาได้ห่างเหินจากใจของสัตว์โลกกาลใด กาลนั้นแม้สัตว์โลกจะมีความอุดมสมบูรณ์ด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคนานาชนิดอย่างพึงพอใจก็ตาม แต่จะไม่มีความสงบสุขตกค้างอยู่ในวงสัตว์โลกนั้น ๆ เลย ส่วนที่ได้รับจะมีแต่ความเดือดร้อนขุ่นเคืองไปทุกหย่อมหญ้า.." ภูริทตฺตธมฺโมวาท พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๓) คัดลอกมาเป็นบางส่วนจากหนังสือประวัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต โดยหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน การที่คนทำความชั่วยังได้ดีมีสุข เป็นเพราะกรรมชั่วยังไม่ได้ส่งผลเพราะกรรมดีที่เขาเคยทำ ยังเป็นอุปัตถัมภกรรมคอยสนับสนุนเมื่อใดที่กรรมดีอ่อนกำลังลง กรรมชั่วจะมาเป็นอุปฆาตกรรม ทำให้ผู้นั้นต้องเปลี่ยนสภาพไป #โอวาทธรรม #พระธรรมสิงหบูรพาจารย์ #หลวงพ่อจรัญฐิตธัมโม "..โลกอยู่ได้ด้วยเมตตา คือความเอ็นดูสงสารกันทุกตัวสัตว์ที่มีชีวิตครองตัวอยู่ ไม่พึงเบียดเบียนทำลายกันด้วยความโกรธแค้น หรือด้วยความเห็นแก่ปากแก่ท้อง ซึ่งไม่มีประมาณแห่งความอิ่มพอและไม่มีทางสิ้นสุดแห่งการทำลายกัน พระพุทธเจ้าทรงเห็นโทษของมันด้วยพระปัญญาอันแหลมคมไม่มีทางสงสัย และทรงเห็นคุณในความเมตตาว่า เป็นธรรมอ่อนโยนและสมัครสมานรักใคร่ไมตรีต่อกันระหว่างสัตว์โลกทุกชั้นทุกภูมิ ซึ่งมีความรักสุขเกลียดทุกข์เสมอหน้ากัน จึงประทานไว้เพื่อความมั่นคงแห่งสันติสุขแก่โลกตลอดกาลนาน หากเมตตาธรรมยังมีอยู่ในใจของสัตว์โลกอยู่ตราบใด โลกยังจะมีหวังความสุขความสมหวังอยู่ตราบนั้น แต่ถ้าเมตตาได้ห่างเหินจากใจของสัตว์โลกกาลใด กาลนั้นแม้สัตว์โลกจะมีความอุดมสมบูรณ์ด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคนานาชนิดอย่างพึงพอใจก็ตาม แต่จะไม่มีความสงบสุขตกค้างอยู่ในวงสัตว์โลกนั้น ๆ เลย ส่วนที่ได้รับจะมีแต่ความเดือดร้อนขุ่นเคืองไปทุกหย่อมหญ้า.." ภูริทตฺตธมฺโมวาท พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๓) คัดลอกมาเป็นบางส่วนจากหนังสือประวัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต โดยหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 11 ธ.ค. 2024, 07:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กรรมดีและกรรมชั่ว |
วิบากㆍ ๒. มนุสธคติวิญญาณ หมายถึงปฏิสนธิวิญญาณในมนุสสภูมิ มีจำนวน ๔ ดวงได้แก่ อุเบกยาสันตีรณกุลลวิบาก ๑ และ มหาวิบาก ๘ ติรัจฉานคติวิญญาณ ทั้ง ๓ นี้มีปฏิสนธิวิญญาณ ๑ ดวง ได้แก่ เปตคติวิญญาณ อุเบกขาสันติรณอกุลลวิบากดวงเดียวเท่านั้น นิรยคติวิญญาณ กล่าวโดย นัย แห่งวิญญาณฐีติ คือ ภูมิอันปืนที่ตั้งแห่งวิญญาณนั้นก็มี ๗ ได้แก่ อ. นานัดดกายนานัตตสัญญีวิญญาณ ปฏิสนธิวิญญาณในภูมิที่มีรูปร่างต่างกันและ ปฏิสนธิจิตก็ต่างกัน อันได้แก่ปฏิสนธิในกามสุคติภูมิ ๔ นั้น มีปฏิสนธิวิญญาณ ๙ ดวง คือ อุเบกขาสันตีรณกุสลวิบาก ๑ และมหาวิบาก ๘ คำว่า นานัดตะ นี้บางทีก็ใช้อย่าง ทีมะ ว่า นานาตตะ มามัตดกายเธกัดตสัญญีวิญญาณ ปฏิหนชีวิญญาณในภูมิที่มีรูปร่างต่างต่างกัน แต่มีปฏิสนธิวิญญาณอย่างเดียวกัน อันได้แก่ปฏิสนธิในอบายภูมิ ๔ และในปฐมฌานภูมิ ๓ รวม ๗ ภูมิด้วยกัน ปฏิสนธิในอบายภูมิ ๔ มีปฏิสนธิวิญญาณ ๑ ดวง คือ อุเบกขาสันติรณอกุสล วิบากㆍ ปฏิสนธิในปฐมฌานภูมิ ๓ มีปฏิสนธิวิญญาณ ๑ ดวง คือ รูปาวจรปฐมฌาน วิบาก ㆍ ๓. เอกัตตกายนานัตตสัญญีวิญญาณ ปฏิสนธิวิญญาณในภูมิที่มีที่มีรูปร่างเหมือนกัน แต่มีปฏิสนชีวิญญาณต่างกัน อันได้แก่ปฏิสนธิในทุติยาฌานภูมิ ๓ มีปฏิสนธิวิญญาณ ๒ ดวง คือ รูปาวจรทุติยฌานวิบาก ๕ และ รูปาวจรดติยฌานวิบาก ㆍ ๔. เอกัดกายแอกัดคสัญญีวิญญาณ ปฏิตนชีวิญญาณในในภูมิที่มีรูปร่างหมือนกัน และมีปฏิสนธิวิญญาณก็อย่างเดียวกัน อันได้แก่ปฏิสนธิในดติยฌานภูมิ ๓, เวหัปผลาภูมิ " แระสุทธาวาตภูมิ ๕ รวม ๙ ภูมิ มีปฏิสนชีวิญญาณ ๒ ดวง คือ ปฏิสนชีใน กลับฌานภูมิ ๓ มีปฏิตนชีวิญญาณ + ควง คือ รูปาวจรรรรดถฌาน ปฏิตนชีในกหับผสาภูมิ + และ สุทธาวาสภูมิ ๕ นั้น มีปฏิสนธิวิญญาณ คาร คือ รูปาวจรปัญจมฌานวิบาก ㆍ |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 11 ธ.ค. 2024, 07:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กรรมดีและกรรมชั่ว |
วิบากㆍ ๒. มนุสธคติวิญญาณ หมายถึงปฏิสนธิวิญญาณในมนุสสภูมิ มีจำนวน ๔ ดวงได้แก่ อุเบกยาสันตีรณกุลลวิบาก ๑ และ มหาวิบาก ๘ ติรัจฉานคติวิญญาณ ทั้ง ๓ นี้มีปฏิสนธิวิญญาณ ๑ ดวง ได้แก่ เปตคติวิญญาณ อุเบกขาสันติรณอกุลลวิบากดวงเดียวเท่านั้น นิรยคติวิญญาณ กล่าวโดย นัย แห่งวิญญาณฐีติ คือ ภูมิอันปืนที่ตั้งแห่งวิญญาณนั้นก็มี ๗ ได้แก่ อ. นานัดดกายนานัตตสัญญีวิญญาณ ปฏิสนธิวิญญาณในภูมิที่มีรูปร่างต่างกันและ ปฏิสนธิจิตก็ต่างกัน อันได้แก่ปฏิสนธิในกามสุคติภูมิ ๔ นั้น มีปฏิสนธิวิญญาณ ๙ ดวง คือ อุเบกขาสันตีรณกุสลวิบาก ๑ และมหาวิบาก ๘ คำว่า นานัดตะ นี้บางทีก็ใช้อย่าง ทีมะ ว่า นานาตตะ มามัตดกายเธกัดตสัญญีวิญญาณ ปฏิหนชีวิญญาณในภูมิที่มีรูปร่างต่างต่างกัน แต่มีปฏิสนธิวิญญาณอย่างเดียวกัน อันได้แก่ปฏิสนธิในอบายภูมิ ๔ และในปฐมฌานภูมิ ๓ รวม ๗ ภูมิด้วยกัน ปฏิสนธิในอบายภูมิ ๔ มีปฏิสนธิวิญญาณ ๑ ดวง คือ อุเบกขาสันติรณอกุสล วิบากㆍ ปฏิสนธิในปฐมฌานภูมิ ๓ มีปฏิสนธิวิญญาณ ๑ ดวง คือ รูปาวจรปฐมฌาน วิบาก ㆍ ๓. เอกัตตกายนานัตตสัญญีวิญญาณ ปฏิสนธิวิญญาณในภูมิที่มีที่มีรูปร่างเหมือนกัน แต่มีปฏิสนชีวิญญาณต่างกัน อันได้แก่ปฏิสนธิในทุติยาฌานภูมิ ๓ มีปฏิสนธิวิญญาณ ๒ ดวง คือ รูปาวจรทุติยฌานวิบาก ๕ และ รูปาวจรดติยฌานวิบาก ㆍ ๔. เอกัดกายแอกัดคสัญญีวิญญาณ ปฏิตนชีวิญญาณในในภูมิที่มีรูปร่างหมือนกัน และมีปฏิสนธิวิญญาณก็อย่างเดียวกัน อันได้แก่ปฏิสนธิในดติยฌานภูมิ ๓, เวหัปผลาภูมิ " แระสุทธาวาตภูมิ ๕ รวม ๙ ภูมิ มีปฏิสนชีวิญญาณ ๒ ดวง คือ ปฏิสนชีใน กลับฌานภูมิ ๓ มีปฏิตนชีวิญญาณ + ควง คือ รูปาวจรรรรดถฌาน ปฏิตนชีในกหับผสาภูมิ + และ สุทธาวาสภูมิ ๕ นั้น มีปฏิสนธิวิญญาณ คาร คือ รูปาวจรปัญจมฌานวิบาก ㆍ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |