ปุจฉา : ถามว่าอันตรายของการคบคนพาลคืออะไร
วิสัชนา : ตอบว่าคบพาลในใจตนและชักชวนคนอื่น
ให้ทำตามความคิดเห็นผิดของตนด้วยความเข้าใจผิด
ทำลายตนเองและผู้อื่นหันหลังไม่ฟังพระสัทธรรมทุกชาติ
เพราะจิตมีเพียง4ชาติคือ1.ชาติอกุศล 2.ชาติกุศล 3.ชาติวิบาก 4.ชาติกิริยา
ทุกอย่างเป็นธรรมกำลังมีให้ศึกษาตรงตามที่ฟังเพื่อเข้าใจตามได้เป็นปกติเพื่อรู้จักชาติที่ตนเองสะสม
คนคืออะไรจะคบหรือไม่คบเลือกได้ไหม
ในเมื่อพาลในตนคือกิเลสตัณหาอวิชชา
ไม่ใช่ตัวตนใครทั้งสิ้นหลงคิดว่าตนดีกว่า
เหนือกว่ารู้กว่าลืมคิดว่าไม่ดีอยู่ที่ใจตัวเอง
และตนนั่นแหละทำลายปัญญาไม่ฟังจริง
ชั่ว-ดีอยู่ที่ทำตัว ดี-ชั่วอยู่ที่ตัวทำ
ทั้งทำตัวและตัวทำไม่มีเพราะ
ไม่มีผู้ทำมีแต่กิเลสในจิต
เป็นพาลอัตโนมัติ
ยังไม่ฟังคำสอน
คือไม่คบบัณฑิต
คนคือความคิดเห็นผิดว่ามีตัวตน
จึงคิดเองไม่ได้ต้องคิดตามคำสอน
และต้องเป็นคำสัจจะตรงตามเป็นธรรม
ไม่ใช่แบบลืมตัวเมาตามใจชอบคิดเอาว่าดี
รักตัวกลัวตายจนต้องหาข้าวกินทุกวัน
นี่แหละเรียกว่ามีกิเลสตัณหาอวิชชาอยู่
เป็นนกก็บินออกจากรังทุกวันค่ำก็กลับรังนอน
เป็นคนออกไปทำมาหากินค่ำก็กลับบ้านนอน
เนี่ยมีกิเลสตัณหาอวิชชาเหมือนกันเลย
แค่รูปร่างแตกต่างกันเป็น2ภพภูมิที่มีให้
เปรียบเทียบความหลงเวียนว่ายตายเกิด
ตามความหลงผิดที่คิดทำแตกเป็น31ภพภูมิ
คนจะประเสริฐตามพระพุทธเจ้าต้องรู้ว่า
พระพุทธเจ้าสอนว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้
และต้องปฏิบัติตนตรงตามที่บัญญัติไว้ในพระไตรปิฏก
ถ้าไม่เรียนไม่ศึกษาว่าตรงอย่างไรก็ตีความผิดบิดเบี้ยว
การเป็นพุทธบริษัทที่รู้จักคุณของพระพุทธเจ้า
ต้องเลื่อมใสศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้า
ถ้าไม่เคยศึกษาเรียนรู้คำสอนตามพระไตรปิฏก
ก็ไม่รู้จักพระพุทธเจ้าทำอะไรก็ไม้รู้เนื้อรู้ตัวว่าผิด
กิเลสตัณหาอวิชชาอยู่ภายในลึกที่สุด
ที่มองไม่เห็นต้องอาศัยการฟังพระสัทธรรม
คือการอธิบายตัวจริงธรรมให้เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏ
เพราะความจริงที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้เป็นสิ่งที่คิดเองไม่ได้แม้แต่คำเดียว
https://youtu.be/w17oAS9OenA
