ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
จะเล่าความจริงให้เข้าใจง่ายๆแต่ต้องคิดให้ลึกเม่าที่จะลืกได้ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=61280 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Rosarina [ 08 พ.ย. 2021, 18:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | จะเล่าความจริงให้เข้าใจง่ายๆแต่ต้องคิดให้ลึกเม่าที่จะลืกได้ |
![]() พระพุทธเจ้าเป็นผู้มีปัญญารอบรู้ทุกอย่างทั้งจักรวาล ยังทรงพยากรณ์ด้วยเสี่ยงทายบาตรให้ภิกษุบวชใหม่ เพื่อให้พระนางโคตมีเลิกเสียพระทัยที่ไม่ได้ถวายผ้า แด่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันก็ได้ถวายผ้านั้นให้อนาคต พระภิกษุอชิตะที่จะเป็นพระพุทธเจ้าถัดต่อจากพระองค์ ชาวพุทธคือคนที่ได้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้าใจ ว่าอะไรถูกอะไรผิดอะไรดีอะไรชั่วอะไรทำได้หรือไม่ได้ ผู้ที่ฟังคำสอนเรียกตรงตามภาษาบาลีคือคำว่า สาวก สาวกของพระพุทธเจ้าคือผู้ฟังคำจริงของพระพุทธเจ้า ที่เป็นสัจจะวาจาตรงจริงทุกเวลาคำไหนคำนั้นไม่เปลี่ยน ผู้ที่เป็นสาวกกล่าวตามคำจริงของพระพุทธเจ้าให้ผู้อื่นฟัง สาวกก็ต้องกล่าวคำจริงตรงตามที่พระองค์บัญญัติตรงตรง ปัญญาลอกทำตามกันไม่ได้เพราะเป็นความเข้าใจไม่เท่ากัน สาวกทุกคนเมื่อฟังเข้าใจรู้สึกอย่างไรก็กล่าวอย่างนั้นตามเหตุผล ไม่มีใครพูดเพื่อเอาใจกิเลสใครเพื่ออนาคตจะหวังให้เขาเอาลาภมาให้ เงินทองของนอกกายไม่ตายก็หาใหม่ได้คือคำพูดตามความคิดของชาวโลก แต่สำหรับคำสอนของพระพุทธเจ้าโดยพระวินัยบัญญัติไม่นับเงินทองเป็นปัจจัย4 https://www.phutthathum.com/4r1a6 ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarina [ 08 พ.ย. 2021, 19:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จะเล่าความจริงให้เข้าใจง่ายๆแต่ต้องคิดให้ลึกเม่าที่จะลืก |
![]() ง่ายมากถ้ารู้แล้วว่า กะพริบตามีกิเลสใหม่ เกิดแล้วล้านล้านวิถีจิต ตอนนอนหลับกิเลสไม่เกิด ตื่นนอนปุ๊บรู้สึกตัวกิเลสก็เริ่มทำงาน มันทำงานตอนที่ทุกคนตื่นจากหลับทันที ตื่นแล้วยังหลับตารู้สึกตรงไหนก่อนตรงนั้นค่ะ จำทันทีว่ามันคืออวัยวะส่วนไหนจำผิดทันทีลืมตัวแล้ว ลืมคิดตรงตรง ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า ตัวตนไม่มี ไม่ว่าจะนอนที่บ้านที่วัดที่โรงแรมที่ไหนๆก็ไม่เคยจำว่าตัวตนไม่มี ตราบใดที่ยังไม่ถึงพระอรหันต์ตราบนั้นก็หยุดเกิดไม่ได้และตายไม่รู้ตัวเสียด้วย คิดดูนะแค่เพียงเอานิ้วหัวแม่มือแตะนิ้วชึ้ดีดดังเป๊าะเดียวจิตดับไปแล้วล้านล้านวิถีจิต วิถีจิตปกติมีแค่6ที่คือที่ตาหูจมูกลิ้นกายใจอันนี้พระพุทธเจ้าบอกว่าให้ดูตอนกิเลสเกิด ที่จิตตัวเองก่อนถ้าดูตัวเองออกจะเห็นพฤติกรรมกิเลสแต่ละประเภทของคนอื่นออกหมด ขณะเกิดและขณะตายคือ2ขณะนี้เกิดต่อกันผ่านอากาศธาตุคือภวังคจิตไม่มีใครรู้สึกตัวเป็นปกติ พระโพธิสัตว์ในชาติสุดท้ายที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้ามีสติตลอดเวลาตั้งแต่เกิดจนตายเลือกเกิดได้ มีผู้ที่มีสติตอนเกิดคือรู้สึกตัวตอนจุติไปปฏิสนธิมีบุญได้เป็นบุคคลที่ร่วมสหชาติของพระพุทธเจ้าเท่านั้น นอกนั้นเกิดตายไม่มีสติไม่อาจเลือกที่เกิดได้ไหลไปตามกรรม2ขณะจิตเร็วแบบพริบตาเดียวเกิดทันทีเลย ทั้งนักบวชและชาวบ้านทั้งเราทั้งเขานี่แหละจำไว้ว่ากะพริบตาทุกคนมีกิเลสเกิดแล้วล้านล้านวิถีจิตห้ามเดา เดาไม่ได้ต้องฟังคำสอนให้รู้เกิดได้ยังไงตายได้ยังไงจะได้รู้เรื่องเวลาไปนั้งฟังสวดพระอภิธรรมเข้าใจได้ค่ะ ทีนี้ก็ลองพินิจดูนะว่าถ้าเราคิดไม่ทันว่ากิเลสตัวเองและคนอื่นที่ไม่ใช่พระอรหัต์และพระพุทธรูปมีกิเลสแล้ว กิเลสคือมองเห็นอะไรตรงหน้าที่เห็นเป็นมีคนสัตว์วัตถุแม่น้ำป่าไม้ภูเขาภาพสวยไม่สวยนั้นแหละเรียกนิมิต พระพุทธเจ้าให้ฟังพระองค์ให้รู้สึกที่ตัวว่านิมิตที่ตาเนื้อเห็นว่ามีอะไรนอกตาคือความคิดเหมือนความคิดในฝัน คือฝันแปลว่าสิ่งนั้นไม่มีตื่นจากหลับจึงรู้ว่าฝันไปแต่เดี๋ยวนี้ไม่หลับลืมตาเห็นก็ไม่รู้ว่าที่ลืมตาเห็นเหมือนในฝัน ถ้าไม่ฟังคำสอนจะไม่รู้ตัวว่าฝันทั้งหลับทั้งตื่นยืนเดินนั่งนอนตลอดทุกวันทุกชาติด้วยถ้าไม่ได้ฟังสิ่งที่ถูกต้อง แต่ละวันตื่นขึ้นมาก็จะมีคนสัตว์วัตถุมาเสนอตรงหน้าให้หลงคิดทำตัวตนอวิชชาใหม่ไปทุกชาติถ้าไม่ฟังจริงจัง ถ้าคิดว่าไม่มั่นใจกรุณาถามจากผู้ที่สามารถตอบคำถามเพื่อสนทนาเพื่อความเข้าใจเพิ่มขึ้นไม่มีการเดาทำได้ https://youtu.be/SpJFnrN4Y-I ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |