ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ปัญญารู้อะไร
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=60195
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  Rosarin [ 20 เม.ย. 2021, 16:54 ]
หัวข้อกระทู้:  ปัญญารู้อะไร

Kiss
ปัญญารู้อะไร
ปัญญาดับอวิชชา
คำว่าปัญญาคือชื่อเจตสิก1
ที่ปรุงแต่งจิตตอนกำลังฟังคำสอนเข่าใจถูกตามได้
เพื่อดับอวิชชาที่กำลังมีเดี๋ยวนี้เองที่ไม่รู้ว่ากิเลสเกิดแล้ว
หลังจิตเห็นดับไปเพียง3ขณะขณะถัดไปอาสาวะกิเลสในจิตตนไหลเป็นห่าฝน
เพราะว่าจิตเกิดดับเร็วเดี๋ยวนี้ชั่วลัดนิ้วมือเดียวดับจิตถึงแสนโกฏิขณะ=ล้านล้านดวงจิตแล้ว
ดังนั้นเห็นที่กำลังเห็นนี่แหละกิเลสเกิดแล้วเพราะกำลังมีเห็นเกิดดับนับครั้งไม่ถ้วนไม่รู้เลยว่าอวิชชาเกิดแล้ว
ชั่วพริบตาเดียวกิเลสไหลไปตามความคิดตัวตนแสนโกฏิขณะไม่รู้เลยว่าขณะที่3หลังเห็นดับคืออันไหน
เพราะเดี๋ยวนี้มีจิตครบ6ทางที่เกิดดับสลับกันเร็วเท่ากะพริบตาในมืดนิดนึงนั้นดับจิตถึงล้านล้านดวงจิตแล้ว
จนกว่าจะเริ่มต้นฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อปรุงแต่งคิดตามคำสอนเพื่อรู้จักลักษณะที่กำลังปรากฏว่ามี
https://youtu.be/f1LqxJ6IqS8
:b12:
:b16: :b16:

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 21 เม.ย. 2021, 05:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปัญญารู้อะไร

ปัญญามี ๒ อย่าง คือ
๑. ปัญญาในโลกียะ เรียกว่าปัญญาที่เป็นไปด้วยสาสวะ
มีการทำกุศลคือ การให้ทาน รักษาศีลบ้าง
ปัญญาในการทำฌานให้เป็นไปบ้าง ทียังความเพลิดเพลินพวพันติดอยู่กับโลก

๒.ปัญญาในโลกุตตร เรียกว่า ปัญญาที่เป็นไปด้วยอนาสวะ เป็นปัญญา
ที่สามารถทำลายกิเลสให้หมดสิ้นไปได้ สามารถยกระดับจากปุถุชนให้ก้าวเข้าสู่พระอริยะได้

เจ้าของ:  Rosarin [ 21 เม.ย. 2021, 13:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปัญญารู้อะไร

ลุงหมาน เขียน:
ปัญญามี ๒ อย่าง คือ
๑. ปัญญาในโลกียะ เรียกว่าปัญญาที่เป็นไปด้วยสาสวะ
มีการทำกุศลคือ การให้ทาน รักษาศีลบ้าง
ปัญญาในการทำฌานให้เป็นไปบ้าง ทียังความเพลิดเพลินพวพันติดอยู่กับโลก

๒.ปัญญาในโลกุตตร เรียกว่า ปัญญาที่เป็นไปด้วยอนาสวะ เป็นปัญญา
ที่สามารถทำลายกิเลสให้หมดสิ้นไปได้ สามารถยกระดับจากปุถุชนให้ก้าวเข้าสู่พระอริยะได้

tongue
ปัญญาจะเกิดได้เป็นวิธิการแบบเดียวกับการขับรถยนต์ค่ะทำแบบเดิมทุกครั้ง
จะขับรถต้องสตาร์ทกุญแจรถเสียงเครื่องยนต์ติดอุ่นเครื่องแล้วเข้าเกียร์=สุตมยปัญญา
ขับเคลื่อนรถไปตลอดทางเสียงเครื่องยนต์ดีสิ่งแวดล้อมที่ขับผ่านไป=จินตามยปัญญา
ถึงจุดหมายปลายทางได้โดยปลอดภัยโดยรถไม่ติดๆดับๆถึงแล้วปิดกุญแจ=ภาวนามยปัญญา
จอดรถเงียบๆก็ไม่มาสนใจรถเลยแต่ไปทำอย่างอื่นคือยังไม่เริ่มฟังคำสอนก็คือไม่ทำปัญญาให้มีขึ้นตามลำดับ
ถ้าไม่คิดที่จะพึ่งการฟังคำสอนตามเป็นเจริงให้มีความคิดถูกตามได้ทีละน้อยก็เป็นตัวตนกิเลสอยากนิพพาน
ไม่ใช่วิธีคิดแยกโลกออกจากธรรมเพราะโลกในภาษาบาลีแปลว่าสิ่งที่เกิดดับและธรรมคือสิ่งที่มีจริงที่ตรัสรู้
สิ่งที่ตรัสรู้คือสิ่งที่มีจริงที่ดับไปหมดแล้วค่ะถ้าไม่ฟังคำสอนที่อธิบายไว้ก็เอาตัวตนอวิชชาไปนั่งเดาทำอะไร
แม้พระอรหันต์จะถึงนิพพานแล้วเมื่อมีคนมาถามและตอบไม่ได้ยังต้องไปฟังพระพุทธเจ้าตอบจึงเกิดปัญญา
แล้วเราเป็นใครจึงคิดเองไม่คิดฟังตราบใดที่อาสาวะกิเลสยังไม่ดับก็มีอาสาวะนอนในจิตไหลเป็นปกติ
:b12:
:b4: :b4:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/