ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ครั้งพุทธกาลมีคำว่าสำนักมีคำว่าปฏิบัติ(ปะติปัตติ)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=62777
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  Rosarin [ 25 ต.ค. 2022, 20:30 ]
หัวข้อกระทู้:  ครั้งพุทธกาลมีคำว่าสำนักมีคำว่าปฏิบัติ(ปะติปัตติ)

rolleyes
เราจะเป็นชาวพุทธที่ทำลายพระธรรม
เพราะไม่ได้ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า
ทุกคำในพระไตรปิฏกคือความจริงของสิ่งที่มีจริง
ธรรมเป็นภาษาบาลี(แปลว่าสิ่งที่มีจริง)ที่กำลังมีในขณะนี้
การศึกษาพระไตรปิฏกต้องแปลตรงบาลีไม่ใช่คิดเอาเอง
เพราะคนไทยยืมบาลีสันสกฤตมาใช้แต่แปลไม่ตรงภาษาต้น
เรียนคำสอนของพระพุทธเจ้าต้องเรียนแบบภาษาอังกฤษค่ะ
ศึกษาทีละคำตีความเข้าใจตรงความหมายคำก่อนเชื่อมคำ
:b12:
ครั้งพุทธกาลมีคำว่าสำนักมีคำว่าปฏิบัติ(ปะติปัตติ)
ทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัญญาของพระพุทธเจ้า
ปัญญาของเราคือสาวก(แปลว่าผู้ฟังคำสอน)
เพื่อคิดไตร่ตรองตามภาษาต่างประเทศ
ไม่ใช่คิดตามที่คนไทยแปลไม่ตรงบาลี
คำว่า"สำนัก"แปลตามบาลีคือ"พิกัดปัจจุบัน"
ยืนอยู่ที่ไหนแปลว่าตรงนั้นเรียกว่าสำนัก
เหมือนคุณจะแชร์ให้คนอื่นรู้พิกัดจีพีเอส
ให้คนอื่นทราบว่าอยู่แห่งหนใดในขณะนี้
ไม่ใช่ความหมายที่คนยุคนี้พยายามตั้งสำนักปฏิบัติ
:b1:
ส่วนคำว่า"ปะติปัตติ"คือชื่อเรียกปัญญา
ระดับจินตามยปัญญาเป็นกิจของธรรม
ทำหน้าที่ของธรรมตามปัญญาที่อบรม
มาจากการฟังตามลำดับจนรอบรู้คำที่ฟัง
ละเอียดรอบคอบในการใคร่ครวญคำที่ฟัง
โดยไม่ข้ามแต่ละคำจนปัญญาเจริญขึ้น
"ปฏิบัติ"แปลงมาจากบาลีว่า"ปะติ_ปัตติ
ไทยจัดหางป.ตัวหลังเป็นบ.=ปะติ_บัตติ
เมื่อมาเขียนในภาษาไทยเป็นปฏิ_บัตติ
:b17:
ปฏิบัติ(ไทยแปลว่าการกระทำของตัวตน)
แต่บาลีคือชื่อของกิจญาณคือกิจของปัญญา
ตรงตามบาลี"ปะติแปลว่าเฉพาะ""ปัตติแปลว่าถึง"
บาลีคือภาษาต่างประเทศเวลาเชื่อมคำแปลจากหลังมาหน้า
ปะติ(เฉพาะ)ปัตติ(ถึง)=ถึงเฉพาะตัวจริงธรรม
คือปัญญาต่างลำดับขั้นที่อบรมตามลำดับ
การอบรมเจริญปัญญาข้ามฟังก็ไม่เป็นไปตามลำดับ
เพราะฉะนั้นจะอบรมปัญญาตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
จึงต้องเริ่มต้นที่การฟังทุกครั้งและฟังจนกว่า
จะไม่หลงเชื่อหรือทำผิดตามผู้อื่นเพราะธรรมไม่ใช่ตัวตน
https://youtu.be/MLscaaZpquQ
:b16:
:b20: :b20:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/