วันเวลาปัจจุบัน 28 เม.ย. 2024, 01:31  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ย. 2023, 07:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"..อย่าพากันประมาทนอนใจว่ากิเลสคือเชื้อแห่งภพความเกิดตายไม่มีทางสิ้นสุด เป็นของเล็กน้อยไม่เป็นภัยแก่ตน แล้วไม่กระตือรือร้นเพื่อแก้ไขถอดถอนเสียแต่กาลที่ยังควรอยู่ เมื่อถึงกาลที่สุดวิสัยแล้ว จะทำอะไรกับกิเลสเหล่านี้ไม่ได้นะ จะว่าไม่บอกไม่เตือน คนและสัตว์ทุกข์ทรมานมาประจำโลก อย่าเข้าใจว่าเป็นมาจากอะไร แต่เป็นมาจากกิเลสตัณหาที่เห็นว่าไม่สำคัญและไม่เป็นภัยนั่นแล ผมค้นดูทางมาของการเกิดตาย และการมาของกองทุกข์มากน้อยจนเต็มความสามารถของสติปัญญาที่มีอยู่แล้ว ไม่มีอะไรเป็นตัวเหตุชักจูงจิตใจให้มาหาที่เกิดตายและรับความทุกข์ทรมานมากน้อยเลย มีแต่กิเลสตัวที่สัตว์โลกเห็นว่าไม่สำคัญและมองข้ามไปมาอยู่นี้ทั้งสิ้นเป็นตัวการสำคัญ.."

โอวาทธรรม
พระครูวินัยธร(หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต)วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร
อ้างอิงจากหนังสือชีวประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระโดยท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน






"..อะไรที่มันไม่เที่ยง แล้วเราไม่รู้ทันมัน อยากจะให้มันเที่ยงมันก็เป็นทุกข์เท่านั้น เป็นทุกข์เพราะไม่ได้ตามปรารถนาไม่ได้ตามความอยาก ที่จะให้มันเป็นอยู่อย่างนั้น ซึ่งเป็นความอยากที่เกิดจากอำนาจจิตที่สกปรก สกปรกด้วยความไม่รู้จักอันนี้ มันก็เกิดกิเลสตัณหาตรงนี้แหละ พอมีความรู้สึกเกิดขึ้นมา เช่นว่า เราได้กระทบ รูปเสียงกลิ่น รส โผฏฐัพพะ ก็มีความชอบใจบ้าง ไม่ชอบใจบ้าง คือมีความยึดมั่นถือมั่น เต็มอยู่ในใจของเรา ดังนั้นพระพุทธเจ้าท่านจึงให้คลี่คลายออก เรื่องที่มันเกิดขึ้นมานี่ให้ยกเอาความไม่เที่ยงเป็นหลักวินิจฉัย อะไรที่มันเกิดขึ้นมาให้เห็นว่า ถึงเราจะชอบมันหรือไม่ชอบมัน อันนี้ไม่แน่นอนอันนี้ไม่เที่ยง ถ้าเราไปยึดมั่นมันมันก็พาให้เราเป็นทุกข์ ทำไมเป็นทุกข์ เพราะเราไม่มีอำนาจที่จะบังคับให้เป็นไปตามใจของเราได้ทุกอย่าง.."

พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภทฺโท)
วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี (พ.ศ.๒๔๖๑-๒๕๓๕)






ถาม : เจ้ากรรมนายเวรมากวน
ตอบ : ปล่อยเขา เราทำเขาเอาไว้เยอะ ถึงเวลาเขามาเอาคืนก็เป็นเรื่องปกติ ก็ค่อย ๆ ทยอยใช้หนี้ไป หรือไม่ก็ประเภท 'ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย' ก็จบ

ถาม : ภาวนาพุทโธไม่ได้เลยค่ะ ฟุ้งตลอด ?
ตอบ : ไม่เป็นไร...พุทโธไม่ได้ก็มองภาพพระ แน่จริงก็มาบังพระไปจากเราดูสิ คืออะไรที่เป็นส่วนของความดี เราเอาตรงส่วนนั้นให้ได้ สมัยที่อาตมาบวชใหม่ ๆ บางที ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ รุมตีเสียจนกระทั่งภาวนาไม่ได้ ฟุ้งไปหมด จึงไปนั่งมองหน้าพระประธาน ดูซิว่าเขาจะมีปัญญาทำอะไรเราได้มากไปกว่านี้ไหม ?

ไม่ต้องไปกังวลหรอก สำคัญที่กำลังใจของเราคิดจะเอาดีไหม ? ถ้าเราคิดจะเอาดีก็นั่งพิจารณาในเรื่องของศีลไปก็ได้ ตอนนี้เรานั่งอยู่ที่นี่ ศีลของเราบริสุทธิ์ กายของเราไม่ได้ทำชั่ว วาจาไม่ได้พูดชั่ว ถ้าใจอยากคิดชั่วก็ได้นิดเดียว ให้มันไป ส่วนกำไรของเรามีตั้งเยอะ
.........................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ผู้ก่อตั้งสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี






#ตัวเราคือป่าช้า

"...ให้ท่องอยู่ในใจเสมอว่า เรามีความแก่
เจ็บตายอยู่ประจำตัวทั่วหน้ากัน ป่าช้าอัน
เป็นที่เผาศพภายนอก และป่าช้าที่เผาศพ
ภายในคือตัวเราเอง เป็นป่าช้าร้อยแปดพัน
เก้าแห่งศพ ที่นำมาฝังหรือบรรจุอยู่ในตัว
เราตลอดเวลา ทั้งศพเก่าศพใหม่ทุกวัน.."

หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต








. จงทำ “ใจ” ให้เหมือน “แผ่นดิน” เพราะว่าแผ่นดินที่เราอาศัยอยู่ทุกวันนี้ ไม่ได้เคยโกรธใครทำอะไรใครเลย

จงทำ “ใจ” เหมือน “น้ำ” เพราะธรรมดาของน้ำย่อมเป็นของสะอาด ชำระของสกปรกได้ทุกเมื่อและเป็นของดื่มกิน
เพื่อมีชีวิตช่วยเหลือแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง

จงทำ “ตน” ให้เหมือน “ผ้าเช็ดเท้า” เพราะธรรมดาของผ้าเช็ดเท้า ย่อมไม่มีความรักความชัง ฉันใด ใจเราก็ทำเหมือนกัน ฉันนั้น

เมื่อเราตั้งใจฝึกฝนอบรมได้เช่นนี้แล้ว ไปอยู่ที่ไหนก็มีแต่ความสุข ความทุกข์ในใจก็จะไม่เกิด ดังสุภาษิตที่ท่านกล่าวไว้ว่า

“..จิตตัง ทันตังสุขาวหัง..” จิตที่ฝึกฝนมาดีแล้ว นำมาซึ่งความสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า…”

โอวาทธรรมหลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู







#สร้างสัจจบารมี

"...การนอนเป็นเวลา การตื่นเป็นเวลา การรับประทาน
เป็นเวลา การขับถ่ายเป็นเวลา การอาบน้ำชำระกายเป็น
เวลา ทำอะไรให้ตรงต่อเวลา แล้วก็ให้มีสัจจะไว้ในใจ
ว่าเราจะทำอะไรให้มันจริงใจสักอย่างหนึ่ง ให้เป็นวิหาร
ธรรมเครื่องอยู่ของใจ นี่คือแผนการสร้างพลังจิต การทำ
อะไรเป็นเวลาตรงไปตรงมา มันเป็นการสร้างสัจจบารมี
ถ้าใครมีสัจจะความจริงใจ มีสัจจบารมี ใกล้ต่อการตรัสรู้
ถ้าขาดสัจจะความจริงใจแล้วยังห่างพระพุทธเจ้า..."

#ที่มา หนังสือ กตัญญู กตเวทิตา หน้า ๑๐๘
พระราชสังวรญาณ ( หลวงพ่อพุธ ฐานิโย )


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 201 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร