พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏว่ามีในขณะนี้
เป็นตัวเรามีความไม่รู้และอยากรู้มัวแต่ทำตามประเพณีโดยไม่รู้อะไรเลย
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่มีจริงของทุกคำที่คุณไปอ่านในพระไตรปิฏก
แต่ละคำบ่งบอกความจริงที่เกิดขึ้นแล้วมีแล้วไม่มีตัวตนใครทำเพราะตัวตนไม่มีตามที่ทรงแสดง
ที่กำลังคิดว่ามีตัวเองคิดพูดทำสิ่งต่างๆอยู่ตลอดเวลาก็คือมีอุปาทานขันธ์5ว่ามีตัวตนทำ
คือมีความหลงผิดเป็นตัวตนอวิชชาและมีความไม่รู้ตัวว่ามีอวิชชาคิดหาทางไปดับอวิชชา
พระพุทธเจ้าสอนให้เข้าใจความจริงด้วยการคิดตามความเป็นจริงของสิ่งที่มีจริงที่กำลังมีอยู่
ก่อนทุกอย่างดับหายไปเพราะตัวเราตายจากอัตตภาพคนทุกคนต้องตรงที่จะรู้จักตัวเองตามปกติ
สภาพธรรมที่เกิดจากการตรัสรู้กำลังเกิดดับนับแสนโกฏิขณะที่ตัวของเราทุกคนในขณะนี้
ทุกคำในพระไตรปิฏกจึงแสดงถึงความจริงที่ทุกคนกำลังเป็นตามปกติของการเกิดดับของธรรม
ตัวจริงธรรมทั้งหมดกำลังเกิดดับนับล้านล้านดวงจิตแต่เราไม่ศึกษาความจริงตรง1ขณะจิตที่ตรัสรู้
และกำลังมีความพากเพียรไปกดดันมัดตัวตนให้แน่นหนาด้วยอวิชชาเพิ่มด้วยการไปเดาคิดพูดทำเอาเอง
แปลว่าเกิดมาชาติไหนก็หลงระเริงทำกรรมไปตามที่ชอบคิดเองแถมมีตัวตนอยากดีและลืมตัวเสมอ
ไม่เคยคิดตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าตามปกติที่เป็นปกติเป็นอยู่คือตอนนี้คือเป็นคนคือภพภูมิมนุษย์
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนว่าให้ทำแบบนี้ไปสวรรค์ให้ทำแบบนี้ไปนรกแต่ทรงบอกว่าจะเข้าใจให้คิดตรงตามจริง
โดยปกติวิสัยคนคิดตามลำดับคำได้ตรงทีละ1คำคิดเกิน1คำก็ไม่ตรงเพราะเกิน1คำคือเวลาใหม่จิตดวงใหม่
https://youtu.be/QCoZvF8coSU
