วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 07:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2020, 13:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Image-817.jpg
Image-817.jpg [ 34.52 KiB | เปิดดู 3463 ครั้ง ]
กรรมใดที่ยังกามภพให้บังเกิดเพราะมีกามุปาทานเป็นปัจจัย
อันสัตว์กระทำไว้ ข้อนั้น ชื่อว่า กรรมภพ
ขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแก่กรรมนั้น ชื่อว่า อุปัตติภพ
ในรูปภพ อรูปภพ ก็มีนัยนี้

เพราะกามุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีกามภพ ๒
และรวมถึงสัญญาภพ อสัญญาภพ เอกโวการภพ
และปัญจโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในภพนั้นด้วย
มีอรูปภพ ๒ และรวมสัญญาภพ เนวสัญญานาสัญญาภพ
และจตุโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในอรูปภพนั้นด้วย

ดังนั้นจึงเป็นภพ ๖ กับภพที่อยู่ภายใน ฉันใด
แม้เพราะอุปาทานที่เหลือเป็นปัจจัย ก็มีภพ ๖ เหมือนกันฉันนั้น
ดัวยประการดังกล่าวมาฉะนี้ ว่าโดยการแบ่งออก เพราะอุปาทาน
เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2020, 02:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
กรรมใดที่ยังกามภพให้บังเกิดเพราะมีกามุปาทานเป็นปัจจัย
อันสัตว์กระทำไว้ ข้อนั้น ชื่อว่า กรรมภพ
ขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแก่กรรมนั้น ชื่อว่า อุปัตติภพ
ในรูปภพ อรูปภพ ก็มีนัยนี้

เพราะกามุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีกามภพ ๒
และรวมถึงสัญญาภพ อสัญญาภพ เอกโวการภพ
และปัญจโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในภพนั้นด้วย
มีอรูปภพ ๒ และรวมสัญญาภพ เนวสัญญานาสัญญาภพ
และจตุโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในอรูปภพนั้นด้วย

ดังนั้นจึงเป็นภพ ๖ กับภพที่อยู่ภายใน ฉันใด
แม้เพราะอุปาทานที่เหลือเป็นปัจจัย ก็มีภพ ๖ เหมือนกันฉันนั้น
ดัวยประการดังกล่าวมาฉะนี้ ว่าโดยการแบ่งออก เพราะอุปาทาน
เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน



เพราะอุปาทาน
เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน

คุณตาหมานคะ

ปัจจัย 24 ไม่ใช่เหรอ
จึงมีภพ 31ภูมิ

tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2020, 03:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
กรรมใดที่ยังกามภพให้บังเกิดเพราะมีกามุปาทานเป็นปัจจัย
อันสัตว์กระทำไว้ ข้อนั้น ชื่อว่า กรรมภพ
ขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแก่กรรมนั้น ชื่อว่า อุปัตติภพ
ในรูปภพ อรูปภพ ก็มีนัยนี้

เพราะกามุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีกามภพ ๒
และรวมถึงสัญญาภพ อสัญญาภพ เอกโวการภพ
และปัญจโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในภพนั้นด้วย
มีอรูปภพ ๒ และรวมสัญญาภพ เนวสัญญานาสัญญาภพ
และจตุโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในอรูปภพนั้นด้วย

ดังนั้นจึงเป็นภพ ๖ กับภพที่อยู่ภายใน ฉันใด
แม้เพราะอุปาทานที่เหลือเป็นปัจจัย ก็มีภพ ๖ เหมือนกันฉันนั้น
ดัวยประการดังกล่าวมาฉะนี้ ว่าโดยการแบ่งออก เพราะอุปาทาน
เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน



เพราะอุปาทาน
เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน

คุณตาหมานคะ

ปัจจัย 24 ไม่ใช่เหรอ
จึงมีภพ 31ภูมิ

tongue

:b32:
คริคริคริ
ขำคนอวดว่าตัวดี
เหตุให้เกิดมีแค่6อย่างนี้จ้ะ
เหตุของอกุศล3อย่างคือ โลภะ โทสะ โมหะ
เหตุของ กุศล3อย่างคือ อโลภะ อโทสะ อโมหะ
ถ้ายังไม่ฟังคำสอนไม่ทำเหตุให้เกิดปัญญาก็มีอวิชชาเป็นอาจารย์555
:b12:
:b32: :b32:
ฟังบ้างนะ...จะได้รู้ว่ามีอวิชชาตัวเองเป็นอาจารย์
https://youtu.be/Ip7yNL6A3Qc
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2020, 06:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:

เพราะอุปาทาน
เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน

คุณตาหมานคะ

ปัจจัย 24 ไม่ใช่เหรอ
จึงมีภพ 31ภูมิ

tongue


ดีๆๆ ครับ คัดมาจาก หนังสือ วิสุทธิมัคค์ และ ปรมัตถมัญชุสา
ภาค ๓ พระพุทธโฆสาจารย์ รจนา และพระธัมมปาลมหาเถระ รจนา
อาจารย์สิริ เพ็ชรไชย ปป.ธ. ๙ แปล
หน้า ๕๘๑

อ่านคัมภีร์เหล่านี้ มีความลึกซึ้งมากต้องค่อย ๆ เข้าใจ นัยยะ
ที่ซ่อนอยู่ บางที่กำลังปัญญาอย่างเราอาจยังหยั่งความลงลึกซึ้งไม่ได้
กะว่าจะค่อยๆ เรียนรู้ ถามผู้รู้อีกที ขอบคุณ โลกสวยครับ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2020, 00:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
โลกสวย เขียน:

เพราะอุปาทาน
เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน

คุณตาหมานคะ

ปัจจัย 24 ไม่ใช่เหรอ
จึงมีภพ 31ภูมิ

tongue


ดีๆๆ ครับ คัดมาจาก หนังสือ วิสุทธิมัคค์ และ ปรมัตถมัญชุสา
ภาค ๓ พระพุทธโฆสาจารย์ รจนา และพระธัมมปาลมหาเถระ รจนา
อาจารย์สิริ เพ็ชรไชย ปป.ธ. ๙ แปล
หน้า ๕๘๑

อ่านคัมภีร์เหล่านี้ มีความลึกซึ้งมากต้องค่อย ๆ เข้าใจ นัยยะ
ที่ซ่อนอยู่ บางที่กำลังปัญญาอย่างเราอาจยังหยั่งความลงลึกซึ้งไม่ได้
กะว่าจะค่อยๆ เรียนรู้ ถามผู้รู้อีกที ขอบคุณ โลกสวยครับ


ไม่มีนัยยะอะไรลึกซึ้งหรอกค่ะ
ธรรมะพื้นฐานเบื้องต้น ต้องมั่นคงชัดเจน

พระอภิธรรม พระไตรปิฎก ปฎิจจสมุปปาท ระบุชัดแจ้ง

ภพมี 3 คือ กามภพ รูปภพ อรูปภพ
แบ่งออกเป็น 31 ภูมิ
ปัจจัย มี 24
ภพของอุปาทาน มี 2 คือ กัมมภพ และอุปปัตติภพ

ภพที่เป็นปัจจัยแก่ชาตินั้น
คือ กัมมภพแต่อย่างเดียวเท่านั้น

และกัมมภพนี้เอง เป็นผู้ปรุงแต่งให้ เกิด อุปปัตติภพ คือชาติขึ้นมา

tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2020, 09:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
กรรมใดที่ยังกามภพให้บังเกิดเพราะมีกามุปาทานเป็นปัจจัย
อันสัตว์กระทำไว้ ข้อนั้น ชื่อว่า กรรมภพ
ขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแก่กรรมนั้น ชื่อว่า อุปัตติภพ
ในรูปภพ อรูปภพ ก็มีนัยนี้

เพราะกามุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีกามภพ ๒
และรวมถึงสัญญาภพ อสัญญาภพ เอกโวการภพ
และปัญจโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในภพนั้นด้วย
มีอรูปภพ ๒ และรวมสัญญาภพ เนวสัญญานาสัญญาภพ
และจตุโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในอรูปภพนั้นด้วย

