วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 07:54  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ม.ค. 2021, 05:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"บุญไม่มีตัวไม่มีตนแต่มีฤทธิ์"
#บุญที่เราทำจะเป็นบุญ​ฤทธิ์​
คอยอุ้มชู หากช่วงใดดวงดี
บุญก็จะหนุนนำให้ดียิ่งขึ้นไป​
หากช่วงใดดวงไม่ดี​
#บุญ​ก็จะคอยอุ้มชูให้เราไม่ตกอับ....

หลวงปู่หล้า เขมปัตโต









เจริญมรณานุสสติให้มาก
เราไม่รู้ว่าตนจะตายตอนไหน
อาจเกิดอุบัติเหตุ
ถูกกราดยิง หรือเป็นโรคระบาด

โอกาสที่จะปฏิบัติธรรมจริงจังก็ไม่มี
เพราะเอาเวลาไปทำงานทางโลกหมดแล้ว

ควรนึกถึงความไม่แน่นอนในชีวิตบ้าง
อย่าทำตามใจกิเลสเหมือนที่ผ่านมา
เวลาเป็นของมีค่าควรบริหารให้เกิดมรรคผล

โอวาทธรรม : พระอาจารย์คม อภิวโร











เราเกิดมาเพื่อสร้างความดี

“เราเกิดมาเป็นมนุษย์ เกิดขึ้นมาทำไม เกิดมาเพื่อรับประทาน เกิดมาเพื่อนอน เกิดมาเพื่อเที่ยว หรือเกิดมาเพื่ออะไร เมื่อเราถามตัวเองอย่างนี้แล้ว ในที่สุดเราก็จะสรุปได้ว่า เราเกิดมาเพื่อสร้างความดี”

“คุณธรรม ก็คือ เมตตาธรรม เมื่อมีเมตตาธรรมแล้ว ก็มีจิตศรัทธา ให้ทาน ก็มีจิตศรัทธา รักษาศีล แล้วก็มีจิตศรัทธาที่จะ ภาวนาต่อไป”

“เมื่อเราตั้งจิต เป็นพุทโธเพียงคำเดียว พุทโธคำนั้น จะมีความหมายต่อชีวิตมโหฬาร”

“แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นการให้ทาน แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นการรักษาศีล แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นการภาวนา ก็ล้วนแล้วแต่เป็นแนวทางที่จะทำให้เราพ้นจากทุกข์ด้วยประการทั้งปวง”

“ชีวิตคนเราถ้าหากว่าไม่มีบุญกุศลติดตัวแล้ว มันก็ไร้ประโยชน์ เพราะว่าจะสวยจะงาม จะหล่อจะเหลาเท่าไหร่ก็ตาม ไม่พ้นที่จะไปอยู่บนกองไฟ พอไปอยู่ตรงนั้นเมื่อไหร่ก็หมดแล้ว มีอะไรนอกจากเถ้าถ่าน “

“ท่านทั้งหลาย เวลาที่เรามีจิตใจ โทโส โมโห ผูกพยาบาทอาฆาตจองเวรใครอย่างเนี่ย เราก็พยายามอย่าให้อาฆาตจองเวรไว้ในจิตใจ ต่างคนก็ต่างให้อภัยเสีย แล้วกรรมมันจะได้ไม่ติดตามเราไปเพื่อที่จะสนองกรรมเวรกัน”

“เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี แต่ว่าจิตใจไม่สงบ มันไม่มีความสุข ไม่มีความสุขโดยเด็ดขาด เพราะเงินทองเหล่านั้นมันไม่ใช่ว่าจะมาบังคับอารมณ์จิตใจของเราได้ มีแต่สร้างอารมณ์ของเราเท่านั้น”

“สุขา สังฆัสสะ สามัคคี ความพร้อมเพรียงซึ่งคณะ ทำให้เกิดสุข ที่นี้ตรงกันข้าม ถ้าความแตกสามัคคีเกิดขึ้น ก็ทำให้เกิดความทุกข์”

“ใจเป็นผู้เกาะเกี่ยวอารมณ์ สนิมที่เกิดขึ้นในจิตใจนั้น อย่าให้มันลุกลาม มันลุกลามแล้ว อย่าว่าแต่เหล็กเลย หัวใจมนุษย์ ที่สร้างด้วยความใหญ่ยิ่งแล้ว ก็ยังต้องถูกกัดกร่อน จนกระทั่งไม่เหลืออะไร”

“สมาธิต่างๆ ที่เราได้ทำกันขึ้นเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นหนทาง แนวทางที่จะให้เกิดพลังจิต พลังจิตนี้เมื่อสะสมมากขึ้นแล้ว ก็กลายเป็นคุณธรรม”

หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร
วัดธรรมมงคล กรุงเทพมหานคร










เวลาสวดมนต์ไหว้พระ อย่าพากันทำเป็นเล่นเห็นเป็นของสนุกคะนองปาก.. ธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นของสูงควรค่าต่อการเคารพเป็นอย่างยิ่ง.. หากพากันเห็นเป็นของเล่นแล้ว ก็จะเป็นบาปเป็นกรรมกับตัวเอง.. นักปราชญ์ได้ยินท่านก็ตำหนิ เทวดาเขาก็พากันตำหนิ.. เวลาไหว้พระสวดมนต์ ให้พากันตั้งใจสวดจริงๆ เวลาสวดก็ให้มีสมาธิจดจ่อลงไปในบทหรือสูตรนั้นๆ มันถึงจะมีอานิสงส์เกิดขึ้นกับตัวเจ้าของ ( ตัวเราเอง )

การสวดมนต์ไหว้พระเป็นการทำสมาธิไปในตัว บางทีข้ออรรถธรรมต่างๆ มันก็จะผุดขึ้นมาในขณะที่สวดมนต์ก็มี.. เทวดาทั้งหลายนั้น เขาก็เป็นมนุษย์เหมือนกับพวกเรามาก่อน มีจิตใจฝักใฝ่ในบุญกุศล.. พอตายทำลายขันธ์จากโลกนี้ไปแล้ว ก็ได้ไปจุติในสวรรค์ชั้นต่างๆ สูงบ้างต่ำบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับบุญกุศลที่ตนเองได้สั่งสมมาในตอนเป็นมนุษย์.. ถึงแม้ว่าจะเป็นเทวดาอยู่ก็ตาม จิตของพวกเขายังฝังไว้ในบุญกุศล.. พอได้ยินหรือได้เห็นผู้ใดเขาทำคุณงามความดี พวกเขาก็จะพากันมาร่วมอนุโมทนาด้วย

หากว่าเรามีจิตที่ละเอียดเป็นสมาธิบ้าง เราก็จะเห็นเขามาร่วมอนุโมทนากับเราด้วย.. อย่างหยาบๆที่พวกเราจะรับทราบได้ ก็คือ ขนพองสยองเกล้าเป็นต้น "

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม










"..มนุษย์หรือสัตว์ก็มีจิต
อันเดียว ผู้ไม่เคยเป็นญาติ
พี่น้องกันไม่มีในโลก

บางทีเขาเคยเกิดเป็นมนุษย์
เคยบวช เคยเป็นเพื่อน
จิตอันเดียวกันนี่แหละ
แต่เสวยวิบากกรรมต่างกัน

ทำให้ชาตินี้เขาเกิดมา
เป็นช้าง แต่ก่อนเขาคงมี
อะไรเกี่ยวข้องกับท่านพ่อลี
คงเป็นศิษย์อาจารย์กันมา

อย่าว่าแต่ช้างเลย พวกเรานี้
เกิดตายเป็นสัตว์มาสักเท่าไหร่
มีใครรู้เห็นได้บ้าง

พระพุทธเจ้า
ท่านจึงสอนให้มีศีลธรรม
ให้รักษา "มนุษย์สมบัติ"
เอาไว้ ไม่อย่างนั้นจะตาย
ไปเกิดเหมือนสัตว์ทั้งหลาย

ให้สังเกตง่ายๆนะ
ถ้าจิตใจวุ่นวาย
จะตายไปเกิดเป็นสัตว์ทันที "

โอวาทธรรม
หลวงปู่ลี กุสลธโร









" คุณงามความดี
เป็นสมบัติภายใน
เป็นแก้วสารพัดนึก เวลา
จำเป็นเราต้องอาศัยนี้แหละ

เวลาตายแล้วมันสุดวิสัย
ที่จะอาศัยสมบัติเงินทอง
บ้านเรือน อาศัยพ่อแม่ปู่ย่า
ตายาย ลูกหลาน สามีภรรยา
มันหมดทางที่จะอาศัยแล้ว

คนที่ละโลกนี้ไปสู่ปรโลกนั้น
สมบัติเงินทองข้าวของ
มีมากน้อย ก็หมดทาง
ที่จะอาศัยได้อีก ไม่ว่าจะ
เป็นญาติเป็นมิตรเป็นลูกเต้า
หลานเหลน อาศัยไม่ได้ทั้งนั้น
เพราะไม่ใช่วิสัยที่จะพึ่งกันได้
ในเพศภพภูมินั้น

ต้องอาศัย
'อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ'
พึ่งตนเอง ด้วยวิบากผลบุญ
ของตัวถ่ายเดียวเท่านั้น

เมื่อเราได้สร้าง
คุณงามความดี
ไว้เพื่อตนเสียแต่บัดนี้
ก็ชื่อว่าตนจะพึ่งตนเองได้ "

โอวาทธรรม
หลวงตาพระมหาบัว
ญาณสัมปันโน










“พรปีใหม่ก็ดี หรือพรปีเก่าก็ดี
ทำอะไรอย่าได้ประมาท
ให้ทำด้วยความระมัดระวัง
เป็นคนประมาทไม่ดี
อย่าประมาทเป็นคนดี
คนประเสริฐเด้อลูกหลานเอ้ย”

หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ










“ปีใหม่ปีเก่า อย่าได้ลืมการกราบไหว้พระ
การแบ่งปันให้ทาน การบำรุงเลี้ยงบิดามารดา
ปู่ย่าตายาย คนแก่เก่าเจ้าตระกูล การระลึกหา
เยี่ยมเยียนครูบาอาจารย์

นับแต่ครูอาจารย์ที่สอนเรามาแต่อยู่โรงเรียน
จนถึงพระสงฆ์ที่เราเคารพกราบไหว้เข้าหา
ฟังโอวาทกราบไหว้ ตั้งใจรักษาจิตใจของตน

บุญอย่างใด ทำดีอย่างใด ให้ผลอย่างใด
บาปอย่างใด ทำชั่วอย่างใด ให้ผลอย่างใด
ตั้งใจของตน”

หลวงปู่จาม มหาปุญโญ










"ปีใหม่ ให้พากันตั้งเนื้อตั้งตัว
จากคนเก่า ให้เป็นคนใหม่ขึ้นมา
อะไรไม่ดี ให้แก้ไขดัดแปลงตัวเอง
ดัดแปลงที่อื่น ไม่ถูก

ปีใหม่ ขึ้นอยู่กับเราคนเดียว นี่แหละ
ที่จะแก้ไขดัดแปลงตัวเอง อะไรไม่ดี
ให้รีบแก้ไขดัดแปลงเสีย ตั้งแต่บัดนี้

ขึ้นปีใหม่แล้ว จากคนเก่า
คนเก่าเป็นคนไม่ดี อย่างไร
บกพร่องตรงไหน ให้แก้ไขดัดแปลง
ตรงที่บกพร่อง ให้ดีขึ้นโดยลำดับลำดา"

หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน








#ปีใหม่มันคืออะไร

มันก็มีมืดกับแจ้งเท่านั้น
ตามหลักธรรมชาติแล้ว
แล้วผู้ดีผู้ชั่วมันอยู่กับคนเรา
ปีใหม่ปีเก่า มันขึ้นอยู่กับตัวของเราเอง

หลวงตามหาบัว #ญาณสัมปันโน









ถ้าอยากเจอของใหม่ เวลาใหม่ ใจใหม่ ปีใหม่ ให้กลับมาเห็น ใจดวงนี้ที่รู้ตัว นั้นคือสติ ความรู้ตัว พอรู้ตัวเสร็จแล้ว เหตุและผล ทั้งคุณทั้งโทษ ที่เรียนมา สติปัญญากลมเกลียวกันเป็นปัจจุบันธรรม ปัจจุบันจิต จิตดวงนี้ นั่นคือ สติธรรม ปัญญาธรรม ณ วงของปัจจุบัน นี่คือของใหม่จริงๆ คือใจดวงใหม่…

ให้กลับมารู้ตัว ว่าใจของเรานี้มีค่า แต่จะมากขึ้นไปอีกก็จากสิ่งที่เราปฏิบัติ ที่องค์ศาสดาสอนสั่งให้ นั่นคือ ทาน ศีล ภาวนา เป็นคำที่ยิ่งใหญ่มาก เป็นเส้นทางถนนในชีวิตของทุกคนที่เดินควรที่จะมี ไม่ได้ลี้ลับ ไม่ได้ซับซ้อน ลงมือปฏิบัติ ผลก็เป็นสมบัติของใจของเรา…

แม้เราจะอยู่ร่วมกัน เรากลับไม่รู้จักคำว่ากายใจ แล้วเราไม่รู้จักว่าเรานี้คือใคร แล้วจะเอาปีใหม่มาจากไหน เอาวันใหม่มาจากไหน มีแต่ของเก่าๆ ฝากการบ้านเอาไปใคร่ครวญนะ วันนี้ไม่มีมงคลอะไรหรอก มีแต่ให้การบ้านเอาไปใคร่ครวญ เรียนกาย เรียนใจ ของตัวเอง สิ่งที่ควรเรียนที่สุด ก็คือสิ่งนี้…

ทุกคนตามหาความสุข ใครๆ ก็อยากมีความสุข ถึงได้เห็นสามอย่างนี้ ทาน ศีล ภาวนา ทานก็คือหลักของความเมตตา เมตตาปรานี โอบอ้อมอารี มีความเกื้อกูล ปรารถนา หวังดี ไม่ถือสากับใคร นั่นหลักของใจที่เป็นธรรม ขอบเขตของศีลแต่ละข้อที่ท่องบ่น ไม่ว่ากี่ข้อๆ แต่ใจของเราปกติ ด้วยสิ่งที่นึกคิดเวลาออกไปสัมผัส รับรู้ และปรุงแต่ง วิตกวิจารณ์ขึ้นมา ก็มีแต่เหตุและผล ด้วยหลักของความเมตตา ไม่รู้ผิดข้อไหน ศีลทุกข้อ ไม่มีบกพร่องสักนิด นั่นล่ะ ข้อเดียวเท่านั้นเอาอยู่ คือความเมตตา…

หลวงพ่อสงบ กุสลจิตโต










"...ปีใหม่กำลังมาถึงแล้ว พึงทำชีวิตให้งดงามยิ่งขึ้น อะไรไม่ดีงามที่เคยมีอยู่ในจิตใจในชีวิตปล่อยให้พ้นไปเสียพร้อมกับปีเก่าเถิด ความดีงามใหม่ๆ มีเต็มไปทั้งโลก โอบอุ้มเข้าไว้ให้เต็มสติปัญญาความสามารถเถิด ฝึกตนเองให้เต็มกำลังที่จะได้มีที่พึ่งที่สำคัญยิ่ง
.
มีพระพุทโธเป็นที่พึ่งนั้นหนึ่งล่ะ ขณะเดียวกันต้องไม่ลืม ว่าพระพุทโธสูงส่งบริสุทธิ์สะอาดหาที่เปรียบมิได้ ต้องเตรียมใจของเราให้เป็นที่สมควรเป็นที่อัญเชิญพระพุทโธเข้าประดิษฐาน คิดดีพูดดีทำดีไว้ คือ การจัดเตรียมหัวใจให้เป็นแท่นบูชาพระพุทโธอย่างสูงส่งเหมาะสม
.
พระพุทธานุภาพ พระธรรมานุภาพ พระสังฆานุภาพ พรั่งพร้อมอยู่ในพระพุทโธแล้ว จะปกปักรักษาชีวิตให้ร่มเย็นเป็นสุข ให้สว่างแม้ในท่ามกลางความมืดของโลก ที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก "
.
--- พระนิพนธ์ 'แสงส่องใจ ส.ค.ส.๒๕๔๙'
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก










"...ปีใหม่หรือปีไหนก็สมมติ
ไม่ส่งท้ายเขาก็ไป ไม่ต้อนรับเขาก็มา
เพราะทุกวันมีเพียงกลางวันกับกลางคืนเท่านั้น
ปีใหม่เมืองไทยหยุดหลายวัน
หยุดงานอย่าหยุดสร้างความดี
ทำงานที่บ้าน ทำบ้านให้สะอาดสะอ้าน
สิ่งที่ให้หยุดคือคอรัปชั่น
หยุดความชั่ว
หยุดการกระทำที่ทำไปแล้วเกิดความไม่สบายใจ
อันนี้หยุดให้ได้ตลอดกาล..."

โอวาทธรรม
หลวงปู่แบน ธนากโร










ปีใหม่ เปลี่ยนแปลงเสียใหม่

"..ปีใหม่เปลี่ยนแปลงเสียใหม่บ้าง อะไรที่ไม่ดีไม่งามให้เปลี่ยนแปลงเป็นคนใหม่ขึ้นมาจากคนชั่วเป็นคนดี เป็นคนมีศีลมีธรรม.. จะสมชื่อสมนามว่าเรารับปีใหม่..

อย่ามีแต่ความสนุกสนานรื่นเริงไปกับวันคืนปีเดือนซึ่งเป็นมืดกับแจ้งนี้เพียงเท่านั้น ไม่เห็นเกิดประโยชน์อะไร ผู้ที่จะรับเคราะห์รับกรรมรับดีรับชั่วเป็นเรา ไม่ใช่มืดกับแจ้งปีใหม่ปีเก่าเป็นผู้รับเคราะห์รับกรรมนะ เราเป็นผู้รับเคราะห์รับกรรมเอง ดีชั่วเป็นของเราตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ให้เราพิจารณาแก้ไขดัดแปลงตนเองจะเป็นคนดีตลอดไป พากันตั้งอกตั้งใจ.."

โอวาทธรรม หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน










... ตอนนี้ก็เริ่มหลงกันแล้ว
เดี๋ยวนี้จะเอาแต่บุญ บัง สัง สวดกัน
ไม่ค่อยจะเอาปฏิบัติกัน
อะไรก็จะสวดกันอย่างเดียว
.
...นี้สิ้นปี..ก็จะสวดกันอีกแล้วนี่
ทำไมไม่มานั่งภาวนากันนะ
ไม่มาปฏิบัติธรรมกัน
อะไร..สวดกันทำไม
.
... มาถือศีลแปดมานั่งภาวนากันสิ
ไม่เอา..มันลำบากไม่อยากถือศีลแปด
ขอเวลาห้าทุ่มกว่า..
มานั่งสวดสัก 15 นาทีก็พอแล้ว
ไปสวรรค์ได้ละ..
แหม..นี่มันเลอะเทอะกันแบบนี้ ทุกวันนี้
.
...แล้วต่อไปมันจะเลอะเทอะยิ่งกว่านี้
คือคนที่รู้..จะรู้น้อยลงไปเรื่อยๆ
คนที่หลง..จะมีมากขึ้นมากขึ้น
...................................................
.คัดลอกการสนทนาธรรม
ธรรมะบนเขา 30/12/2559
พระจารสุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 138 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร