วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 05:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2020, 04:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


#อย่ารอให้ทุกข์มาถึงตัว
บรรดาสัตว์ทั้งหลายนั้น เมื่อไม่มีทุกข์มาถึงตัวมักไม่เห็นคุณพระศาสนา มัวเมาประมาท ปล่อยกายปล่อยใจให้ประพฤติทุจริตผิดศีลธรรมอยู่เป็นประจำนิสัย เห็นผิดเป็นถูก เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ต่อเมื่อได้รับทุกข์เข้า ที่พึ่งอื่นไม่มีนั่นแหละจึงได้คิดถึงพระ คิดถึงศาสนา แต่ก็เป็นเวลาที่สายไปแล้ว

ความดีนั้น เราต้องทำอยู่เสมอให้เป็นที่อยู่ของจิต เป็นอารมณ์ของจิต ให้เป็นมรรค คือทางดำเนินไปของจิต มันจึงจะเห็นผลของความดี ไม่ใช่เวลาใกล้จะตายจึงนิมนต์พระไปให้ศีล ให้ไปบอกพุทโธ หรือตายไปแล้วให้ไปรับศีล เช่นนี้เป็นการกระทำที่ผิดทั้งหมด เหตุว่าคนเจ็บจิตมัวติดอยู่กับเวทนา ไฉนจะมาสนใจไยดีกับศีลได้ เว้นไว้แต่ผู้ที่รักษาศีลมาเป็นปกติเท่านั้นจึงจะระลึกได้ เพราะตนเองเคยทำมาจนเป็นอารมณ์ของจิตแล้ว แต่ส่วนมากใกล้ตายแล้วจึงเตือนให้รักษาศีล ส่วนคนตายแล้วไม่ต้องพูดถึง เพราะคนตายนั้นร่างกายจิตใจจะไม่รับรู้ใด ๆ แล้ว แต่ก็ดีไปอย่าง เหมือนพระเทวทัต ทำกรรมจนถูกแผ่นดินสูบ เมื่อลงไปถึงคางจึงระลึกถึงความดีของพระพุทธเจ้า ขอถวายคางเป็นพุทธบูชา พระเทวทัตยังมีสติระลึกถึงได้ จึงมีผลดีในภายภาคหน้า

แม้เปรตตนนั้นก็เหมือนกัน (หลวงปู่หมายถึงเปรตในถ้ำเชียงดาว) ตายไปแล้วจึงมาขอส่วนบุญ เมื่อยังมีชีวิตอยู่ทำอันตรายแม้พระพุทธรูป แผ่เมตตาให้ไปได้รับหรือไม่ก็ไม่รู้ สู้เราทำเองไม่ได้ เราทำของเรา ได้มากน้อยเท่าไรก็มีความปีติอิ่มเอิบใจเท่านั้น

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่









ถ้าวันนี้ยังจมอยู่กับอดีตแย่ ๆ
เราจะท้อแท้และก้าวไปต่อยาก

ตัดอดีตทิ้งไป
อย่ากังวลกับอนาคต
มีสติทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

เดี๋ยวปัจจุบันจะกลายเป็นอดีตใหม่ที่ดี
และเป็นเหตุทำให้เรามีอนาคตที่ดีด้วย

โอวาทธรรม พระอาจารย์คม อภิวโร











.ถ้าบำเพ็ญแล้ว
ไปเห็นอะไรต่างๆที่ปรากฏขึ้นมา

"ให้ใช้ปัญญาพิจารณา
ให้ลงไปในไตรลักษณ์ให้หมด"

ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม
มันไม่เที่ยงทั้งนั้น
“ปรากฏขึ้นแล้วก็..ดับไป”.
...................................
กำลังใจ 42 กัณฑ์ 383
ธรรมะบนเขา 15/6/2551
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี








การกราบนี่สำคัญนะ

แต่ก่อนได้ยินครูบาอาจารย์ท่านพูด ดูพระไม่ต้องดูยากดอก ดูกราบเท่านั้น ไม่ต้องไปนั่งสมาธิดูใจ ไม่ต้องไปเพ่งญาณเล็งญาณอะไรดอก ดูกราบบอกหมด

#คนไม่มีหัวใจมันกราบไม่เป็น

ใจเท่านั้นทำเป็น ใจเท่านั้นเป็นผู้ทำ ใจเป็นอย่างไรการกระทำเป็นอย่างนั้น มีนะกราบสักแต่ว่าทำ บางทีก็สลดใจ อยากให้สนิทใจ ไม่ใช่ทำสักแต่ว่าทำ

ไม่มีใครบังคับบัญชาเรา เราทำด้วยความสมัครใจ ทำเป็นการฝึกหัดและดัดเรา การกราบไม่ใช่เป็นพิธี การกราบเป็นการฆ่ากิเลส

พระภาวนาวิสุทธิญาณเถร ( หลวงปู่แบน ธนากโร ) วัดดอยธรรมเจดีย์ จ.สกลนคร













หลวงปู่ขาวท่านว่า. นั่งภาวนาไปเถิด. เดินจงกรมไปเถิด. เราเจตนาดี. เป็นบุญแล้ว

หลวงปู่คำพอง ปัญญาวุโธ







#ท่านพ่อลีสอนว่า .....

อย่าเพิ่งยินดีในสิ่งที่ปรากฏ อย่าพึ่งยินร้ายหรือปฏิเสธในสิ่งที่ปรากฏ ควรตั้งจิตเป็นกลางคอยทบทวนดูให้รอบคอบละเอียดลออเสียก่อนว่า เป็นของควรเชื่อถือได้หรือไม่

มิฉะนั้น จะเป็นเหตุให้สำคัญผิดไปก็มี ดี ชั่ว ถูก ผิด สูง ต่ำ ทั้งหมด มันสำคัญอยู่ที่ดวงจิตของเรา ฉลาดหรือโง่

รู้จักพลิกแพลงดัดแปลงแก้ไข เมื่อดวงจิตของเราเป็นผู้โง่อยู่แล้ว แม้ของสูงอาจจะกลายเป็นของต่ำ ของดีอาจจะกลายเป็นของชั่ว

โอวาท ท่านพ่อลี









" ผู้ที่หวังจะภาวนาให้มัน
ได้ผลจริงๆ อย่าไปทำความ
ระแวงสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น

จะภาวนา พุทโธ ก็ตั้งใจให้
แน่วแน่ ภาวนา พุทโธ พุทโธ
ยืน เดิน นั่ง นอน รับประทาน
ดื่ม ทำ พูด คิด พุทโธ
อยู่ตลอดเวลาได้ ไม่ต้องเลือก
ขออภัย แม้แต่เข้าห้องน้ำ
ก็ยังภาวนา พุทโธ ได้
ไม่เป็นบาปเป็นกรรมอะไรทั้งสิ้น

ภาวนาจนกระทั่งจิตมันสงบ
สว่างไสว ทำด้วยความจริงใจ
แล้วความสงบสมาธิจะเกิดขึ้น

สมถะเป็นสิ่งจำเป็นที่เรา
จะต้องเอาให้ได้ เพราะมันเป็น
พื้นฐานให้เกิดปัญญา
อย่าไปกลัวว่าจิตมันจะติด
ความสงบ ติดสมถะ ขอให้จิต
มันมีสิ่งที่ติดเอาไว้ก่อน

โดยหลักความเป็นจริงแล้ว
สมาธิคือสมถะ ไม่มีสมาธิ
ก็ไม่มีฌาน ไม่มีฌาน ก็ไม่มี
ญาณ ไม่มีญาณ ก็ไม่มีปัญญา

ไม่มีปัญญา ก็ไม่มีวิปัสสนา
ไม่มีวิปัสสนา ก็ไม่มีวิชชา
ความรู้แจ้งเห็นจริง "

โอวาทธรรม
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย









#อย่ารอให้ทุกข์มาถึงตัว
บรรดาสัตว์ทั้งหลายนั้น เมื่อไม่มีทุกข์มาถึงตัวมักไม่เห็นคุณพระศาสนา มัวเมาประมาท ปล่อยกายปล่อยใจให้ประพฤติทุจริตผิดศีลธรรมอยู่เป็นประจำนิสัย เห็นผิดเป็นถูก เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ต่อเมื่อได้รับทุกข์เข้า ที่พึ่งอื่นไม่มีนั่นแหละจึงได้คิดถึงพระ คิดถึงศาสนา แต่ก็เป็นเวลาที่สายไปแล้ว

ความดีนั้น เราต้องทำอยู่เสมอให้เป็นที่อยู่ของจิต เป็นอารมณ์ของจิต ให้เป็นมรรค คือทางดำเนินไปของจิต มันจึงจะเห็นผลของความดี ไม่ใช่เวลาใกล้จะตายจึงนิมนต์พระไปให้ศีล ให้ไปบอกพุทโธ หรือตายไปแล้วให้ไปรับศีล เช่นนี้เป็นการกระทำที่ผิดทั้งหมด เหตุว่าคนเจ็บจิตมัวติดอยู่กับเวทนา ไฉนจะมาสนใจไยดีกับศีลได้ เว้นไว้แต่ผู้ที่รักษาศีลมาเป็นปกติเท่านั้นจึงจะระลึกได้ เพราะตนเองเคยทำมาจนเป็นอารมณ์ของจิตแล้ว แต่ส่วนมากใกล้ตายแล้วจึงเตือนให้รักษาศีล ส่วนคนตายแล้วไม่ต้องพูดถึง เพราะคนตายนั้นร่างกายจิตใจจะไม่รับรู้ใด ๆ แล้ว แต่ก็ดีไปอย่าง เหมือนพระเทวทัต ทำกรรมจนถูกแผ่นดินสูบ เมื่อลงไปถึงคางจึงระลึกถึงความดีของพระพุทธเจ้า ขอถวายคางเป็นพุทธบูชา พระเทวทัตยังมีสติระลึกถึงได้ จึงมีผลดีในภายภาคหน้า

แม้เปรตตนนั้นก็เหมือนกัน (หลวงปู่หมายถึงเปรตในถ้ำเชียงดาว) ตายไปแล้วจึงมาขอส่วนบุญ เมื่อยังมีชีวิตอยู่ทำอันตรายแม้พระพุทธรูป แผ่เมตตาให้ไปได้รับหรือไม่ก็ไม่รู้ สู้เราทำเองไม่ได้ เราทำของเรา ได้มากน้อยเท่าไรก็มีความปีติอิ่มเอิบใจเท่านั้น

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่








“ให้รักษาศีลนะ ทางต่ำมีแต่คนแย่งกันไป
ส่วนทางสูงไม่มีใครอยากจะไปเลย
ผิดศีลข้อหนึ่ง ก็ไปนรก
ผิดศีลข้อสอง ก็ไปเป็นเปรต
ผิดศีลข้อสาม ก็ไปเป็นสัตว์เดรัจฉาน
ส่วนข้อสี่กับข้อห้า นี้เป็นวิกลจริตเป็นไปหมดเลย
สิ่งไหนที่จะไปทางต่ำ พระพุทธเจ้าท่านห้ามไว้”

หลวงปู่อว้าน เขมโก










" ผู้ที่หวังจะภาวนาให้มัน
ได้ผลจริงๆ อย่าไปทำความ
ระแวงสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น

จะภาวนา พุทโธ ก็ตั้งใจให้
แน่วแน่ ภาวนา พุทโธ พุทโธ
ยืน เดิน นั่ง นอน รับประทาน
ดื่ม ทำ พูด คิด พุทโธ
อยู่ตลอดเวลาได้ ไม่ต้องเลือก
ขออภัย แม้แต่เข้าห้องน้ำ
ก็ยังภาวนา พุทโธ ได้
ไม่เป็นบาปเป็นกรรมอะไรทั้งสิ้น

ภาวนาจนกระทั่งจิตมันสงบ
สว่างไสว ทำด้วยความจริงใจ
แล้วความสงบสมาธิจะเกิดขึ้น

สมถะเป็นสิ่งจำเป็นที่เรา
จะต้องเอาให้ได้ เพราะมันเป็น
พื้นฐานให้เกิดปัญญา
อย่าไปกลัวว่าจิตมันจะติด
ความสงบ ติดสมถะ ขอให้จิต
มันมีสิ่งที่ติดเอาไว้ก่อน

โดยหลักความเป็นจริงแล้ว
สมาธิคือสมถะ ไม่มีสมาธิ
ก็ไม่มีฌาน ไม่มีฌาน ก็ไม่มี
ญาณ ไม่มีญาณ ก็ไม่มีปัญญา

ไม่มีปัญญา ก็ไม่มีวิปัสสนา
ไม่มีวิปัสสนา ก็ไม่มีวิชชา
ความรู้แจ้งเห็นจริง "

โอวาทธรรม
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย








#วัยของเรานี้ผ่านไปรวดเร็วเหมือนถูกบังคับ

รูปที่มีอยู่ก็เปลี่ยนไป เหมือนรูปอื่นๆ ที่เปลี่ยนไปแล้ว และดับไปแล้ว

เมื่อย้อนมาพิจารณา ระลึกถึงตัวของเรา เราก็จะเหมือนกับตัวตนของคนอื่น ที่ล่วงผ่านไปแล้ว ตามคติของโลก

หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท













#รูปก็แยกแยะดูด้วยปัญญาให้เห็นชัดเจน...

คำว่ารูปหญิง-ชายนั้นให้ชื่อตามสมมุติ ความจริงแล้ว ไม่ใช่หญิง-ชาย เป็นรูปธรรมดา

เหมือนเรา ๆ ท่าน ๆ มีหนังหุ้มห่อทั่วสรรพางค์ร่างกาย เข้าไปภายใน ก็มีเนื้อมีหนังมีเอ็นมีกระดูก เต็มไปด้วยของปฏิกูลโสโครกด้วยกัน

#ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดอาการใดที่ผิดแปลกจากรูปของเราไปเลย

เป็นแต่เพียงว่า.. ความสำคัญของใจนั้น
มันว่าเป็นหญิง-ชาย

คำว่าเป็นหญิง-ชายนั้น มันสลักลงไปภายในจิตใจอย่างลึกซึ้ง ด้วยความสำคัญของใจเอง ทั้งที่ไม่เป็นความจริง เป็นความสำคัญต่างหาก

องค์ท่านหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน











#เมื่อชีวิตเผชิญวิกฤต...
#บุญเท่านั้นที่ทำให้รอด

การขอบุญของตน
มาช่วยยามคับขันเป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์
ที่ครูบาอาจารย์หลายท่าน
ทราบและกล่าวตรงกัน

มีข้อแม้ที่สำคัญ คือ...
ต้องเป็นผู้ที่สร้างบุญบารมีต่อเนื่อง
จนมากพอที่จะมาช่วยได้....

หนึ่งในตัวช่วยยามที่ชีวิตวิกฤต
คือนึกถึงบุญบารมีของตนที่เคยทำ
ตั้งจิตให้นิ่ง อธิษฐานขอให้บุญนั้น
มาช่วยให้เรารอดพ้นวิกฤต
หรือเรื่องที่ขัดข้องไปให้ได้

จะเสริมให้อีกนิด...

ขอบุญบารมีเทวดาทั่วสากลโลก
โดยเฉพาะที่เคยเป็นพ่อแม่เรามาในทุกภพชาติ
ขอเมตตาท่านช่วยสงเคราะห์
ให้พ้นวิกฤตไปได้

ถือว่าเป็นสองตัวช่วย ทำพร้อมกัน
ตั้งจิตให้นิ่งก่อน หลังสวดมนต์ยิ่งดี
เรื่องนี้บอกกันมานาน และพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง!เท่านั้น

เมื่อชีวิตวิกฤต ต้องเอาบุญสู้ จึงจะรอด!

พระธัมมธโร (พระอาจารย์แจ๋ว)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 132 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร