ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ที่ประชุมสภาพธรรมเรียกอายตนะ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=64417 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Rosarin [ 12 พ.ย. 2023, 17:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | ที่ประชุมสภาพธรรมเรียกอายตนะ |
![]() ที่ประชุมสภาพธรรมเรียกอายตนะ กายใจนี้กำลังมีที่ประชุมธรรมให้ ทุกคนได้ศึกษาสภาพธรรมจริง ตรง1ตัวจริงธรรมตรง1คำสัจจะ ธรรมแปลว่าสิ่งที่มีจริงกำลังมี และไม่เกิดนอกกายจิตใจตน ซึ่งธรรมะไม่ได้ปรากฏตามจริง สัจจธรรมดับก่อนมีนิมิตตัวตน บัญญัติทุกคำในพระไตรปิฏก มีไว้ให้ฟังเพื่อเทียบความจริง ที่กำลังปรากฏว่ามีตรงตามที่ฟัง ![]() พระธรรมทุกคำคือทศพลญาณ เป็นปัญญาจากการตรัสรู้เพื่อมา กล่าวคำจริงตรงปัจจุบันธรรม วาจาสัจจะตามที่จิตรู้ทีละ1อารมณ์ ที่กำลังปรากฏว่ามีครบแล้วในขณะนี้ ทุกคนต้องฟังอบรมจิตด้วยหูให้เข้าใจ ตรงตามเสียงและพึ่งการฟังตลอดชีวิต พระพุทธเจ้าเทศนาธรรม45ปีเพื่อให้ สาวก(ผู้ฟัง)รู้ว่าจิตเกิดดับภายในกาย รู้สิ่งที่ปรากฏทีละ1ทวารตรง1ธัมมะ รู้สิ่งที่ไม่ปรากฏที่เกิดคั่นทวาร(ภวังค์) ![]() ดังนั้นการศึกษารูปนามกายใจนี้ จึงเป็นการศึกษาตัวจริงธรรม แต่ละ1ตัวจริงธรรมที่เกิดในจิต ทีละ1ทวารที่ประชุมรวมกัน คืออายตนะ1ขณะจิตที่เห็น มีสภาพธรรมถึง4อายตนะ 1จักขายตนะ=ตา(จักขุปสาทรูป) 2รูปายตนะ=รูปสีเกิดพร้อมแสง(อุปาทายรูป) 3มนายตนะ=นาม(จักขุวิญญาณ) 4ธรรมายตนะ=นาม(ธรรมที้เกิดที่ตา) ศึกษาธรรมคือรู้ชื่อที่ดับหมดแล้ว ข้างบนนี้เขียนพียงที่ตาอย่างเดียว รายละเอียดต้องฟังคำอธิบายที่ลึกซึ้ง ศึกษาความจริงที่คิดเองไม่ได้้ที่ตาหูจมูกลิ้นกายใจ ด้วยการฟังความจริงเพื่อรู้ว่าธรรมไม่ใช่เราแล้วคืออะไร https://www.youtube.com/live/YckRBI8Nmo ... 2g6ZrmD1d_ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 15 ม.ค. 2024, 03:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ที่ประชุมสภาพธรรมเรียกอายตนะ |
![]() สวัสดีปีใหม่2024 ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 15 ม.ค. 2024, 04:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ที่ประชุมสภาพธรรมเรียกอายตนะ |
![]() แจ้งปัญหาเข้าตั้งกระทู้ใหม่ไม่ได้ค่ะ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 15 ม.ค. 2024, 04:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ที่ประชุมสภาพธรรมเรียกอายตนะ |
![]() เห็นเป็นจิตเป็นธรรม ไม่ใช่ตัวตนเราคิดว่า เราเห็นเพราะไม่มีเรา เราไม่รู้ความจริงและ ไม่รู้ว่าเห็นคืออะไร มีแต่อยากรู้อยากเห็น แต่ไม่สนใจฟังให้เข้าใจ เพราะเห็นเพียงสิ่งที่กระทบตา ข้างหลังไม่กระทบตาแปลว่าไม่มี สิ่งที่ถูกเห็นคือสีล้วนสีเดียว ถูกเห็นที่ประสาทตาดับมืดทันที ไม่ฟังคำสอนให้เข้าใจถูกตามได้ อยากทำทุกอย่างที่อยากทำ ให้ไปเห็นภพอื่นที่ยังไม่เป็น ภพภูมิปัจจุบันที่เป็นนี้พาเกิด เพราะยังมีอวิชชาจึงไปเกิดมีภพ ภพคือภาวะความเป็นสัตวโลก ยังท่องเที่ยวเวียนว่ายตายเกิด ขาดสุตมยปัญญา=ไม่เดินมรรค สุตมยปัญญา=ปริยัติ=สัจญาณ เดินมรรคจิต=เจริญปัญญาตามธรรมไม่ข้ามฟัง เรียกว่าขาดฟัง=ขาดสติปัญญาตามปกติ https://youtu.be/w7CPOG49RGs?si=FCq0WI_0cLKtaFyG ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 15 ม.ค. 2024, 05:04 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ที่ประชุมสภาพธรรมเรียกอายตนะ | ||
การรู้ที่ประจักษ์แจ้งกับสุตะ"สิ่งที่ตนได้เคยเล่าเรียนมา" ขึ้นชื่อว่าปุถุชนทั้งหลายสามารถที่จะรูประจักษ์แจ้งรูปนามฝ่ายกามาวจรได้ ทั้งนี้เพราะว่า สภาวะเหล่านั้นปรากฏเกิดขึ้นในขันธสันดานของตนโคยตรง และ เพราะว่าเป็นสภาวธรรมที่ปรากฎในทวารทั้งหก จึงสามารถรู้ได้โดยประจักษ์แจ้ง แม้ด้วยการเจริญภาวนา แต่สำหรับบุคคลผู้เป็นฌานลาภีหรือผู้ที่ได้ฌานแล้วย่อม สามารถรูประจักษ์แจ้งมหัคคตธรรมทั้งหลาย ก็ในตอนที่รูประจักษ์แจ้งอย่างนั้น ย่อมสามารถรู้ตามความเป็นจริง เช่น รู้ว่า ปฐวี จิต ผัสสะ เป็นต้นตามที่คัมภีร์ได้ แนะนำไว้นั้นมีสภาวะเช่นนี้ๆและตามที่เป็นจริงงอาศัยสุตะทีตนได้ยินได้ฟังมา เช่น ปฐวี จิต ผัสสะ เป็นต้นที่พระธรรมกถึกได้เคยแสดงให้เราฟังนั้น แท้จริงแล้ว มีสภาวะเช่นนี้ๆนั่นเทียว อุปมาเหมือนกับผู้ที่ไม่เคยรับประทานองุ่น ตอนแรกก็ยัง ไม่รู้รสชาติองุ่นตามความเป็นจริง แม้จะได้รับข้อมูลจากบุคคลอื่นเล่าให้ฟังมาแล้ว ก็ตาม แต่เมื่อใดที่บุคคลนั้นได้รับประทานด้วยตนเองแล้ว ก็จะสามารถรู้รสของ องุ่นว่ามีรสชาติเช่นไร ตรงกับที่บุคคลอื่นอธิบายไว้เช่นไร อุปมาฉันใด อุปไมยก็ฉันนั้น ก็ในเรื่องนี้ บุคคลคิดว่า "ปุถุชนทั้งหลายไม่สามารถรู้แจ้งเฉพาะโลกุตตรธรรมเท่านั้น ส่วนโลกิยธรรมทั้งหมดสามารถที่จะรู้แจ้งได้" ความจริงแล้ว ไม่ควรที่จะคิดเช่น การอุปมาด้วยผลองุ่นนี้ ก็เพื่อที่จะให้เป็นข้อคิด โดยมิให้เกิดความคิดตามที่กล่าวมา แล้วนั่นเอง ผู้ที่บอดมาแต่กำเนิดนั้นไม่สามารถที่จะรู้รูปารมณ์ได้ตามความเป็นจริง ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อธิบายไว้แล้วข้างต้น
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 15 ม.ค. 2024, 06:22 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ที่ประชุมสภาพธรรมเรียกอายตนะ | ||
ปัญหาตอนนี้ทำไมเราตั้งกระทู้ใหม่เองไม่ได้
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 15 ม.ค. 2024, 06:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ที่ประชุมสภาพธรรมเรียกอายตนะ |
พระอนุฎีกาจารย์ท่านประสงค์ให้รู้ว่า บุคคลไม่สามารถชี้แจงให้รู้สภาวะ ลักษณะ ของรูปนามได้ตรงตามความเป็นจริงแก่ผู้ที่ไม่เคยรู้รูปนามเหล่านั้น ดังนั้น ท่านจึงได้ใช้คำว่า ธมฺมานํ อนิทฺทิสิตพฺพสภาโว "รูปนามมีสภาวะที่ไม่สามารถอธิบาย บอกกล่าวต่อๆ" ได้นั่นเอง หมายความว่า สภาวะลักษณะของรูปนามทั้งหลาย ที่แท้จริงไม่สามารถที่จะสื่อให้รู้ได้อย่างลึกซึ้งด้วยการอธิบาย บอกกล่าวหรือสอน แต่บุคคลสามารถรู้สภาวะ ลักษณะของรูปนามเหล่านั้นอย่างประจักษ์ลึกซึ้งได้ก็ต่อเมื่อ สามารถรู้ได้ด้วยญาณที่ประจักษ์แจ้ง ก็สภาวะที่โยคีรู้ประจักษ์แจ้งด้วยญาณ ตนเองนั้น ท่านเรียกว่าปรมัตถธรรมอย่างแท้จริง เรื่องนี้มีความลึกซึ้งอย่างยิ่ง โยคี พึงศึกษาพิจารณาเนืองๆด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ วจนัตถะหรือการให้คำจำกัดความที่มาในคัมภีร์อภิธัมมัตถวิภาวินีที่ว่า ปรโม อุตฺตโม อวิปริโต อตฺโถ. นั้นเป็นวจนัตถะที่กล่าวสอดคล้องกับพระบาลีกถาวัตถุ อรรถกถาและฎีกากถาวัตถุนั้นด้วย |
เจ้าของ: | Rosarin [ 16 ม.ค. 2024, 09:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ที่ประชุมสภาพธรรมเรียกอายตนะ |
ลุงหมาน เขียน: ปัญหาตอนนี้ทำไมเราตั้งกระทู้ใหม่เองไม่ได้ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 16 ม.ค. 2024, 09:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ที่ประชุมสภาพธรรมเรียกอายตนะ |
![]() ธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้้้คือความจริง ที่กำลังมีที่กายใจตนเองมีแล้วกำลังเป็น จึงต้องฟังเพื่อศึกษาความจริงตรงลักษณะที่มี ที่กำลังปรากฏตรงตามที่ฟังเช่นที่ตามีธรรมอะไร เวลาเกิดความโลภมีตัวจริงธรรมอะไรเกิดร่วมกันบ้าง ธรรมฝ่ายดีไม่โลภไม่โกรธไม่หลงมีลักษณะต่างกัน กับธรรมฝ่ายไม่ดีโดยชื่อแต่มีความจริงที่กายใจตนเอง จึงต้องฟังเพื่อศึกษาความจริงของเห็นต่างจากเราเห็นอย่างไร ตัวจริงธรรมมีลักษณะตรงเฉพาะคำไม่เปลี่ยนลักษณะ ธรรมเกิดแล้วเปลี่ยนไม่ได้มีแล้วกำลังเป็นไปในขณะนี้ https://www.youtube.com/live/X4O73_dydU ... UhbCmzWbh- ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 21 เม.ย. 2024, 17:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ที่ประชุมสภาพธรรมเรียกอายตนะ |
![]() ศาสนาแปลว่าคำสอน ศาสดาแปลว่าเจ้าของคำสอน พระพุทธศาสนาคือคำสอนของพระพุทธเจ้า คำสอนของพระพุทธเจ้าคือพระธรรมบันทึกไว้ในพระไตรปิฏก พระพุทธเจ้าคือศาสดาเป็นเจ้าของศาสนา อัตภาพคนคือกายใจนี้เป็นที่ประชุมธรรม ธรรมเป็นภาษาบาลีอ่านว่าธัม_มะแปลว่าสิ่งที่มีจริง การจะรู้ว่าพระพุทธเจ้าสอนความจริงอะไรต้องเริ่มต้นจากฟัง เพราะพระไตรปิฏกคือการรวบรวมหมวดหมู่คำสอนของพระพุทธเจ้า ดังนั้นการจะเข้าใจคำสอนจึงต้องมีการศึกษาพระไตรปิฏก เนื่องจากพระพุทธเจ้าเทศนาธรรมในภาษาบาลีคือภาษาต่างประเทศ จึงต้องมีการศึกษาความหมายทีละคำเพื่อเข้าใจความจริงตรงคำ พระธรรมไม่สาธารณะให้ใครนำไปคิดต่อเติมคำเอาเอง การจะเกิดปัญญารู้ตรงคำตามคำสอนได้จึงต้องฟะงคำอธิบายทีละคำ เพื่ออบรมเจริญปัญญาคือคิดถูกเข้าใจถูกตามธรรมได้เป็นปกติ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 21 เม.ย. 2024, 17:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ที่ประชุมสภาพธรรมเรียกอายตนะ |
![]() ศาสนาแปลว่าคำสอน ศาสดาแปลว่าเจ้าของคำสอน พระพุทธศาสนาคือคำสอนของพระพุทธเจ้า คำสอนของพระพุทธเจ้าคือพระธรรมบันทึกไว้ในพระไตรปิฏก พระพุทธเจ้าคือศาสดาเป็นเจ้าของศาสนา อัตภาพคนคือกายใจนี้เป็นที่ประชุมธรรม ธรรมเป็นภาษาบาลีอ่านว่าธัม_มะแปลว่าสิ่งที่มีจริง การจะรู้ว่าพระพุทธเจ้าสอนความจริงอะไรต้องเริ่มต้นจากฟัง เพราะพระไตรปิฏกคือการรวบรวมหมวดหมู่คำสอนของพระพุทธเจ้า ดังนั้นการจะเข้าใจคำสอนจึงต้องมีการศึกษาพระไตรปิฏก เนื่องจากพระพุทธเจ้าเทศนาธรรมในภาษาบาลีคือภาษาต่างประเทศ จึงต้องมีการศึกษาความหมายทีละคำเพื่อเข้าใจความจริงตรงคำ พระธรรมไม่สาธารณะให้ใครนำไปคิดต่อเติมคำเอาเอง การจะเกิดปัญญารู้ตรงคำตามคำสอนได้จึงต้องฟะงคำอธิบายทีละคำ เพื่ออบรมเจริญปัญญาคือคิดถูกเข้าใจถูกตามธรรมได้เป็นปกติ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 21 เม.ย. 2024, 17:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ที่ประชุมสภาพธรรมเรียกอายตนะ |
![]() ศาสนาแปลว่าคำสอน ศาสดาแปลว่าเจ้าของคำสอน พระพุทธศาสนาคือคำสอนของพระพุทธเจ้า คำสอนของพระพุทธเจ้าคือพระธรรมบันทึกไว้ในพระไตรปิฏก พระพุทธเจ้าคือศาสดาเป็นเจ้าของศาสนา อัตภาพคนคือกายใจนี้เป็นที่ประชุมธรรม ธรรมเป็นภาษาบาลีอ่านว่าธัม_มะแปลว่าสิ่งที่มีจริง การจะรู้ว่าพระพุทธเจ้าสอนความจริงอะไรต้องเริ่มต้นจากฟัง เพราะพระไตรปิฏกคือการรวบรวมหมวดหมู่คำสอนของพระพุทธเจ้า ดังนั้นการจะเข้าใจคำสอนจึงต้องมีการศึกษาพระไตรปิฏก เนื่องจากพระพุทธเจ้าเทศนาธรรมในภาษาบาลีคือภาษาต่างประเทศ จึงต้องมีการศึกษาความหมายทีละคำเพื่อเข้าใจความจริงตรงคำ พระธรรมไม่สาธารณะให้ใครนำไปคิดต่อเติมคำเอาเอง การจะเกิดปัญญารู้ตรงคำตามคำสอนได้จึงต้องฟังคำอธิบายทีละคำ เพื่ออบรมเจริญปัญญาคือคิดถูกเข้าใจถูกตามธรรมได้เป็นปกติ https://youtu.be/JZvzQJPv5-k?si=VIHzVL3z14pdO7-3 ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |