พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงของโลกว่ามีแค่จิตเกิดดวงเดียว
ท่องเที่ยวเกิดตามเหตุปัจจัยกำหนดทีละ1ดวงเป็นอิสระต่อกัน
เป็นสภาพเกิดดับสืบต่อไหลไปไม่ขาดสายผ่านอากาศธาตุแทรกคั่น
ด้วยความรวดเร็วของการเกิดดับสลับกันจึงปรากฏเป็นนิมิตภาพมายาภพภูมิกิเลส
โลกแปลว่าสิ่งที่เกิดดับ ขันธ์แปลว่าเกิดดับทรงไว้ซึ่งความว่างเปล่า
การรู้ความจริงตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าต้องอาศัยการฟัง
การอธิบายบรรยากาศที่มีสภาวะต่างๆที่กำลังมีกำลังปรากฏ
เพื่อให้เข้าใจลักษณะเฉพาะที่มีจริงของตัวจริงทีละ1ธัมมะ
จิตเป็นสภาพรู้ธาตุรู้อารมณ์ทีละ1เรียกวิญญาณขันธ์มี89-121ประเภท
มีธาตุชนิดอื่นที่เกิดคู่กับจิตเรียกเจตสิกแบ่งเป็น3ขันธ์มี52ประเภท
เจตสิกรู้อารมณ์เดียวกับจิตแต่เกิดเป็นคู่หูเกิดดับพร้อมจิตได้3แบบดังนี้
1.เวทนาขันธ์1ประเภทคือความรู้สึกที่กายสุข ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ ที่ใจโสมนัส โทรมนัส เกิดได้ทีละ1ลักษณะ
2.สัญญาขันธ์1ประเภทมี2ลักษณะคือ2.1)จำถูกตรงสัจจะ2.2)จำคาดเคลื่อนไม่ตรงสัจจะ "------------------------"
3.สังขารขันธ์50ประเภทมี50ลักษณะ/อันนี้แหละที่เป็นธรรมที่ปรุงแต่งดี ชั่ว ไม่ดีไม่ชั่ว ดีชั่วเกิดร่วมกันไม่ได้
การปรากฏของจิตอาศัยการปรากฏให้รู้ว่ามีจิตเมื่อรูปปรากฏดังนั้นเมื่อจิตดับรูปทุกรูปจึงดับพร้อมจิตทันที
จิตปรากฏให้รู้ว่ามีด้วยอาศัยเหตุปัจจัยของขันธ์ทั้ง5ปรากฏผ่านที่ประชุมรวมตัวกันคืออายตนะตรงทางเดียว
จิตไม่เกิดพร้อมกันทีละหลายดวงแต่เกิดดับสลับกันทีละดวงไม่เกิดพร้อมกันไม่ปนกันแต่รูปมีอายุมากกว่าจิต
ดังนั้นการปรากฏรูปขณะต่อไปมีรูปอันเก่าที่ยังไม่ดับจึงลวงเสหมือนมีรูปปรากฏเป็นกลุุ่มเป็นก้อนให้หลงผิด
รูปเป็นสภาพไม่รู้อะไรเลยเป็นธรรมที่เป็นรูปธรรมเรียกมหาภูตรูปคือธาตุ4ดินน้ำลมไฟมีธาตุน้ำทำให้รวมตัว
มหาภูตรูปไม่ได้เกิดลอยๆมีคู่หูด้วยคล้ายจิตคือมีรูปประกอบ(อุปาทายรูป24ประเภท)อาศัยเกิดที่มหาภูตรูป
รูปจึงมีดังนี้1)มีมหาภูตรูป4รูปเป็นประธาน 2)มีอุปาทายรูป24รวมเป็น28รูปแต่มีสีเท่านั้นที่ปรากฏพร้อมแสง
การจะคิดถูกตรงตามพระธรรมต้องอาศัยผู้อื่นอธิบายในภาษาที่ตนเองเข้าใจลักษณะที่กำลังปรากฏตรงจริง
ไม่มีใครรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้จึงต้องฟังพระพุทธพจน์ให้ศึกษาโดยละเอียดเดาเอาไม่ได้
ส่วนนิพพานไม่ใช่สภาพรู้และไม่ปรากฏในขณะนี้เพราะเรากำลังยึดทุกอย่่่่่่่่่่่างที่ปรากฏรวมรวมกันเป็นตัวตน
คือกำลังมีอุปาทานขันธ์5หลงคิดผิดจำผิดว่ามีตัวตนมีคนสัตว์วัตถุและติดข้องพอใจยึดถือว่าเราทำอะไรได้
สภาพธรรมเกิดดับสลับกันครบ6ทางในขณะนี้เร็วแค่พริบตาเดียวจิตดับแล้วถึงแสนโกฏิขณะคือล้านล้านดวง
พระพุทธเจ้าคือผู้รู้แจ้งโลกพระนิพพานว่างเปล่าจากจิตเจตสิกรูปไม่ฟังให้เข้าใจถูกก็คิดเอาตัวตนไปทำผิดๆ
ทางลัดที่สุดที่จะเข้าใจความจริงถูกตัวจนรู้สึกตัวตรงตามคำสอนตรงปัจจุบันที่กำลังมีคือฟังด้วยหูตนเองเพื่อ
สะสมปัญญาคือความรู้ถูกความเข้าใจถูกจนเกิดความคิดเห็นถูกตรงสัจจะตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าที่ทรง
แจกแจงธรรมและทรงอธิบายเรื่องเกี่ยวกับตาหูจมูกลิ้นกายใจที่พระองค์รู้ความจริงถึง84000พระธรรมขันธ์
https://youtu.be/BQvBAagrdC4
