วันเวลาปัจจุบัน 28 เม.ย. 2024, 04:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ย. 2023, 05:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"... คนเราถ้ารู้จักความพอ ใจมันก็บ่ทุกข์
... ที่ดิ้นด่าวๆ.. แล่นหาความอยากกันอยู่
... ทุกวันนี่เพราะ ใจมันบ่รู้จัก พอ ..."
---------------------------------
#หลวงปู่ชอบ_ฐานสโม
วัดป่าสัมมานุสรณ์ อ.วังสะพุง จ.เลย






” ของดีก็ต้องยากหน่อย “

ถาม : เวลาไปเที่ยวก็มีความสุขสดชื่น แต่เวลานั่งภาวนาก็ยังไม่ค่อยสงบ ยังไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่

พระอาจารย์ : ของดีก็ต้องยากหน่อย

ถาม : เวลาพิจารณาดูจิตนี่ เวลาทุกข์เกิดขึ้น เราเข้าใจปั๊บ จะระงับได้ทันที แต่ในบางเรื่องจะไม่ยอมรับ ต้องจนตรอกถึงจะยอมรับ แต่จะเหนื่อยมาก

พระอาจารย์ : กิเลสบางตัวมันดื้อ มันฉลาด มันก็จะดิ้น ตะแบงไปเรื่อยๆ ปัญญาต้องตามประกบอยู่เรื่อยๆจนกว่าจะทัน จนกว่าจะจนมุม

ถาม : แต่การจนมุมตรงนั้นเป็นการเห็นด้วย

พระอาจารย์ : ถ้าปัญญาสกัดจนมันจนมุม มันก็ต้องยอม บางเรื่องไม่ต้องไปถึงขั้นนั้น เพราะปัญญามีกำลังมากกว่ากิเลส พอกิเลสได้รับหมัดเด็ดของปัญญาหมัดเดียวมันก็สลบ แต่บางตัวได้กี่หมัดก็ยังไม่ยอมสลบ ต้องใช้หลายหมัด

ขึ้นอยู่ว่ามันฝังลึกในนิสัยสันดานมากน้อยเพียงไร เหมือนกับเสาที่ปักไว้ในดิน ถ้าไม่ลงลึกมากถอนขึ้นมาก็ง่าย ถ้าลงลึกมากก็ต้องใช้แรงมากถึงจะถอนขึ้นมาได้

ไม่สำคัญว่าจะช้าหรือจะเร็ว สำคัญอยู่ที่ว่าจะกำจัดมันได้หรือเปล่า จะถอนรากถอนโคนมันได้หรือเปล่า ถ้าเห็นว่าเป็นไตรลักษณ์ เห็นว่าเป็นทุกข์ ก็จะถอนมันได้.

วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี

จุลธรรมนำใจ ๑๓ กัณฑ์ที่ ๓๘๐
วันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๑








..การทำบุญทำทานการกุศลไม่ว่าในพรรษาออกพรรษา ก็เรียกว่าทำได้ทุกกาลไม่เลือกวันเวลา เพื่อผู้สร้างคุณงามความดีเพื่อจะให้ตนเองนี้เจริญรุ่งเรืองให้มีคุณธรรมนำตนเองให้ไปสู่จุดหมายปลายทาง ก็คือความสุขที่ทุกคนปรารถนาไว้ การที่เรามีความตั้งใจอย่างนี้ก็เรียกว่าเรามีความฉลาดและมีสติความระลึกรู้ รู้อะไร รู้อาการของกาย ร่างกายของเราทำอะไร เมื่อทำแล้ว มันจะเกิดมีความทุกข์เกิดขึ้นไหม เราควรที่จะดูตนเอง เพราะเราเป็นผู้ที่มีฉลาดมีสติปัญญา ทำแล้วมันจะมีความสุขเกิดขึ้นไหม ก็ให้เราพิจารณาสังเกตดูอาการกระทำของตนเอง
..ถ้าเราฉลาดอย่างนี้ เราก็จะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆให้ถูกทิศทาง แก้ไขปัญหาสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ก็จะทำให้ไม่เกิดทุกข์ เพราะถ้าเราไม่ตามดูไม่รู้ไม่เข้าใจมัน ก็ทำให้เกิดทุกข์เมื่อทำไปแล้ว ถ้าเราเข้าใจว่าเราได้ทำอย่างนี้แล้วทุกข์ เราก็เลยหยุดทำ ถ้าเราหยุดทำทุกข์ก็ดับไป ถ้าทำสิ่งใดเกิดความสุขเป็นผลเป็นประโยชน์ เป็นคุณงามความดี ที่ตนเองควรจะทำเอาไว้ ก็เรียกว่าเรามีการตามดูจิตในการกระทำของตนเอง ทั้งกายและวาจาใจ..

..#โอวาทธรรมหลวงปู่เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป..
วัดอรัญญวิเวก ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่







การปฏิบัติจิต ปฏิบัติใจ โดยให้ใจอยู่กับใจนี้ ก็คือให้มีสติกํากับใจให้เป็นสติถาวร ไม่ใช่เป็นสติคล้ายๆ หลอดไฟที่จวนจะขาด เดี๋ยวก็สว่างวาบ เดี๋ยวก็ดับ เดี๋ยวก็สว่าง แต่ให้มันสว่างติดต่อกันไปตลอดเวลา เมื่อสติมันติดต่อกันไปอย่างนี้แล้ว ใจมันก็มีสติควบคุมอยู่ตลอดเวลา

เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "อยู่กับตัวรู้ตลอดเวลา" ตัวรู้ก็คือ "สติ" นั่นเอง หรือจะเรียกว่า "พุทโธ" ก็ได้ พุทโธที่ว่า รู้ ตื่น เบิกบาน ก็คือตัวสตินั่นแหละ...

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์







มีพระพุทธเจ้า มีพุทโธอยู่ในใจ ถ้าไม่หมดอายุ โรคภัยไข้เจ็บหรืออุบัติเหตุแม้ร้ายแรงเพียงไร ก็จะไม่สามารถทำลายชีวิตได้ ถ้าหมดอายุก็จะได้ไปสู่สุคติจึงควรนึกถึงพระพุทธเจ้า ภาวนาพุทโธไว้เสมอ

สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร






มีพระพุทธเจ้า มีพุทโธอยู่ในใจ ถ้าไม่หมดอายุ โรคภัยไข้เจ็บหรืออุบัติเหตุแม้ร้ายแรงเพียงไร ก็จะไม่สามารถทำลายชีวิตได้ ถ้าหมดอายุก็จะได้ไปสู่สุคติจึงควรนึกถึงพระพุทธเจ้า ภาวนาพุทโธไว้เสมอ

สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 202 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร