| ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
| จิตของเรา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=61767 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
| เจ้าของ: | รสมน [ 09 มี.ค. 2022, 07:18 ] |
| หัวข้อกระทู้: | จิตของเรา |
…พยายามฝึกสติให้มากๆ นั่งสมาธิให้มากๆ “ ทำจิตรวมให้ได้ “ .ถ้าจิตรวมลงแล้ว ก็สามารถเข้าถึงตัวกิเลสได้ ..จากนั้น ก็เอาธรรมะพระพุทธเจ้ามาฆ่ามันได้ เอาอนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา เอาอสุภะ มาฆ่ามันได้ . ………………………………………. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี ธรรมะบนเขา ณ เขาชีโอน วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ความรัก ความชัง ประกอบสัตว์ไว้ในโลก.. มีพระนิพพานเท่านั้น ที่ไม่มีรักมีชัง ความรัก ความชังนั้น ถ้าไม่มีมัน.. ก็ไม่ร้อนนะใจ ต้องแก้ให้มันถึงฐานของมัน ต้องพิจารณาให้มันถึงฐานของมัน ความสงบ ก็ให้มีให้เพียงพอ.. หลวงปู่ลี กุสลธโร " จิตของเรามันปีนเกลียว กับธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ ไปว่า เป็นเราเป็นของเรา ไปว่า เป็นหญิงเป็นชาย เป็นสัตว์เป็นบุคคล นั่นล่ะ เรียกว่าปีนเกลียวกับธรรม ความรู้ความเห็นเช่นนี้ เป็นข้าศึกต่อธรรม จึงต้องพยายามลบล้าง ข้าศึกเหล่านี้ด้วยการ พิจารณาให้เห็นตาม ความจริง ด้วยการพิจารณาให้เห็น ตามความจริง คือธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ หรือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เพื่อลบล้างของปลอม ทั้งหลาย ให้มีเหลือ ตั้งแต่ความจริงล้วนๆ.." โอวาทธรรม หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน . #ฝันว่าแม่ตายนุ่งผ้าเก่า "แม่ของหนูตายไปแล้ว ๓ ปี มาเข้าฝันว่านุ่งผ้าเก่าๆ ผอมแห้งแรงไม่มี ในฝันแม่บอกว่า ลูก... อดๆ อยากๆ มาก ทั้งๆ ที่ลูกก็ทำบุญที่บ้านซอยสายลมทุกอย่างทุกประการ ทำไมหนอแม่ถึงไม่ได้รับเจ้าคะ" อ้าว ! เวลาเราทำ ให้กับพระ ไม่ได้ให้แม่นี่ พระรับประเคน แม่มารับประเคนเมื่อไร อันนี้อย่าลืมนะ การที่ตายไปแล้วเป็นของยาก การจะรับโมทนาน่ะ อย่าไปคิดว่าเราตายแล้วรอบุญกุศลจากลูกจากหลาน การทำบุญย่อมเป็นบุญ เจ้าภาพมีอานิสงส์ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ทีนี้บอกให้คนตายมาโมทนาท่านโมทนาได้หรือเปล่า โอกาสมันยากนะ คนจะรับโมทนาได้จริงๆ ต้องเป็นปรทัตตูปชีวีเปรต ถ้าเป็นเปรต ๑๑ จำพวกไม่มีโอกาส ถ้าเป็นปรทัตตูปชีวีเปรตมีโอกาส และถ้าเป็นสัมภเวสี เวลานี้เป็นสัมภเวสีต้องอุทิศตรงเฉพาะ ไม่แบ่งคนอื่น ใช่ไหม ถ้าหากว่าเป็นปรทัตตูปชีวีเปรต นี่กำลังหนาไปหน่อยหนึ่งก็ต้องอุทิศตรงไม่แบ่งให้ใครเลย มันยากเหมือนกันนะ อย่านึกว่าง่ายเกินไป ทีนี้คนที่ยังมีชีวิตอยู่จะไปหวังว่าลูกหลานจะทำบุญให้เมื่อตาย เวลาที่เรามีชีวิตอยู่หวังอะไรทำไว้เสียก่อน อยากมีวิมานก็สร้างวิหารทาน ถ้าสตางค์มีไม่มาก เขาสร้างกันเราก็สร้างกับเขา บาทสองบาทมันก็ใช้ได้ อยากจะมีความร่ำรวยในชาติต่อไป เวลาเขาถวายสังฆทานมีสตางค์ไม่ครบ เราก็ทำตามกำลังเพราะสังฆทานไม่ได้จำกัด แค่ข้าวนิด แกงหน่อย ก็ใช้ได้ ไม่มีข้าวนิดแกงหน่อยมีสตางค์แค่บาทสองบาทก็ผสมกับเขา ถือเราเป็นเจ้าภาพสังฆทาน อีกประการหนึ่งที่ญาติโยมพุทธบริษัทมาทำบุญเฉยๆ ทุกวันนี้ ฉันตั้งไว้ ๔ เกณฑ์ ตั้งไว้ ๔ จุดนะ ๑. สังฆทาน ๒. วิหารทาน ๓. ธรรมทาน ๔. สร้างพระพุทธรูป ฉันเอาไปสร้างตามนี้จริงๆ เอาอย่างนั้นนะว่าคนที่ยังไม่ตายเตรียมตัวไว้ตามนั้น อย่าประมาท ทำเอง ไอ้ตายไปแล้วถ้าพลาดมันเป็นแบบนั้น และประการที่สอง อย่าเอาจิตไปคิดถึงบาปอกุศลที่เราทำไว้ อกุศลทุกอย่างที่เราทำไว้ให้ลืมมันซะ ทุกวัน ไม่นึกถึงมันเลย นึกอย่างเดียว คือแต่ผลบุญที่เราทำแล้วเอาจิตมุ่งหวังไว้จุดเดียวคือนิพพาน ถ้ากำลังไม่ถึงนิพพานจริงๆ ก็ไปค้างที่สวรรค์หรือพรหมและไอ้จิตที่ไปมันจิตดวงเดิม แล้วก็ตีตั๋วต่อถึงนิพพานเลย ง่ายดี. หลวงพ่อพระราชพรหมยาน จากหนังสือ "ธรรมปฏิบัติ ๔๒" หน้า ๑๑-๑๒ คัดลอกโดย คณะบุญสุประวีณ์ |
|
| หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
| Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |
|