วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 22:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 148 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2020, 13:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่โรสอยากบอกให้ทุกคนทำคือเริ่มต้นฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
เหตุผลคือถ้าตถาคตทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วว่ายุคพันปีที่3ไม่มีพระอรหันต์
แสดงว่าที่พระพุทธเจ้ายกพระธรรมขึ้นแทนพระองค์คือมีพระธรรมเท่านั้น
ที่บรรลุอรหันต์แสดงว่าสิ่งที่เชื่อถือได้คือพระธรรมคือพระรัตนตรัยสูงสุด


ดูสิน่า เลี่ยงไม่พูดถึงคำถามอีก :b32: นี่แหละมันตัน ไปไม่ได้

พระพุทธเจ้าอยู่ไหนจะให้ไปฟัง นี่เคยถามแล้วว่า ตอนนี้พระพุทธเจ้าอยู่จังหวัดไหน คุณโรสก็ไม่ตอบ พูดแต่ให้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่คลิปที่ให้มานั้น เป็นแม่สุจิน ไม่ใช่พระพุทธเจ้า คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2020, 13:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

555เอาแค่ชื่อหัวข้อก่อนก็แล้วกันนะ
ท่านไหนเหรอที่ให้ทำให้กำหนด
ตถาคตบอกว่าทุกอย่างเป็นธัมมะ
และธัมมะทั้งหลายเป็นอนัตตา
อนัตตาแปลว่ากำหนดไม่ได้
เพราะทุกอย่างเกิดเอง

ตรงตามเหตุปัจจัย
ไม่มีใครทำเหตุ
ที่มีเดี๋ยวนี้เพราะ
เหตุมาจากกรรมในอดีต
มาปรากฏให้ได้รับผลและไปคิดกำหนดทำกรรมใหม่เอาเอง555
ไม่พึ่งคำสอนก็พระพุทธเจ้าบอกว่าไม่ใช่เราไม่ใช่ตัวตนทำไมไม่ฟังให้เกิดปัญญา
ฟังก็ไม่ฟังยังคิดผิดพูดผิดทำผิดเป็นกรรมที่รอให้ผลใหม่แล้วโลกนี้มีแต่คนบ้าที่ไม่รู้จักตัวตน
ยังมีตัวอยู่ก็ยอมรับให้ได้ก่อนพระพุทธเจ้าสอนให้คิดตามและระลึกรู้สึกตัวตรงปัจจุบันว่ามีอะไรที่ไม่ใช่ตัว



พ่ะนะ ไปเอามาแต่ไหนอีก อนัตตา แปลว่า กำหนดไม่ได้ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2020, 13:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่โรสอยากบอกให้ทุกคนทำคือเริ่มต้นฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
เหตุผลคือถ้าตถาคตทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วว่ายุคพันปีที่3ไม่มีพระอรหันต์
แสดงว่าที่พระพุทธเจ้ายกพระธรรมขึ้นแทนพระองค์คือมีพระธรรมเท่านั้น
ที่บรรลุอรหันต์แสดงว่าสิ่งที่เชื่อถือได้คือพระธรรมคือพระรัตนตรัยสูงสุด


ดูสิน่า เลี่ยงไม่พูดถึงคำถามอีก :b32: นี่แหละมันตัน ไปไม่ได้

พระพุทธเจ้าอยู่ไหนจะให้ไปฟัง นี่เคยถามแล้วว่า ตอนนี้พระพุทธเจ้าอยู่จังหวัดไหน คุณโรสก็ไม่ตอบ พูดแต่ให้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่คลิปที่ให้มานั้น เป็นแม่สุจิน ไม่ใช่พระพุทธเจ้า คิกๆๆ

:b32:
ฉลาดคิดเหลือเกินนะ
พอเราบอกว่าให้ฟังจากคนอื่นบอก
มันก็แย้งมาอีกแล้วก็จะเลือกฟังแต่กับคนที่มันนับถือ
ถามว่าทุกคนล้วนกราบพระพุทธรูปแสดงว่าต้องเคารพพระพุทธเจ้าสูงสุด
ดูพฤติกรรมพระภิกษุสิคะ...เหยียบย่ำคำสอนด้วยการรับเงินมันมีปัญญาคิดได้ไหมก็มันโลภรับไปแล้ว
ถามว่ามันรับเงินแล้วมันไปปลงอาบัติกันตอนไหนมิทราบคะเวลาปลงต้องปลงกะคนที่ไม่รับเงินโง่กันมากไหม
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2020, 13:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปักหลักไว้ก่อน คิกๆๆ แล้วจะมีตัวอย่างซึ่งนำมาก่อนหน้าแล้วตามมา

สำเหนียก กำหนด, จดจำ, คอยเอาใจใส่, ฟัง, ใส่ใจคิดที่จะนำไปปฏิบัติ, ใส่ใจสังเกตพิจารณาจับเอาสาระเพื่อจะนำไปปฏิบัติให้สำเร็จประโยชน์ (คำพระว่า สิกขา หรือ ศึกษา)

สิกขา การศึกษา, การสำเหนียก, การเรียน, การฝึกฝนปฏิบัติ, การเล่าเรียนให้รู้เข้าใจ และฝึกหัดปฏิบัติให้เป็นคุณสมบัติที่เกิดมีขึ้นในตนหรือให้ทำได้ทำเป็น ตลอดจนแก้ไขปรับปรุงหรือพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปจนถึงความสมบูรณ์, ข้อที่จะต้องศึกษา, ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมพัฒนาบุคคล

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2020, 13:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่โรสอยากบอกให้ทุกคนทำคือเริ่มต้นฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
เหตุผลคือถ้าตถาคตทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วว่ายุคพันปีที่3ไม่มีพระอรหันต์
แสดงว่าที่พระพุทธเจ้ายกพระธรรมขึ้นแทนพระองค์คือมีพระธรรมเท่านั้น
ที่บรรลุอรหันต์แสดงว่าสิ่งที่เชื่อถือได้คือพระธรรมคือพระรัตนตรัยสูงสุด


ดูสิน่า เลี่ยงไม่พูดถึงคำถามอีก :b32: นี่แหละมันตัน ไปไม่ได้

พระพุทธเจ้าอยู่ไหนจะให้ไปฟัง นี่เคยถามแล้วว่า ตอนนี้พระพุทธเจ้าอยู่จังหวัดไหน คุณโรสก็ไม่ตอบ พูดแต่ให้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่คลิปที่ให้มานั้น เป็นแม่สุจิน ไม่ใช่พระพุทธเจ้า คิกๆๆ

:b32:
ฉลาดคิดเหลือเกินนะ
พอเราบอกว่าให้ฟังจากคนอื่นบอก
มันก็แย้งมาอีกแล้วก็จะเลือกฟังแต่กับคนที่มันนับถือ
ถามว่าทุกคนล้วนกราบพระพุทธรูปแสดงว่าต้องเคารพพระพุทธเจ้าสูงสุด
ดูพฤติกรรมพระภิกษุสิคะ...เหยียบย่ำคำสอนด้วยการรับเงินมันมีปัญญาคิดได้ไหมก็มันโลภรับไปแล้ว
ถามว่ามันรับเงินแล้วมันไปปลงอาบัติกันตอนไหนมิทราบคะเวลาปลงต้องปลงกะคนที่ไม่รับเงินโง่กันมากไหม


แล้วมันจริงไหมเล่าว่าที่พูดนั่นน่า ไม่ใช่พระพุทธเจ้า คือ แม่สุจิน จริงไม่จริง

1.จริง
2. ไม่จริง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2020, 13:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

555เอาแค่ชื่อหัวข้อก่อนก็แล้วกันนะ
ท่านไหนเหรอที่ให้ทำให้กำหนด
ตถาคตบอกว่าทุกอย่างเป็นธัมมะ
และธัมมะทั้งหลายเป็นอนัตตา
อนัตตาแปลว่ากำหนดไม่ได้
เพราะทุกอย่างเกิดเอง

ตรงตามเหตุปัจจัย
ไม่มีใครทำเหตุ
ที่มีเดี๋ยวนี้เพราะ
เหตุมาจากกรรมในอดีต
มาปรากฏให้ได้รับผลและไปคิดกำหนดทำกรรมใหม่เอาเอง555
ไม่พึ่งคำสอนก็พระพุทธเจ้าบอกว่าไม่ใช่เราไม่ใช่ตัวตนทำไมไม่ฟังให้เกิดปัญญา
ฟังก็ไม่ฟังยังคิดผิดพูดผิดทำผิดเป็นกรรมที่รอให้ผลใหม่แล้วโลกนี้มีแต่คนบ้าที่ไม่รู้จักตัวตน
ยังมีตัวอยู่ก็ยอมรับให้ได้ก่อนพระพุทธเจ้าสอนให้คิดตามและระลึกรู้สึกตัวตรงปัจจุบันว่ามีอะไรที่ไม่ใช่ตัว



พ่ะนะ ไปเอามาแต่ไหนอีก อนัตตา แปลว่า กำหนดไม่ได้ :b32:

:b32:
อัตตา=ตัวตนคน........อนัตตา=ไม่ใช่ตัวคน
นิพพานเป็นสุญญตา....ไม่เป็นทั้งอัตตาและไม่เป็นอนัตตา
อัตตา อนัตตา นิพพาน เลือกเป็นได้แค่อันเดียวเป็นแล้วด้วยตอนนี้แหละ
อัตตา=อกุศลศีลของปุถุชน
อนัตตา=กุศลศีลของอริยบุคคล
ส่วนนิพพานคือสุญญตาของพระอรหันต์
นิพพานเป็นอัพยากตศีลอัพยากตธรรมดับอวิชชา
มีปัญญาคิดได้ไหมว่าตัวเองกำลังเป็นอันไหนนั่นน่ะไม่เคยทำปัญญาถูกตรงตามคำสอนจากการฟังเลยนั้นน่ะ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2020, 14:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่โรสอยากบอกให้ทุกคนทำคือเริ่มต้นฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
เหตุผลคือถ้าตถาคตทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วว่ายุคพันปีที่3ไม่มีพระอรหันต์
แสดงว่าที่พระพุทธเจ้ายกพระธรรมขึ้นแทนพระองค์คือมีพระธรรมเท่านั้น
ที่บรรลุอรหันต์แสดงว่าสิ่งที่เชื่อถือได้คือพระธรรมคือพระรัตนตรัยสูงสุด


ดูสิน่า เลี่ยงไม่พูดถึงคำถามอีก :b32: นี่แหละมันตัน ไปไม่ได้

พระพุทธเจ้าอยู่ไหนจะให้ไปฟัง นี่เคยถามแล้วว่า ตอนนี้พระพุทธเจ้าอยู่จังหวัดไหน คุณโรสก็ไม่ตอบ พูดแต่ให้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่คลิปที่ให้มานั้น เป็นแม่สุจิน ไม่ใช่พระพุทธเจ้า คิกๆๆ

:b32:
ฉลาดคิดเหลือเกินนะ
พอเราบอกว่าให้ฟังจากคนอื่นบอก
มันก็แย้งมาอีกแล้วก็จะเลือกฟังแต่กับคนที่มันนับถือ
ถามว่าทุกคนล้วนกราบพระพุทธรูปแสดงว่าต้องเคารพพระพุทธเจ้าสูงสุด
ดูพฤติกรรมพระภิกษุสิคะ...เหยียบย่ำคำสอนด้วยการรับเงินมันมีปัญญาคิดได้ไหมก็มันโลภรับไปแล้ว
ถามว่ามันรับเงินแล้วมันไปปลงอาบัติกันตอนไหนมิทราบคะเวลาปลงต้องปลงกะคนที่ไม่รับเงินโง่กันมากไหม


แล้วมันจริงไหมเล่าว่าที่พูดนั่นน่า ไม่ใช่พระพุทธเจ้า คือ แม่สุจิน จริงไม่จริง

1.จริง
2. ไม่จริง

:b32:
แล้วการปลงอาบัติเนี่ย
เวลาปลงอาบัติเนี่ยคือการสารภาพผิด
เขาไม่ได้งุบงิบทำคนเดียวเพราะต้องไปแสดงตัว
ให้พระภิกษุด้วยกันที่ไม่ได้ทำผิดเรื่องนั้นคือให้มีพยานรับทราบว่ากูจะไม่ทำแบบนั้นอีก
ส่วนชาวบ้านที่เขาศึกษาพระธรรมวินัยเข้าใจและเผยแพร่ความจริงตามคำสอนเป็นสาธารณะมันถูกต้องแล้ว
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2020, 15:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ปักหลักไว้ก่อน คิกๆๆ แล้วจะมีตัวอย่างซึ่งนำมาก่อนหน้าแล้วตามมา

สำเหนียก กำหนด, จดจำ, คอยเอาใจใส่, ฟัง, ใส่ใจคิดที่จะนำไปปฏิบัติ, ใส่ใจสังเกตพิจารณาจับเอาสาระเพื่อจะนำไปปฏิบัติให้สำเร็จประโยชน์ (คำพระว่า สิกขา หรือ ศึกษา)

สิกขา การศึกษา, การสำเหนียก, การเรียน, การฝึกฝนปฏิบัติ, การเล่าเรียนให้รู้เข้าใจ และฝึกหัดปฏิบัติให้เป็นคุณสมบัติที่เกิดมีขึ้นในตนหรือให้ทำได้ทำเป็น ตลอดจนแก้ไขปรับปรุงหรือพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปจนถึงความสมบูรณ์, ข้อที่จะต้องศึกษา, ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมพัฒนาบุคคล


กำหนด (-หฺนด) ก. หมายไว้, ตราไว้. น. การหมายไว้, การตราไว้.

ตกไปตัวหนึ่ง

กำหนด หมายไว้,การหมายไว้,

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2020, 16:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่โรสอยากบอกให้ทุกคนทำคือเริ่มต้นฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
เหตุผลคือถ้าตถาคตทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วว่ายุคพันปีที่3ไม่มีพระอรหันต์
แสดงว่าที่พระพุทธเจ้ายกพระธรรมขึ้นแทนพระองค์คือมีพระธรรมเท่านั้น
ที่บรรลุอรหันต์แสดงว่าสิ่งที่เชื่อถือได้คือพระธรรมคือพระรัตนตรัยสูงสุด


ดูสิน่า เลี่ยงไม่พูดถึงคำถามอีก :b32: นี่แหละมันตัน ไปไม่ได้

พระพุทธเจ้าอยู่ไหนจะให้ไปฟัง นี่เคยถามแล้วว่า ตอนนี้พระพุทธเจ้าอยู่จังหวัดไหน คุณโรสก็ไม่ตอบ พูดแต่ให้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่คลิปที่ให้มานั้น เป็นแม่สุจิน ไม่ใช่พระพุทธเจ้า คิกๆๆ

:b32:
ฉลาดคิดเหลือเกินนะ
พอเราบอกว่าให้ฟังจากคนอื่นบอก
มันก็แย้งมาอีกแล้วก็จะเลือกฟังแต่กับคนที่มันนับถือ
ถามว่าทุกคนล้วนกราบพระพุทธรูปแสดงว่าต้องเคารพพระพุทธเจ้าสูงสุด
ดูพฤติกรรมพระภิกษุสิคะ...เหยียบย่ำคำสอนด้วยการรับเงินมันมีปัญญาคิดได้ไหมก็มันโลภรับไปแล้ว
ถามว่ามันรับเงินแล้วมันไปปลงอาบัติกันตอนไหนมิทราบคะเวลาปลงต้องปลงกะคนที่ไม่รับเงินโง่กันมากไหม


แล้วมันจริงไหมเล่าว่าที่พูดนั่นน่า ไม่ใช่พระพุทธเจ้า คือ แม่สุจิน จริงไม่จริง

1.จริง
2. ไม่จริง

:b32:
แล้วการปลงอาบัติเนี่ย
เวลาปลงอาบัติเนี่ยคือการสารภาพผิด
เขาไม่ได้งุบงิบทำคนเดียวเพราะต้องไปแสดงตัว
ให้พระภิกษุด้วยกันที่ไม่ได้ทำผิดเรื่องนั้นคือให้มีพยานรับทราบว่ากูจะไม่ทำแบบนั้นอีก
ส่วนชาวบ้านที่เขาศึกษาพระธรรมวินัยเข้าใจและเผยแพร่ความจริงตามคำสอนเป็นสาธารณะมันถูกต้องแล้ว
:b12:
:b32: :b32:


ดูเจตนารมณ์ของวินัย (=กฏหมาย)

วินัย ระเบียบแบบแผนสำหรับฝึกฝนควบคุมความประพฤติของบุคคลให้มีชีวิตที่ดีงามเจริญก้าวหน้าและควบคุมหมู่ชนให้อยู่ร่วมกันด้วยความสงบเรียบร้อยดีงาม, ประมวลบทบัญญัติข้อกำหนดสำหรับควบคุมความประพฤติไม่ให้เสื่อมเสียและฝึกฝนให้ประพฤติตีงามเป็นคุณเกื้อกูลยิ่งขึ้น

อ้างคำพูด:
ส่วนชาวบ้านที่เขาศึกษาพระธรรมวินัยเข้าใจ


พูดรวม พระธรรมวินัย ต้องแยกได้ คือ ธรรม คำสอน เช่น สติ สัมปชัญญะ นี่ส่วนหนึ่ง เรียกว่า ธรรม

วินัย นี่ส่วนหนึ่ง

ยังไม่เห็นแม่สุจินพูดธรรมะตรงธรรมตรงไหน เห็นแต่พูดว่า "เพราะไม่เข้าใจธรรมะจึงสอนให้ทำสมาธิ" นี่ผิดธรรมแล้วนะ จริงไม่จริง ธรรมะที่แม่สุจินพูดคืออะไร :b10:

ส่วนวินัย ก็พูดย้ำๆตรงที่ว่า พระจับเงิน นี่แหละถูกถ้าว่าตามวินัยนั้น แต่ก็อย่างที่ว่า วินัย เปรียบได้กับกฎหมาย ซึ่งเหมาะกับยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง แต่ไม่เหมาะกับอีกยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง เช่น ปัจจุบันพระจะสร้างสำนักสงฆ์ก็ต้องหาเงินไปสร้าง ถ้าไม่จับเงินแล้วจะสร้างสำนักได้อย่างไร ไปร้านวัสดุก่อสร้างก็ถือเงินไปให้ร้านเขา เขาจึงให้อิฐหินปูนทรายมา

ดังนั้น ข้อนี้ แม่สุจิน ต้องมีทางออกให้ เพื่อให้ศาสนาดำรงค์อยู่ได้ ก็เลยบอกให้ไปสร้างวัดเองอุปัฏฐากพระเณรเอง ทำให้เหมือนครั้งพุทธกาล นี่ๆมันต้องอย่างนี้ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2020, 16:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

555เอาแค่ชื่อหัวข้อก่อนก็แล้วกันนะ
ท่านไหนเหรอที่ให้ทำให้กำหนด
ตถาคตบอกว่าทุกอย่างเป็นธัมมะ
และธัมมะทั้งหลายเป็นอนัตตา
อนัตตาแปลว่ากำหนดไม่ได้
เพราะทุกอย่างเกิดเอง

ตรงตามเหตุปัจจัย
ไม่มีใครทำเหตุ
ที่มีเดี๋ยวนี้เพราะ
เหตุมาจากกรรมในอดีต
มาปรากฏให้ได้รับผลและไปคิดกำหนดทำกรรมใหม่เอาเอง555
ไม่พึ่งคำสอนก็พระพุทธเจ้าบอกว่าไม่ใช่เราไม่ใช่ตัวตนทำไมไม่ฟังให้เกิดปัญญา
ฟังก็ไม่ฟังยังคิดผิดพูดผิดทำผิดเป็นกรรมที่รอให้ผลใหม่แล้วโลกนี้มีแต่คนบ้าที่ไม่รู้จักตัวตน
ยังมีตัวอยู่ก็ยอมรับให้ได้ก่อนพระพุทธเจ้าสอนให้คิดตามและระลึกรู้สึกตัวตรงปัจจุบันว่ามีอะไรที่ไม่ใช่ตัว



พ่ะนะ ไปเอามาแต่ไหนอีก อนัตตา แปลว่า กำหนดไม่ได้ :b32:

:b32:
อัตตา=ตัวตนคน........อนัตตา=ไม่ใช่ตัวคน
นิพพานเป็นสุญญตา....ไม่เป็นทั้งอัตตาและไม่เป็นอนัตตา
อัตตา อนัตตา นิพพาน เลือกเป็นได้แค่อันเดียวเป็นแล้วด้วยตอนนี้แหละ
อัตตา=อกุศลศีลของปุถุชน
อนัตตา=กุศลศีลของอริยบุคคล
ส่วนนิพพานคือสุญญตาของพระอรหันต์
นิพพานเป็นอัพยากตศีลอัพยากตธรรมดับอวิชชา
มีปัญญาคิดได้ไหมว่าตัวเองกำลังเป็นอันไหนนั่นน่ะไม่เคยทำปัญญาถูกตรงตามคำสอนจากการฟังเลยนั้นน่ะ
:b32: :b32: :b32:


ไปใหญ่เลอะเทอะไปใหญ่

ทีแรกบอกอนัตตา แปลว่า กำหนดไม่ได้

ต่อมาอีก คคห.อนัตตา ไม่ใช่ตัวคน

พูดกลับไปกลับมา ไม่อยู่กับร่องกับรอย :b32:

จบข่าว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2020, 17:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เอาเรื่องคนเป็นๆบ้าง 2 คน 2 ตัวอย่าง คนนี้ใช้พุทโธ

คุณโรสว่าไง คนเป็นคืออะไร ? :b1:

อ้างคำพูด:
ช่วงนี้นั่งสมาธิแล้วมันแปลกๆคะ

1/รบกวนผู้รู้ช่วยตอบหน่อยคะ พักนี้หนูนั่งสมาธิ เหมือนเดิม รอบล่ะ 1 ชม แต่พักนี้ เวลานั่ง มันเหมือนหลับ แต่ไม่หลับ มันมึนๆเบลอๆ บอกไม่ถูก พอไม่มึนไม่เบลอ รู้สึก เหมือนจิต ไม่มีจุดยืน วิ่งไปวิ่งมา ภายในตัว ยังแน่นที่หน้าอกเหมือนเดิม ไม่รู้ว่า ไปเพ่งอะไร แก้ไม่หาย บางทีพุทโธก็หายไป นึกได้ก็กลับมาพุธโธใหม่

2/หนักสุด ปกติจะทำสมาธิด้วยเวลานอน แต่พักนี้ ความรู้สึกเหมือน ไม่ได้หลับ แต่ร่างกายคงหลับแล้ว พอรู้สึกตัว ยังพุธโธอยู่ แต่ เหนื่อยยยยมาก รู้สึกเหนื่อยมากๆ เหมือนไม่ได้หลับไม้ได้นอน (แต่คิดว่าร่างกายน่าจะหลับ) .. มันเป็นงี่หลายวัน จน เหมือนร่างกายพักผ่อนไม่พอ ไม่สบายเลยคะ
มันเพราะอะไรคะ แก้ยังไงดี

https://pantip.com/topic/40020885


อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิพอจิตเริ่มรวมเหมือนแยกออกร่างกายควรทำอย่างไรต่อ

ถึงจุดนี้พยามควานหาลมหายใจ เพราะบ้างก็ว่าให้มีสติกับลมหายใจ แต่ถ้าปล่อยให้จิตมืดสงบไป แล้วยังไงต่อจิตจะไปไหน ควรกลับมาภาวนาต่อ หรือดูจิตไป
กลับมากำหนดลมหายใจ ใจเต้นแรงทุกที

ผมขอสอบถามเพิ่มครับ แล้วถ้าเราไปขั้นต่อไปคือ จับลมหายใจไม่ได้เป็นระยะเวลานานๆหลายนาที หรือเป็นชั่วโมง ร่างกายจะเป็นอย่างไร จิตจะเป็นอย่างไร


https://pantip.com/topic/40017192





เอาตัวอย่างนี่เทียบ




http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57705&start=30

ฉันเลยได้แต่ปลูกต้นไม้เล่นไปวันๆ ความเงียบสงบ ทำให้ฉันทำสมาธิได้สำเร็จ ซึ่งเมื่ออยู่เมืองไทย พยายามทำแล้วไม่สำเร็จ
เมื่อตอนเป็นวัยรุ่น ผู้ใหญ่ให้เราไปเรียนวิปัสสนา โดยมีแม่ชีมาสอน นั่งเรียงแถวจ้องเทียน ยุบหนอพองหนอ กำหนดลมหายใจ พอตกกลางคืน ฉันร้องกรี๊ดเอะอะโวยวายขึ้นมาขณะนอนหลับ
ฉันรู้สึกเหมือนมีเสียงฟ้าผ่าลงบนหัว เสียงเหมือนระเบิดดังเปรี๊ยะ พร้อมกับเหมือนมีแสงสว่างแวบเข้ามาอย่างน่ากลัว ฉันผวาลุกขึ้น ตัวสั่นเหงื่อแตกด้วยความกลัว

ตั้งแต่นั้นมา ฉันไม่ยอมไปนั่งวิปัสสนาอีกเลย คงเป็นเพราะฉันยังเป็นคนมีบาป ไม่มีบารมีพอที่จะรับบุญนี้ จึงบันดาลให้เกิดอาการประหลาดนี้ขึ้น





แต่พอมาอยู่อเมริกาคนเดียวในที่สงบ ก็ทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่อยากจะทำสมาธิ

ฉันเริ่มจากการเพ่งจุดที่เพดาน ขณะที่นอน จุดอะไรก็ได้ ให้จิตรวมเป็นจุดเดียว
ขณะที่นั่งก็จะหาจุดอะไรก็ได้ที่อยู่ตรงหน้า จนรู้สึกว่า จิตเกือบจะรวมได้แล้ว ก็ทำต่อไปเรื่อยๆ

จนวันหนึ่ง มีญาติมาจากเมืองไทย ฉันพาเขาไปซื้อของที่ห้าง ฉันขี้เกียจเดินขอนั่งรอในรถ
ขณะที่รอ ฉันก็ใช้เวลาที่รอเพ่งจุดขี้ผึ้ง นานเป็นชั่วโมง ฉันรู้สึกเหมือนตัวจะลอยได้ มันเบาหวิว ไม่ได้ยิน ไม่ได้เห็นอะไรเลย มันว่างเปล่า ฉันจึงรู้ว่าฉันทำได้แล้ว มันเป็นความสบายโล่งอย่างบอกไม่ถูก บุญกุศลคงจะสนองฉัน ฉันดีใจมากที่ทำสำเร็จ
ตั้งแต่นั้นมา ฉันอยากจะทำสมาธิเมื่อไหร่ก็ทำได้ แม้เพียงนั่งอยู่แค่ไม่กี่นาทีก็ทำได้

ทุกครั้งที่ฉันเหนื่อย เครียด ฉันก็จะหยุดจิตนั่งสมาธิแค่ ๑๕ นาทีก็หายเหนื่อย ใครจะนำวิธีของฉันไปใช้บ้างก็ได้ จะได้เป็นกุศลมาถึงฉันด้วย คุณไม่ต้องเสียเวลาไปฝึกที่วัด แค่เพียง ทำจิตให้นิ่งได้ สักวันหนึ่ง คุณก็จะพบความสุขที่แท้จริง


การใช้คำกำกับภาวนาก็มีความสำคัญ ตย.ข้างบนใช้พุท-โธ หลักนี้ หายใจเข้าว่า พุท หายใจออกว่า โธ พุทโธๆๆๆ ย้ำอย่างเดียวไปเรื่อย ใช้ได้ดีในระดับเริ่มต้นทำ แต่เมื่อถึงระดับสภาวะปรากฏไม่เหมาะแล้ว (ดูตัวอย่าง) คือ มันตัน ไปต่อไม่ได้

ผู้ที่จะทำสมถะล้วน ควรใช้อารมณ์ที่อยู่กับที่ เช่น กสิณต่างๆ หรือแบบตัวอย่างที่เขาเพ่งจุดที่เพดาน

หากมาใช้ลมหายใจเข้าออก หรือท้องพองกับท้องยุบที่ตัว ต้องปรับเปลี่ยนวิธีกำหนดอารมณ์ขณะที่สภาวะเกิด รู้สึกนึกคิด (ไม่ใช่ย้ำๆแบบพุทโธๆๆๆๆ อะไรเกิดก็พุทโธๆๆๆ ไม่ใช่) เบื้องต้นใช้พุทโธได้ แต่พอสภาวะเกิด ต้องปรับ ปรับคำภาวนารู้เท่ารู้ทันอารมณ์ขณะนั้น เป็นยังไง รู้สึกอย่างไร ก็ให้ว่าตามนั้น เช่น มึนๆ บรอๆ มึนก็ว่า มึนหนอๆๆ พอมันบรอๆ บรอหนอๆๆ กำหนดอย่างนี้ไม่ติดไม่ตัน ไปได้ เป็นยังไงก็ยังงั้น คิดยังไง ก็ยังงั้น แล้วจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของสภาวธรรม คือ สรรพสิ่งที่ปรากฎแต่ละขณะว่ามันเปลี่ยนไปเรื่อย (อนิจจัง)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2020, 20:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

555เอาแค่ชื่อหัวข้อก่อนก็แล้วกันนะ
ท่านไหนเหรอที่ให้ทำให้กำหนด
ตถาคตบอกว่าทุกอย่างเป็นธัมมะ
และธัมมะทั้งหลายเป็นอนัตตา
อนัตตาแปลว่ากำหนดไม่ได้
เพราะทุกอย่างเกิดเอง

ตรงตามเหตุปัจจัย
ไม่มีใครทำเหตุ
ที่มีเดี๋ยวนี้เพราะ
เหตุมาจากกรรมในอดีต
มาปรากฏให้ได้รับผลและไปคิดกำหนดทำกรรมใหม่เอาเอง555
ไม่พึ่งคำสอนก็พระพุทธเจ้าบอกว่าไม่ใช่เราไม่ใช่ตัวตนทำไมไม่ฟังให้เกิดปัญญา
ฟังก็ไม่ฟังยังคิดผิดพูดผิดทำผิดเป็นกรรมที่รอให้ผลใหม่แล้วโลกนี้มีแต่คนบ้าที่ไม่รู้จักตัวตน
ยังมีตัวอยู่ก็ยอมรับให้ได้ก่อนพระพุทธเจ้าสอนให้คิดตามและระลึกรู้สึกตัวตรงปัจจุบันว่ามีอะไรที่ไม่ใช่ตัว



พ่ะนะ ไปเอามาแต่ไหนอีก อนัตตา แปลว่า กำหนดไม่ได้ :b32:

:b32:
อัตตา=ตัวตนคน........อนัตตา=ไม่ใช่ตัวคน
นิพพานเป็นสุญญตา....ไม่เป็นทั้งอัตตาและไม่เป็นอนัตตา
อัตตา อนัตตา นิพพาน เลือกเป็นได้แค่อันเดียวเป็นแล้วด้วยตอนนี้แหละ
อัตตา=อกุศลศีลของปุถุชน
อนัตตา=กุศลศีลของอริยบุคคล
ส่วนนิพพานคือสุญญตาของพระอรหันต์
นิพพานเป็นอัพยากตศีลอัพยากตธรรมดับอวิชชา
มีปัญญาคิดได้ไหมว่าตัวเองกำลังเป็นอันไหนนั่นน่ะไม่เคยทำปัญญาถูกตรงตามคำสอนจากการฟังเลยนั้นน่ะ
:b32: :b32: :b32:


ไปใหญ่เลอะเทอะไปใหญ่

ทีแรกบอกอนัตตา แปลว่า กำหนดไม่ได้

ต่อมาอีก คคห.อนัตตา ไม่ใช่ตัวคน

พูดกลับไปกลับมา ไม่อยู่กับร่องกับรอย :b32:

จบข่าว

:b32:
อ่ะ...งั้นคิดตามนะ
ตอนที่เจ้าชายสิทธัตถะออกผนวช
สละสมบัติพระมหาจักรพรรดิ์พร้อมลูกเมียญาติพี่น้องหมด
เอาสมบัติเงินทองจากพระราชวังติดตัวออกไปไว้ใช้ขณะผนวชหรือว่าไม่เอาอะไรไปเลย
และหลังจากที่บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วกลับเข้าไปเอาเงินในวังมาใช้มั๊ย
หลังจากทิ้งพระราชวังแล้วพอบรรลุธรรมจนตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วทรงขอเอาเงินในวังมาสร้างวัตถุมั๊ย
ตอบมาให้ชื่นใจสักคำสิว่าสมัยนี้ที่บวชเข้าใจรึเปล่าว่าก่อนบวชทำงานมีเงินใช้มีบ้านอาศัยอยู่ดีๆก็อยากบวช
ถามว่าบรรพชาคือการขออนุญาตทำตามพระพุทธเจ้าสมัยนี้บวชแล้วบังอาจล่วงเกินไม่ทำตามพระพุทธเจ้ารึ
คิดให้มันตรงกับความเป็นจริงบวชเพื่อทำตามพระบิดาเป็นพุทธบุตรโกงคำสอนน่ะตายต้องตกนรกนะ
เพราะพระพุทธเจ้ากราบพระธรรมเท่านั้นและทรงยกพระธรรมขึ้นแทนพระองค์ดังนั้นศาสดา=พระไตรปิฏก
อ้างและยกเอาคำต่างๆในพระไตรปิฏกมาพูดเพื่อลาภยศสักการะเงินทองอายชาวบ้านที่เข้าใจคำสอนบ้างมั๊ย
https://youtu.be/VDOi5ruyQ-A
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2020, 19:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

555เอาแค่ชื่อหัวข้อก่อนก็แล้วกันนะ
ท่านไหนเหรอที่ให้ทำให้กำหนด
ตถาคตบอกว่าทุกอย่างเป็นธัมมะ
และธัมมะทั้งหลายเป็นอนัตตา
อนัตตาแปลว่ากำหนดไม่ได้
เพราะทุกอย่างเกิดเอง

ตรงตามเหตุปัจจัย
ไม่มีใครทำเหตุ
ที่มีเดี๋ยวนี้เพราะ
เหตุมาจากกรรมในอดีต
มาปรากฏให้ได้รับผลและไปคิดกำหนดทำกรรมใหม่เอาเอง555
ไม่พึ่งคำสอนก็พระพุทธเจ้าบอกว่าไม่ใช่เราไม่ใช่ตัวตนทำไมไม่ฟังให้เกิดปัญญา
ฟังก็ไม่ฟังยังคิดผิดพูดผิดทำผิดเป็นกรรมที่รอให้ผลใหม่แล้วโลกนี้มีแต่คนบ้าที่ไม่รู้จักตัวตน
ยังมีตัวอยู่ก็ยอมรับให้ได้ก่อนพระพุทธเจ้าสอนให้คิดตามและระลึกรู้สึกตัวตรงปัจจุบันว่ามีอะไรที่ไม่ใช่ตัว



พ่ะนะ ไปเอามาแต่ไหนอีก อนัตตา แปลว่า กำหนดไม่ได้ :b32:

:b32:
อัตตา=ตัวตนคน........อนัตตา=ไม่ใช่ตัวคน
นิพพานเป็นสุญญตา....ไม่เป็นทั้งอัตตาและไม่เป็นอนัตตา
อัตตา อนัตตา นิพพาน เลือกเป็นได้แค่อันเดียวเป็นแล้วด้วยตอนนี้แหละ
อัตตา=อกุศลศีลของปุถุชน
อนัตตา=กุศลศีลของอริยบุคคล
ส่วนนิพพานคือสุญญตาของพระอรหันต์
นิพพานเป็นอัพยากตศีลอัพยากตธรรมดับอวิชชา
มีปัญญาคิดได้ไหมว่าตัวเองกำลังเป็นอันไหนนั่นน่ะไม่เคยทำปัญญาถูกตรงตามคำสอนจากการฟังเลยนั้นน่ะ
:b32: :b32: :b32:


ไปใหญ่เลอะเทอะไปใหญ่

ทีแรกบอกอนัตตา แปลว่า กำหนดไม่ได้

ต่อมาอีก คคห.อนัตตา ไม่ใช่ตัวคน

พูดกลับไปกลับมา ไม่อยู่กับร่องกับรอย :b32:

จบข่าว

:b32:
อ่ะ...งั้นคิดตามนะ
ตอนที่เจ้าชายสิทธัตถะออกผนวช
สละสมบัติพระมหาจักรพรรดิ์พร้อมลูกเมียญาติพี่น้องหมด
เอาสมบัติเงินทองจากพระราชวังติดตัวออกไปไว้ใช้ขณะผนวชหรือว่าไม่เอาอะไรไปเลย
และหลังจากที่บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วกลับเข้าไปเอาเงินในวังมาใช้มั๊ย

หลังจากทิ้งพระราชวังแล้วพอบรรลุธรรมจนตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วทรงขอเอาเงินในวังมาสร้างวัตถุมั๊ย
ตอบมาให้ชื่นใจสักคำสิว่าสมัยนี้ที่บวชเข้าใจรึเปล่าว่าก่อนบวชทำงานมีเงินใช้มีบ้านอาศัยอยู่ดีๆก็อยากบวช
ถามว่าบรรพชาคือการขออนุญาตทำตามพระพุทธเจ้าสมัยนี้บวชแล้วบังอาจล่วงเกินไม่ทำตามพระพุทธเจ้ารึ
คิดให้มันตรงกับความเป็นจริงบวชเพื่อทำตามพระบิดาเป็นพุทธบุตรโกงคำสอนน่ะตายต้องตกนรกนะ
เพราะพระพุทธเจ้ากราบพระธรรมเท่านั้นและทรงยกพระธรรมขึ้นแทนพระองค์ดังนั้นศาสดา=พระไตรปิฏก
อ้างและยกเอาคำต่างๆในพระไตรปิฏกมาพูดเพื่อลาภยศสักการะเงินทองอายชาวบ้านที่เข้าใจคำสอนบ้างมั๊ย
https://youtu.be/VDOi5ruyQ-A
:b12:
:b4: :b4:


คิกๆๆ นั่นคือทัศนคติคุณโรสศิษย์สำนักบ้านธัมมะ :b13:


https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

คือ เขาถือว่า ครั้งพุทธกาลไม่มีสำนัก ไม่มีวัด เพราะฉะนั้น ปัจจุบันก็ไม่ต้องสร้างวัด ไม่ต้องสร้างสำนัก ไม่ต้องสร้างวัตถุนั่นๆนี่ๆขึ้นมา ไม่ต้องสร้างหอระฆัง ฯลฯ เพราะครั้งพุทธกาลไม่มีว่างั้น นี่เขาคิดยังงี้ มันจึงขัดกับสภาพแวดล้อมปัจจุบันหมดเบย :b32: อะไรที่มีในปัจจุบัน ครั้งพุทธกาลไม่มี ไม่ใช่ทำมะว่างั้น

สรุปก็คือจะให้ถอยหลังไปครั้งเมื่อ 3000 กว่าปีโน๊นนนนน ซึ่งใช้เทียนไขส่องแสงสว่าง แต่ปัจจุบันภูมิศาสตร์เปลี่ยนไปหมดแล้ว แม่น้ำเนรัญชราก็ตื่นเขินคนเดินข้ามได้ ต้นโพธิ์ต้นเก่าตายไปต้นแทนหลายรุ่นแล้ว ชื่อเมืองในอดีตก็เปลี่ยนเป็นอะไรต่ออะไรนักก็ไม่รู้ :b32: ระบอบกษัตริย์ก็สูญไปแล้ว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ส.ค. 2020, 11:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิแล้วเห็นผี

สอบถามค่ะ อันนี้เป็นข้อสงสัยส่วนตัวค่ะ

เนื่องจากเจอกับตัวเองมาบ่อยมากตั้งแต่ช่วง ม.ปลายมาจนปัจจุบัน 3-4 ปีแล้ว เหตุมีอยู่ว่าเคยมีแม่ชีแนะนำให้เรานั่งสมาธิ และสวดมนต์ในคืนวันเกิดของตัวเอง ซึ่งอันนั้นไม่มีอะไร แต่ช่วงหลังๆมา คือ นั่งสมาธิแล้วเราเห็นผีมากขึ้น ซึ่งเราก็ไม่ได้อะไร เพราะสัมผัสเรื่องพวกนี้ได้ตั้งแต่เด็ก
แต่เราข้องใจที่ว่า ยิ่งถ้าเรานั่งสมาธิมาก ใจเราสงบ เรายิ่งเห็นเขา มันเกิดจากอะไร


ผีในใจเรา

ในการดำเนินชีวิตคนเรา หากเหตุการณ์อะไรเด่นๆที่เราทำที่เราประสบ สิ่งนั้นๆภาพนั้นๆเหตุการณ์นั้นๆ ก็ค้างเติ่งอยู่ในใจเรา ยิ่งแรงก็ยิ่งฝังลึกจนยากจะลืม สมมติตอนเราเป็นเด็กถูกพ่อแม่ทุบตีด่าว่า นั่นแหละจะมันจะฝังอยู่ในใจเรา พอจิตสงบหรือมีเหตุปัจจัยสะกิด มันจะผุดขึ้นทางมโนทวาร ถ้าเป็นภาพเป็นสิ่งที่ดี เราก็ปลื้มใจภูมิใจ ถ้าเป็นสิ่งไม่ดี เราก็เสียใจน้อยใจ ดังนั้น วิธีกำจัดภาพความรู้สึกทางใจ ท่านให้กำหนดมันตรงๆ ไม่เลี่ยงหนี ไม่เบียนหนีสู้หน้ามัน เห็นหนอ คิดหนอ เสียใจ ดีใจหนอ ตามเรื่องที่ปรากฏ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ส.ค. 2020, 23:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปักหลักไว้ก่อน คิกๆๆ แล้วจะมีตัวอย่างซึ่งนำมาก่อนหน้าแล้วตามมา

สำเหนียก กำหนด, จดจำ, คอยเอาใจใส่, ฟัง, ใส่ใจคิดที่จะนำไปปฏิบัติ, ใส่ใจสังเกตพิจารณาจับเอาสาระเพื่อจะนำไปปฏิบัติให้สำเร็จประโยชน์ (คำพระว่า สิกขา หรือ ศึกษา)

สิกขา การศึกษา, การสำเหนียก, การเรียน, การฝึกฝนปฏิบัติ, การเล่าเรียนให้รู้เข้าใจ และฝึกหัดปฏิบัติให้เป็นคุณสมบัติที่เกิดมีขึ้นในตนหรือให้ทำได้ทำเป็น ตลอดจนแก้ไขปรับปรุงหรือพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปจนถึงความสมบูรณ์, ข้อที่จะต้องศึกษา, ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมพัฒนาบุคคล


กำหนด (-หฺนด) ก. หมายไว้, ตราไว้. น. การหมายไว้, การตราไว้.

ตกไปตัวหนึ่ง

กำหนด หมายไว้,การหมายไว้,

:b12:
คำว่าสิกขาแปลว่าศึกษาจากการฟังโดยตรง
เข้าใจคำว่าตรงไหมคะ ลองคิดสิคำว่าตรงคืออะไร ตรง=ตรง
ถ้าพระพุทธเจ้าพูดว่ามี=มี ถ้าพระพุทธเจ้าพูดว่าไม่มี=ไม่มี ถูก=ถูก ผิด=ผิด
ทีนี้คิดตามนะ ตถาคตพูดว่าไม่มีเรา ให้พูดออกเสียงให้หูได้ยินดังๆว่า ไม่มีเรา คือไม่มีตัวตนจริงๆไม่พูดเล่น
คิดให้มันตรงได้ยินเสียงคำว่า ไม่มีเรา คิดแล้วเข้าใจและรู้สึกตัวตรงคำแล้วคิดว่าไม่มีเราแล้วหรือยังมีเราอยู่
แล้วที่หัวข้อที่ตั้งบอกว่า ท่านให้กำหนดรู้ ท่านหมายถึงใครเพราะตถาคตบอกว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะท่านไหนคะ
พระพุทธเจ้าพูดคำสัตย์คำจริงว่าไม่มีตัวตนทุกกาลทุกเวลาทุกที่ที่ยังมีชีวิตอยู่และตายไปแล้วมีบัญญัติคำไว้
ที่เราน่ะคิดว่ามีตัวตนคือมีอัตตาแปลว่าเราเข้าใจผิดไปเองไม่ฟังให้เข้าใจชัดว่าที่มีอยู่น่ะคือมีอุปาทานขันธ์
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นธัมมะเกิดแล้วดับยึดว่าเป็นตัวเราเพราะคำว่าอัตตาคือความหมายเทียบตัวแต่จริงๆไม่มี
มันจะไปกำหนดรู้ตัวไม่ได้เข้าใจไหมคะว่าพระพุทธเจ้าบอกว่าเดี๋ยวนี้เลยตัวเราไม่มีอยู่จริงเป็นอุปาทานไง
ให้เริ่มคิดนะถ้าวันนี้เราไม่ตั้งต้นที่คำว่าไม่มีเราแล้วก็ถ้าไม่เริ่มต้นฟังจริงๆเราจะทำผิดคิดผิดไปเรื่อยๆเลย
:b12:
:b4: :b4:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 148 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 135 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร