วิชชาคือความจริงที่พระพุทธเจ้ารู้ทั้งหมดว่าไม่มีคนสัตว์วัตถุ เติม อ หน้า วิชชา = อวิชชา
อวิชชาคือความไม่รู้ไม่เข้าใจความจริงอะไรเลยมีแต่ความหลงมัวเมาตัวตนและมีแต่ตัณหา
ตัณหาคือความอยากเป็นความลุ่มหลงความมีตัวตนมี3แบบคือ1.กามตัณหา 2.ภวตัณหา 3.วิภวตัณหา
คิดพูดทำตามความคิดเห็นตัวเองมีอัตตาจึงเวียนว่ายตายเกิดไม่หยุดในโลก3คือ1.กามภพ 2.รูปภพ 3.อรูปภพ
โลกแปลว่าสิ่งที่เกิดดับ ดังนั้นโลกียธรรมก็คือโลกของจิตเกิดดับทีละ1ดวงไม่มีอัตตาปนแปดเปื้อนให้มัวหม่น
เพราะยึดมั่นถือมั่นในอัตตาตัวตนไม่รู้ว่าโลกทุกโลกว่างเปล่าจากตัวตนมีแต่ความคิดเห็นผิดเป็นมิจฉาทิฏฐิ
มีอุปาทานขันธ์5 มีขันธ์5ก็ไม่รู้จักว่าขันธ์5คืออะไร ยึดติดว่าขันธ์5เป็นตัวเราและมีตัวเราคิดถึงคำว่าขันธ์5
ขันธ์5มันดับไปหมดแล้วมัวคิดทำอะไรงมงายในความมืดมิดปิดตาอยู่ล่ะคะยังไม่ได้รู้สึกตัวตามคำสอนเลย
ขันธ์แปลว่าเกิดดับทรงไว้ซึ่งความว่างเปล่า ดังนั้น โลกียธรรมก็คือสิ่งที่กำลังเกิดดับทรงไว้ซึ่งความว่างเปล่า
ยังคิดว่ามีตัวเราแปลว่ามีมิจฉาทิฏฐิแล้วยังคิดว่ามีคนสัตว์วัตถุมาปรากฏให้เห็นให้รู้สึกว่าอยากได้คือมีตัณหา
ความอยากของเราแค่ได้ยินคำว่านิพพานไม่เกิดก็รีบอยากไม่เกิดน่ะคือไม่อยากอะไรก็ไม่รู้ก็คือมีวิภวตัณหา
ก็พระพุทธเจ้าบอกว่านิพพานคือโลกว่างเปล่าจากสัตว์บุคคลตัวตนก็ไม่รู้มีแต่ความอยากได้เมื่อไหร่จะรู้เรื่อง
สิ่งที่เคยทำเอาไว้ทุกชาติมาปรากฏเป็นคนทำให้รู้ว่าเป็นผลของกรรมดีจึงได้พบคำสอนของพระพุทธเจ้าแต่
พอมาพบคำสอนแล้วก็ลืมตัวหลงไปตามตัณหาเหมือนเดิมที่เคยทำมานั่นแหละก็ชอบคิดพูดทำตามใจอยาก
ไม่สนใจจะฟังพระพุทธพจน์เพื่อให้เกิดปัญญาเข้าใจความจริงถูกต้องตรงปัจจุบันเพื่อเกิดสัมมาตามคำสอน
ที่กำลังคิดพูดทำเอาเองอยู่นั่นแหละพาไปเกิดอีกโดยขาดปัญญาถ้าจะย่นภพชาติต้องฟังพระพุทธพจน์ทุกวัน
เพราะพระพุทธเจ้าอธิบายทุกคำในพระไตรปิฏกเพื่อให้คิดถูกตามได้แล้วรู้ตัวว่ายังไม่เข้าใจก็ยังต้องเกิดอีก
https://youtu.be/w1TLUjNhFp8