ดังนั้นจึงเป็นภพ ๖ กับภพที่อยู่ภายใน ฉันใด
แม้เพราะอุปาทานที่เหลือเป็นปัจจัย ก็มีภพ ๖ เหมือนกันฉันนั้น
ดัวยประการดังกล่าวมาฉะนี้ ว่าโดยการแบ่งออก เพราะอุปาทาน
เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน



เพราะอุปาทาน
เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน

คุณตาหมานคะ

ปัจจัย 24 ไม่ใช่เหรอ
จึงมีภพ 31ภูมิ

tongue

:b32:
คริคริคริ
ขำคนอวดว่าตัวดี
เหตุให้เกิดมีแค่6อย่างนี้จ้ะ
เหตุของอกุศล3อย่างคือ โลภะ โทสะ โมหะ
เหตุของ กุศล3อย่างคือ อโลภะ อโทสะ อโมหะ
ถ้ายังไม่ฟังคำสอนไม่ทำเหตุให้เกิดปัญญาก็มีอวิชชาเป็นอาจารย์555
:b12:
:b32: :b32:
ฟังบ้างนะ...จะได้รู้ว่ามีอวิชชาตัวเองเป็นอาจารย์
https://youtu.be/Ip7yNL6A3Qc
:b12:
:b4: :b4:

คุณยายโรสอวด ความไม่รู้

มั่วอีกแระค่ะ คุณยายโรส แสดงอวิชชาออกมาเต็มๆ

เหตุมีเหตุเดียว คืออวิชชา คือความไม่รู้
เป็นปัจจัย ให้เกิดสังขาร

ไม่ใช่เหตุ6 อย่าง เจตสิกสังขาร 6 ตัว กุศล อกุศล อย่างที่คุณยายมั่วออกมา
นั่นเค้าเรียก สังขาร

นั่นแหละ สุดยอดการหลอกลวงของอวิชชา
ที่คุณยายโรสหนังเหนียว ยังโดนต้มจนเปื่อย

คุณยายโรส มั่วแหลก เพราะไม่เรียนพระอภิธรรม

ก๊ากๆๆๆๆ


tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2020, 10:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
กรรมใดที่ยังกามภพให้บังเกิดเพราะมีกามุปาทานเป็นปัจจัย
อันสัตว์กระทำไว้ ข้อนั้น ชื่อว่า กรรมภพ
ขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแก่กรรมนั้น ชื่อว่า อุปัตติภพ
ในรูปภพ อรูปภพ ก็มีนัยนี้

เพราะกามุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีกามภพ ๒
และรวมถึงสัญญาภพ อสัญญาภพ เอกโวการภพ
และปัญจโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในภพนั้นด้วย
มีอรูปภพ ๒ และรวมสัญญาภพ เนวสัญญานาสัญญาภพ
และจตุโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในอรูปภพนั้นด้วย

ดังนั้นจึงเป็นภพ ๖ กับภพที่อยู่ภายใน ฉันใด
แม้เพราะอุปาทานที่เหลือเป็นปัจจัย ก็มีภพ ๖ เหมือนกันฉันนั้น
ดัวยประการดังกล่าวมาฉะนี้ ว่าโดยการแบ่งออก เพราะอุปาทาน
เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน

คริคริ
เม จะเฉลยให้นะคะ

คุณตาหมานคะ

ตัดมาย่อๆ ความหมายจึงผิดพลาด
ต้องแจ้งให้ชัดเจน ว่า ตัดแยกมากล่าวแค่ สองภพ
ไม่ได้รวมสามภพ

"ส่วนโดยการรวมกัน มีอธิบายว่า รวมกรรมภพและอุปปัตติภพ พร้อมกับภพที่ผนวกเข้าด้วยกันเกิดเพราะกามุปาทานเป็นปัจจัยเป็นกามภพหนึ่ง รูปภพและอรูปภพก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้นจึงเป็น ๓ ภพ แม้ภพที่มีอุปาทาน ๓ ที่เหลือก็เหมือนกัน จึงเป็น ๑๒ พร้อมกับภพที่ผนวกเข้าด้วยกันโดยสงเคราะห์ (คือรวมกัน) เพราะอุปาทาน (๔) เป็นปัจจัยอย่างนี้ ด้วยประการฉะนี้."

tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2020, 17:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
กรรมใดที่ยังกามภพให้บังเกิดเพราะมีกามุปาทานเป็นปัจจัย
อันสัตว์กระทำไว้ ข้อนั้น ชื่อว่า กรรมภพ
ขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแก่กรรมนั้น ชื่อว่า อุปัตติภพ
ในรูปภพ อรูปภพ ก็มีนัยนี้

เพราะกามุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีกามภพ ๒
และรวมถึงสัญญาภพ อสัญญาภพ เอกโวการภพ
และปัญจโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในภพนั้นด้วย
มีอรูปภพ ๒ และรวมสัญญาภพ เนวสัญญานาสัญญาภพ
และจตุโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในอรูปภพนั้นด้วย

ดังนั้นจึงเป็นภพ ๖ กับภพที่อยู่ภายใน ฉันใด
แม้เพราะอุปาทานที่เหลือเป็นปัจจัย ก็มีภพ ๖ เหมือนกันฉันนั้น
ดัวยประการดังกล่าวมาฉะนี้ ว่าโดยการแบ่งออก เพราะอุปาทาน
เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน



เพราะอุปาทาน
เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน

คุณตาหมานคะ

ปัจจัย 24 ไม่ใช่เหรอ
จึงมีภพ 31ภูมิ

tongue

:b32:
คริคริคริ
ขำคนอวดว่าตัวดี
เหตุให้เกิดมีแค่6อย่างนี้จ้ะ
เหตุของอกุศล3อย่างคือ โลภะ โทสะ โมหะ
เหตุของ กุศล3อย่างคือ อโลภะ อโทสะ อโมหะ
ถ้ายังไม่ฟังคำสอนไม่ทำเหตุให้เกิดปัญญาก็มีอวิชชาเป็นอาจารย์555
:b12:
:b32: :b32:
ฟังบ้างนะ...จะได้รู้ว่ามีอวิชชาตัวเองเป็นอาจารย์
https://youtu.be/Ip7yNL6A3Qc
:b12:
:b4: :b4:

คุณยายโรสอวด ความไม่รู้

มั่วอีกแระค่ะ คุณยายโรส แสดงอวิชชาออกมาเต็มๆ

เหตุมีเหตุเดียว คืออวิชชา คือความไม่รู้
เป็นปัจจัย ให้เกิดสังขาร

ไม่ใช่เหตุ6 อย่าง เจตสิกสังขาร 6 ตัว กุศล อกุศล อย่างที่คุณยายมั่วออกมา
นั่นเค้าเรียก สังขาร

นั่นแหละ สุดยอดการหลอกลวงของอวิชชา
ที่คุณยายโรสหนังเหนียว ยังโดนต้มจนเปื่อย

คุณยายโรส มั่วแหลก เพราะไม่เรียนพระอภิธรรม

ก๊ากๆๆๆๆ


tongue

:b32:
คิดให้ตรงตอนนี้เลย
แล้วมันรู้สึกตัวไหมล่ะ
เวลาเรียกตัวเองว่าเม
เธอรู้สึกว่ามีเมตรงไหน
ตรงนั้นแหละกำลังมีอวิชชา
คิดคำว่าเม...ไม่ได้คิดถูกตามคำสอนอยู่นะคะ5555
ไม่รู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังมีกิเลสอวิชชา55555555555
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2020, 18:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
กรรมใดที่ยังกามภพให้บังเกิดเพราะมีกามุปาทานเป็นปัจจัย
อันสัตว์กระทำไว้ ข้อนั้น ชื่อว่า กรรมภพ
ขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแก่กรรมนั้น ชื่อว่า อุปัตติภพ
ในรูปภพ อรูปภพ ก็มีนัยนี้

เพราะกามุปาทานเป็นปัจจัยจึงมีกามภพ ๒
และรวมถึงสัญญาภพ อสัญญาภพ เอกโวการภพ
และปัญจโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในภพนั้นด้วย
มีอรูปภพ ๒ และรวมสัญญาภพ เนวสัญญานาสัญญาภพ
และจตุโวการภพ ซึ่งอยู่ภายในอรูปภพนั้นด้วย

ดังนั้นจึงเป็นภพ ๖ กับภพที่อยู่ภายใน ฉันใด
แม้เพราะอุปาทานที่เหลือเป็นปัจจัย ก็มีภพ ๖ เหมือนกันฉันนั้น
ดัวยประการดังกล่าวมาฉะนี้ ว่าโดยการแบ่งออก เพราะอุปาทาน
เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน



เพราะอุปาทาน
เป็นปัจจัยจึงมีภพ ๒๔ กับภพที่อยู่ภายใน

คุณตาหมานคะ

ปัจจัย 24 ไม่ใช่เหรอ
จึงมีภพ 31ภูมิ

tongue

:b32:
คริคริคริ
ขำคนอวดว่าตัวดี
เหตุให้เกิดมีแค่6อย่างนี้จ้ะ
เหตุของอกุศล3อย่างคือ โลภะ โทสะ โมหะ
เหตุของ กุศล3อย่างคือ อโลภะ อโทสะ อโมหะ
ถ้ายังไม่ฟังคำสอนไม่ทำเหตุให้เกิดปัญญาก็มีอวิชชาเป็นอาจารย์555
:b12:
:b32: :b32:
ฟังบ้างนะ...จะได้รู้ว่ามีอวิชชาตัวเองเป็นอาจารย์
https://youtu.be/Ip7yNL6A3Qc
:b12:
:b4: :b4:

คุณยายโรสอวด ความไม่รู้

มั่วอีกแระค่ะ คุณยายโรส แสดงอวิชชาออกมาเต็มๆ

เหตุมีเหตุเดียว คืออวิชชา คือความไม่รู้
เป็นปัจจัย ให้เกิดสังขาร

ไม่ใช่เหตุ6 อย่าง เจตสิกสังขาร 6 ตัว กุศล อกุศล อย่างที่คุณยายมั่วออกมา
นั่นเค้าเรียก สังขาร

นั่นแหละ สุดยอดการหลอกลวงของอวิชชา
ที่คุณยายโรสหนังเหนียว ยังโดนต้มจนเปื่อย

คุณยายโรส มั่วแหลก เพราะไม่เรียนพระอภิธรรม

ก๊ากๆๆๆๆ


tongue

:b32:
คิดให้ตรงตอนนี้เลย
แล้วมันรู้สึกตัวไหมล่ะ
เวลาเรียกตัวเองว่าเม
เธอรู้สึกว่ามีเมตรงไหน
ตรงนั้นแหละกำลังมีอวิชชา
คิดคำว่าเม...ไม่ได้คิดถูกตามคำสอนอยู่นะคะ5555
ไม่รู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังมีกิเลสอวิชชา55555555555
:b32: :b32: :b32:


"คิดให้ตรงตอนนี้เลย"

คริคริ

มั่วแหลกอีกแล้ว

คุณยายโรส ไม่ประสีประสา ในพระอภิธรรม ไม่ประสีประสาในปฎิจจสมุปปาท เรย


คิดนี่แหละ มันเป็นจิตสังขาร เกิดจากอวิชชา

แต่สฬายตนะ น่ะ เป็นปัจจัย ทำให้เกิดผัสสะ นะคะ

ไปหัดท่องพื้นฐานให้ดีๆ ให้เข้าใจก่อนนะคะ จะได้ไม่มาปล่อยไก่

ตั้งใจเรียนหน่อยนะคะ อ่อนหัดมั๊กๆค่ะ เดี๋ยวจะด้อยโอกาศที่จะเข้าใจธรรมอันลึกซึ้ง

tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2020, 06:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
อุปาทานขันธ์5
คือมิจฉาทิฏฐิ
ดับได้เมื่อถึง
โสดาปัตติผล
คือบรรลุโสดาบัน
จึงมีศีลบริสุทธิ์เป็นกุศลศีล
ไม่มีอกุศลศีลปนเหมือนปุถุชน
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2020, 20:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
อุปาทานขันธ์5
คือมิจฉาทิฏฐิ
ดับได้เมื่อถึง
โสดาปัตติผล
คือบรรลุโสดาบัน
จึงมีศีลบริสุทธิ์เป็นกุศลศีล
ไม่มีอกุศลศีลปนเหมือนปุถุชน
onion onion onion

คริคริ

มั่วอีกแล้วค่ะคุณยาย
อธิบายความหมายของมิจฉาทิฎฐิผิดแล้ว

พระโสดาบัน ท่าน ละสังโยชน์ 3
คือสักกายะทิำฐิ
วิจิกิจฉา
ศีลพตปรามาส

ส่วนดับอุปทาน จึงเป็นปัจจัยให้ตัณหาดับ ตามปฎิจจสมุปาท

นั่นต้องขั้นพระอรหันต์มรรค กำลังถึงอรหัตตผล นะคะ นะคะๆๆๆ

ไม่ใช่พระโสดาบัน
แม้นเอกพีซีโสดาบัน ก็ ต้องก้าวไป เป็นพระสกิทา พระอนาคา ถึงขั้นพระอรหันต์มรรค ก่อนค่ะ

อย่ามั่วค่ะคุณยาย

tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ส.ค. 2020, 09:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
Rosarin เขียน:

อุปาทานขันธ์5
คือมิจฉาทิฏฐิ
ดับได้เมื่อถึง
โสดาปัตติผล
คือบรรลุโสดาบัน
จึงมีศีลบริสุทธิ์เป็นกุศลศีล
ไม่มีอกุศลศีลปนเหมือนปุถุชน
onion onion onion

คริคริ

มั่วอีกแล้วค่ะคุณยาย
อธิบายความหมายของมิจฉาทิฎฐิผิดแล้ว

พระโสดาบัน ท่าน ละสังโยชน์ 3
คือสักกายะทิำฐิ
วิจิกิจฉา
ศีลพตปรามาส

ส่วนดับอุปทาน จึงเป็นปัจจัยให้ตัณหาดับ ตามปฎิจจสมุปาท

นั่นต้องขั้นพระอรหันต์มรรค กำลังถึงอรหัตตผล นะคะ นะคะๆๆๆ

ไม่ใช่พระโสดาบัน
แม้นเอกพีซีโสดาบัน ก็ ต้องก้าวไป เป็นพระสกิทา พระอนาคา ถึงขั้นพระอรหันต์มรรค ก่อนค่ะ

อย่ามั่วค่ะคุณยาย

tongue

:b32:
อยากจะอวดตัวตนข่มคนอื่น
โดยคิดว่าตัวเองจำบัญญัติคำได้เยอะ555
โฮะโฮะโฮะ...มันไม่รู้สึกที่ตัวว่าที่มีลมหายใจอยู่เนี่ยเพราะมีตัว
ง่ายๆเลยจับแขนคิดเห็นว่าตัวเองมีแขนมั๊ย555พระพุทธเจ้าบอกว่าไม่มีตัวตน555
คิดเห็นผิดว่ามีแขนทั้งตัวนั้นแหละที่คิดว่ามีแล้วก็ส่องกระจกอยากดูความสวย555ไม่รู้ตัวว่าบอรมมะโง่555
ไม่มีเราแปลว่าไม่มีพระพุทธเจ้าและไม่มีทั้งตัวเธอที่พยายามจะอวดว่าฉลาดกว่าคนอื่นนักหนาดับเบิ้ลบรมโง่
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ส.ค. 2020, 09:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ปาฏิหาริย์ของการฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าคือดับคิดเห็นผิด
ถ้าคิดตามปกติเหมือนเรียนหนังสือคุณก็คิดถูกตามได้ทีละ1ทาง
เห็นเกิดแล้วดับทันทีจิตจึงมีปกติเป็นอกุศลเดี๋ยวนี้มีครบ6ทาง6ขณะจิต
เพียงเห็นดับไป3ขณะจิตยังไม่ครบ6ขณะ6ทางอาสาวะที่ดองในจิตไหลแล้วค่ะ
:b32:
พระพุทธเจ้าไม่ได้ต้องการดอกไม้ธูปเทียนหรือลาภสักการะจากใคร
เพราะพระองค์แสดงพระธรรมให้ผู้ที่กำลังฟังเข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังมี
พระพุทธเจ้าไม่ได้บอกให้ไปทำโดยไม่เข้าใจให้ถูกต้องแต่ทรงบอกว่าอย่าพึ่งเชื่อแต่ให้ฟัง
เพื่อเข้าใจเหตุผลชัดเจนว่าทำไมพระองค์ถึงมาบอกว่าตัวเรานั้นไม่มีแล้วกำลังมีอะไรต้องฟังให้เข้าใจ
ไม่ใช่เชื่อแล้วก็ตามคนอื่นไปเพื่อหวังอยากได้เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าคิดเห็นถูกหรือผิดอยู่ที่การฟัง
เพราะถ้าตัวเองฟังแล้วยังคิดแย้งไปเรื่อยๆนั่นน่ะแปลว่าปัญญาเราน้อยมากและไม่คิดให้เข้าใจสิ่งที่กำลังฟัง
https://youtu.be/ZWRY1gYxxRI
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2020, 20:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
กรัชกายเอ๊ย...เอ๊ย
ตราบใดที่ยังไม่รู้สึกตัวว่า
ตัวตนของเธอมันไม่มีอยู่จริงนะเฮ๊ย
เธอจะไม่มีวันเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร
เอาแต่ท่องจำบัญญัติคำเป็นนกแก้วนกขุนทองไม่รู้จักว่าคนไหนคือพระพุทธเจ้า
ถามจริงจริ๊งคุยกันภาษาคนอยู่เนี่ยคิดไม่ออกเลยเหรอพระพุทธเจ้าก็เป็นคนมองตากันเวลาพูด...ไม่มีเรา
คิดยังไงเหรอ...คิดว่าอยู่ดีเกิดมาไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้าเลยมีคนมาพูดบอกคุณว่า...ไม่มีเรา มองตาอยู่คิดไร
ลองนึกสิสมมุติเห็นหน้าตากันคุณคุยกับโรสแล้วโรสบอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีเรา...พูดภาษาไทยคิดออกบ่โรสพูดไร
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2020, 21:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b32:
เวลาฟังคนอื่นพูดให้ฟังเนี่ย
ให้มันรู้จักคิดให้เข้าใจถูกตาม
ลืมตามองหน้าคนพูดบ้างบอกว่า
ไม่มีเราเข้าใจว่ามันเป็นสัจจะธัมมะ
ที่ไม่มีใครเชื่อว่าเดี๋ยวนี้ตัวตนมันไม่มี
ไม่ยอมฟังแล้วก็คิดแต่ว่าจะไปทำให้หมดตัวตน
มันก็ทำบุญเอาเงินไปประเคนพระภิกษุจนหมดตัวกันอยู่ไม่ลืมตาดูรึไง
เชื่อคนอื่นแล้วเขาชวนไปไหนไปทำอะไรยังไม่ได้ฟังอะไรเลยเชื่อและทำตามเลย
พระพุทธเจ้าสอนให้ฟังก่อนเชื่อไม่ใช่เชื่อก่อนทำเป็นมนุษย์ไม่รู้พอตายไปสวรรค์ก็ยึดตัวเทวดาที่เป็นอีก555
บนสวรรค์ไม่ได้ทำงานไม่มีเพศบรรพชิตมีเหาะได้มีวิมานแก้ววิมานทองเสกเอาคิดว่าจะมีเวลาคิดอยากฟังมั๊ย
:b32: :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 71 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร