อ่านทีละคำ คิดตรงคำ คิดช้าๆ คิดลึกๆ คิดแล้วคิดอีก คิดซ้ำทีละคำ คำไหนไม่เข้าใจห้ามผ่าน ฟังตลอดชีพ
ทุกภาษาที่คุณเข้าใจคือคำใดที่อ่านหรือฟังแล้วฟังเสียงในหัวแล้วทำให้เข้าใจสิ่งที่กำลังมีที่ตัวคือคำจริง
ไม่ว่าในภาษาของคนชาติใดคุณที่เข้าใจแปลความหมายของภาษาชาตินั้นคุณก็เข้าใจคำของพระพุทธเจ้าได้
เพราะพระไตรปิฏกเป็นสิ่งเดียวที่ดำรงคำสอนไว้ครบถ้วนตรงจริงตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงจากพระโอษฐ์
ทำอะไรโดยไม่พึ่งพระธรรมคือทำตามตัวตนอวิชชา
ไม่ว่าจะเป็นการไปนั่งหลับตาทำสมาธิที่คิดกันเองว่าดี
พระไตรปิฏกคือรายละเอียดเรื่องราวจริงที่กำลังมีในขณะนี้
แปลว่าไม่ว่าจะพูดถึงคำไหนในพระไตรปิฏกคำนั้นก็คือมีจริงเดี๋ยวนี้
ไม่เข้าใจใช่ไหมล่ะคะก็เพราะยังไม่มีปริยัติสัทธรรม
คืออาการกิริยาอาการที่กำลังพึ่งการคิดไตร่ตรองจากฟัง
ชั่วพริบตาเดียวตายลงนรกทันทีก็ได้เหมือนขณะนี้เลยนะคะ
คุณกำลังมีกิเลส(แปลว่าไม่รู้)คือตัวเองไม่รู้ว่ามีไม่รู้และไม่มีตัวเอง
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงที่ทุกคนกำลังมีในขณะนี้เอง
คำว่าไม่มีต้องตรงเวลานี้เลยคือเหมือนคนหลับสนิทไม่รู้ความจริงอะไรเลย
ไม่ว่าจะใช้ชีวิตในวัดในดิสโก้เทคในคาสิโนที่โรงเรียนที่วัดก็เหมือนคนที่ยังหลัับไหล
กำลังไหลตายก็ไม่รู้ความมืดบอดสนิทของจิตเกิดจากความไม่รู้ความจริงที่กำลังมีในขณะนี้เอง
เป็นเราคิดว่าเรามีตัวตนคนคือชาตินี้แหละที่รู้สึกตัวแล้วว่าได้เกิิิิิดเป็นคนคือสรุปผลของกรรมดีในอดีตชาติ
จึงได้มาเกิดเป็นคนและได้พบพระพุทธศาสนาคือคุณได้พบคำสอนของพระพุทธเจ้าแต่จะใช่ของแท้รึเปล่า
คุณคงคิดว่าผ่านมา2564ปีหลังปรินิพพานไม่มีใครรู้หรอกว่าพระไตรปิฏกจริงรึเปล่าคิดแบบนี้อยู่ใช่รึเปล่าคะ
เอาความจริงที่จริงจริงเลยนะคือเดี๋ยวนี้เลยคุณไม่รู้ว่าคุณกำลังเห็นอะไรและจะเป็นแบบนี้ตลอดชีวิตถ้าไม่ฟัง
จงฟังทุกคำและคิดละเอียดทุกคำและฟังทุกเสียงที่มีคนบอกความจริงให้คุณเข้าใจถูกตัวตนของคุณทุกเวลา
นี้ทุกข์คือเวลานี้แหละคุณไม่รู้ว่าทุกคำในพระไตรปิฏกประมวลผลมาจากคำสอนของพระพุทธเจ้าคือไม่มีเรา
คือไม่มีทุกอย่างที่คุณกำลังมองเห็นว่ามีคนสัตว์วัตถุทั้งหมดมีแต่ความมืดมนในใจคุณที่ไม่ว่ามองไปทางไหน
คุณก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่เห็นได้มีแค่สีล้วน1สีไม่มีรูปร่างอะไรดับมืดทันทีเหมือนหลับสนิทแต่มีนิมิตทุกอย่างให้คิดว่ามี
แต่จริงๆไม่มีอะไรเลยนอกตานอกตัวคุณมีแต่ความคิดหลงผิดจำผิดว่ามีคนสัตว์วัตถุมีภพนั้นภพนี้นั่นน่ะไม่มี
เพราะเวลานี้แหละอะไรอะไรที่คิดว่ามี=ไม่มีแต่ว่าคุณจำผิดคุณไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไรเพราะไม่ศึกษา
คำว่าศึกษาความจริงตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้ามีวิธีเดียวคือฟังทุกวันจนกว่าจะเข้าใจถูกตัวตนของคุณ
โลกที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้เป็นโลกที่ว่างเปล่าจากทุกสิ่งมีเพียงจิต1ดวงท่องเที่ยวสลับกันที่ตาหูจมูกลิ้นกายใจ
https://youtu.be/ewClhL_02Ac
