ต่างเพศคือไม่ทำอะไรเหมือนกัน
เพศตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
บ่งบอกถึงวิธีการดำเนินชีวิตที่ต่าง
แบบทำตรงข้ามกันทุกอย่างตามเพศ
หลักๆมี2เพศคือคฤหัสถ์กับบรรพชิต
บรรพชิตคือสละงานและอาชีพทุกแบบ
ที่เคยคิดพูดทำแบบตอนเป็นคฤหัสถ์
บวชแล้วจะทำแบบเดิมไม่ได้เลยต้อง
ทำถูกต้องตรงตามสิกขาบททุกๆข้อ
ถ้าล่วงอาบัติต้องปลงอาบัติซะก่อน
จึงจะสามารถดำรงตนตามสมณเพศได้
ไม่ว่าจะศึกษาคำใดในพระไตรปิฏก
ทุกคำบัญญัติจากพระทศพลญาณ
เป็นคุณสมบัติเฉพาะพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าด้วยกันจึงสรรเสริญ
พระคุณของพระพุทธเจ้าด้วยกันได้
คือจบหลักสูตรครูสอนมนุษย์และเทวดา
ที่มีได้เพียง1คนในจักรวาลที่ยังมีคำสอนอยู่
แปลว่ามนุษย์และเทวดาที่เหลือต้องเรียนรู้ตามเท่านั้น
เพราะวิชชาของพระพุทธเจ้าจบได้ทีละ1คนจึงมีคำสอนให้คิดเหตุผลตามได้อยู่
แม้พรหมทั่วพรหมโลกยังต้องมานั่งเฝ้าเงี่ยหูฟังว่าจะได้ยินคำใดจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า
มนุษย์ผู้โลภโกรธหลงมัวเมาโลกธรรม8แสวงหาแต่ลาภสักการะย่อมเข้าไม่ถึงสัจจะเพราะขาดสุตมยปัญญา
แปลว่าปัญญาที่สูงกว่าจึงเกิดไม่ได้เลยได้แต่เดาทำในความมืดมิดเป็นตาบอดคลำช้างคือเดี๋ยวนี้กำลังเป็นค่ะ
ทุกคำในพระไตรปิฏกส่องถึงความจริงที่กำลังปรากฏว่าเป็นอย่างนั้นตรงคำนั้นแต่ไม่รู้จึงคิดแต่จะไปทำไงล่ะ
ทั้ง84000พระธรรมขันธ์ล้วนขยายความสิ่งที่กำลังปรากฏว่ามีแล้วทางตาหูจมูกลิ้นกายใจในขณะนี้ไม่ได้ทำ
สาวกคือผู้ฟังมีงานที่ฉลาดทำคือฟังเพื่อให้จิตเข้าใจถูกทันทีตรงตามคำสอนถ้าฟังไม่ดีย่อมมีมิจฉาทิฏฐิทันที
https://youtu.be/271iyj2HVOA
