พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่จริงตลอดกาลและเปลี่ยนไม่ได้คือธรรมแปลว่าสิ่งที่มีจริงและกำลังมีขณะนี้
ธรรมคือสิ่งที่มีจริงที่เป็นโลกคือสิ่งที่เกิดดับที่เป็นขันธ์คือเกิดดับทรงไว้ซึ่งความว่างเปล่าจึงไม่มีเรา
เพราะมีแต่ธรรมที่เกิดแล้วเกิดเลย ดับแล้วดับเลย มีก็เหมือนไม่มี ไม่มีก็เหมือนมี กำลังมีจริงจริง
เป็นสิ่งที่กำลังปรากฏให้รู้ว่ามีจริงจริงมีแล้วไม่มีใครทำแต่รู้ได้ว่ามีเมื่อเกิดขึ้นแล้วสั้นแสนสั้น
ไม่ไปไหนเลยก็มีและจะไปรู้สิ่งที่มีจริงตอนยังไม่เกิดไม่ได้เพราะสิ่งที่มีจริงขณะนี้กำลังมี
ทุกคำที่พระพุทธเจ้าตรัสแสดงความจริงที่กำลังปรากฏว่ามีเพื่อให้คิดถูกตรงตามได้
ผู้ที่กำลังฟังเท่านั้นจึงรู้ว่าสิ่งที่มีจริงนี้กำลังปรากฏว่ามีจริงๆกำลังเป็นไปตามที่ตรัส
ทรงตรัสทุกคำจริงตรงกับทุกคำในพระไตรปิฏกไม่ว่าจะได้ฟังเมื่อใดก็จริงขณะนี้
ไม่ใช่ให้เชื่อแต่ทุกคำที่กำลังได้ยินได้ฟังแล้วเข้าใจถูกทำให้ผู้ฟังคิดถูกทันที
เพราะเป็นธรรมตรงตามที่ได้ยินทันทีและมีสภาพธรรมกำลังปรากฏด้วย
พระองค์ตรัสถึงสิ่งที่มีตรงตรงตามที่ผู้ฟังกำลังเป็นตรงตามที่กำลังมีค่ะ
เข้าใจถูกตรงตามได้ทันทีที่รู้ภาวะความเป็นของตนตรงตามที่ได้ยิน
แปลว่าปัญญาผู้ฟังมีต่างระดับกันจึงรู้ไม่เท่ากันแม้ฟังคำเดียวกัน
ดังนั้นสติปัญญาจึงเป็นธรรมที่ทำเลียนแบบกันไม่ได้รู้จึงบอกได้
ถ้าบอกไม่ได้และไม่จริงใจในการบอกความจริงก็คือไม่รู้นั่นเอง
ความจริงตรงมากและเปลี่ยนไม่ได้เพราะถูกกำหนดตามกรรม
https://youtu.be/QcE6zrbf9Ns
