| ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
| อุบายมีไว้เทียบเคียงความจริงคืออย่างไร http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=62276 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
| เจ้าของ: | Rosarina [ 09 ก.ค. 2022, 03:57 ] |
| หัวข้อกระทู้: | อุบายมีไว้เทียบเคียงความจริงคืออย่างไร |
อุบายมีไว้เทียบเคียงความจริงคืออย่างไร ไม่มีใครรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้ เพราะจิตเกิดดับเร็วไม่มีประมาณได้จึงทรงแสดงอุบายเพื่อ ให้ผู้ฟังคิดตามเพื่อเทียบเคียงระหว่างความคิดเดิมกับความจริงที่กำลังปรากฏ สัจจะดับเร็วกว่าที่จะคิดเองได้ทันจึงต้องพึ่งการฟังพระพุทธพจน์เพื่อสิกขาตรงคำตามได้ สิกขาคือศึกษาความจริงด้วยการคิดตรงทีละคำเข้าใจตรงตามที่ฟังไม่คิดแต่งต่อคำใดลงไปในคำที่ได้ยิน เพราะจะทำให้ฟังไม่ทันฟังขาดตอนฟังไม่ต่อเนื่องเพราะความจริงที่ทรงแสดงไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมตรงตามที่ตรัสรู้ทุกคำเพื่อให้ฟังเข้าใจและคิดเห็นถูกตรงตามได้ เพื่อรู้จักตนเองตามเป็นจริงว่าเราไม่สามารถรู้ความจริงตรงตามที่พระองค์ทรงแสดงได้เอง เพราะความจริงดับหายไปเร็วมากจนปรากฏเป็นนิมิตคือภาพมายาตามภพภูมิปัจจุบัน โลกแปลว่าสิ่งที่เกิดดับและขันธ์แปลว่าเกิดดับทรงไว้ซึ่งความว่างเปล่าจึงไม่มีเรา จึงต้อเงี่ยหูฟังดีดีคิดดีดีว่ามีอะไรกันแน่ที่กำลังมีกำลังปรากฏตรงตามที่กำลังฟัง โลกอันอะไรย่อมนำไปโลกอันอะไรย่อมเสือกไสไปโลกอันอะไรย่อมชักนำพามา โลกอันจิตย่อมนำไปโลกอันจิตย่อมเสือกไสไปโลกอันจิตย่อมชักนำพามาเกิด เกิดแล้วเป็นด้วยมีอาสาวะกิเลสคือมีอวิชชานอนเนื่องตกตะกอนอยู่ภายในจิต สิ่งที่กำลังมีจริงจริงในขณะนี้คือความไม่รู้ความจริงของสิ่งที่มีจริง(ธรรม=สิ่งที่มีจริง) พระธรรมทุกคำในพระไตรปิฏกสำหรับฟังเพื่อศึกษาสมมุติสัจจะเทียบอุบายบัญญัติคำ ทุกคำที่ทรงตรัสรู้เป็นธรรมะคือสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏตรงตามที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ทุกคำ ทุกคำต้องเพียรอดทนอาศัยผู้อื่นกล่าวอธิบายขยายความจริงตรงตามที่กำลังฟังเพื่อเข้าใจตาม เพราะจิตเกิดดับเร็วมากเพียงลัดนิ้วมือเดียวแค่ดีดนิ้วโป้งแตะนิ้วชี้จิตตนแล่นไปนับแสนโกฏิขณะ เทียบได้กับความเร็วหนังตาบนแตะหนังตาล่างเร็วไม่ถึง1วินาทีมีอวิชชาใหม่เกิดแล้วหายวับไปกับตา ไม่ใช่ให้เชื่อแต่จงตั้งใจฟังโดยไม่หวังผลเพราะจิตเกิดดับมีอากาศธาตุเป็นพื้นหลังมืดสนิท แค่มีอุบายเทียบเคียงไว้ว่าที่เกิดของจิตท่องเที่ยวอยู่ในกายจิตใจตนเองนับไม่ถ้วนในขณะนี้ คำสอนของพระพุทธเจ้าเปิดเผยความจริงให้เข้าใจถูกตรงตามที่ฟังได้ตลอดเวลาตลอดชีวิตนี้ เกิดมาแล้วเพราะไม่เข้าใจความจริงและเวลานี้เมื่อไม่ฟังคำสอนไม่เข้าใจความจริงก็เพลินทำอย่างอื่น ลืมฟังเพื่อศึกษาสมมุติสัจจะตรงตามสมมุติบัญญัติเพื่อให้ปัญญาผุดเกิดแทนกิเลสตรงตามที่กำลังฟัง ไม่มีใครรู้ความจริงได้อย่างพระพุทธเจ้าเพราะทุกคำในพระไตรปิฏกคือปัญญาทศพลญาณมีแค่1เดียว ความจริงที่กำลังมีกำลังปรากฏในขณะนี้เป็นสิ่งที่ควรรู้ยิ่งจงเพียรฟังเพื่อปรุงแต่งจิตให้คิดตรงคำตามเป็นจริง https://youtu.be/r2J11_rfdJQ
|
|
| หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
| Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |
|